ถอดรหัส "การเมืองแบบไทยๆ" ในมุมมองนักวิชาการ ชี้ "Gen Z" ตัวแปรสำคัญ
"การเมืองแบบไทยๆ" ในมุมมองนักวิชาการ เผย ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร ชี้ "Gen Z" ตัวแปรสำคัญในการเปลี่ยนแปลง สู่วัฒนธรรม ตระหนักรู้ มีส่วนร่วม
เมื่อกล่าวถึงเรื่องการเมือง เรามักจะมีภาพการเมืองที่คุ้นชินในแบบของประเทศตัวเอง แต่ละประเทศมีรูปแบบการเมืองที่สะท้อนออกมาแตกต่างกัน เช่นเดียวกับ “การเมืองไทย” มักเต็มไปด้วยความซับซ้อนจนบางครั้งยากแก่การถอดรหัส
ทำให้ประเทศไทยเองก็มีการเมืองในแบบไทยๆ ที่มักสะท้อนภาพนักการเมืองที่มิได้เคลื่อนไหวบนพื้นฐานของกติกา หากยังมีเรื่องของการต่อรอง อำนาจ และเงาที่คอยเคลื่อนไหวอยู่เบื้องหลัง ภาพเหล่านี้เองที่ทำให้ “การเมืองแบบไทยๆ” กลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ไม่อาจนำมาตรฐานสากลมาอธิบายได้
การเมืองแบบไทยๆ ประชาธิปไตยแบบไทยๆ
โพสต์ทูเดย์ได้มีโอกาสพูดคุยกับอาจารย์ประจำภาควิชารัฐศาสตร์ มศว. รศ.ดร.ศิพิมพ์ ศรบัลลังก์ หรือ อาจารย์กวาง เธอได้แบ่งปันมุมมองต่อคำว่า “การเมืองแบบไทยๆ” โดยเปิดเผยว่า สิ่งที่เราเห็นปรากฏการณ์พัฒนาการทางการเมืองไทยที่ผ่านมา เราก็เป็นการเมืองที่ค่อนข้างล้มลุกคลุกคลานและเราถูก Label โดยผู้สื่อข่าวต่างประเทศว่าประชาธิปไตยของไทย มันเป็นประชาธิปไตยแบบไทยๆ พอเราพูดถึงคำว่าประชาธิปไตยแบบไทย ๆ มันเป็นประชาธิปไตยที่คนทั่วไปก็ไม่ได้เข้าใจในบริบทของประเทศไทย
เมื่อเราเอาแนวความคิดประชาธิปไตยแบบตะวันตกมาสวม ประชาธิปไตยของประเทศไทย ก็จะเป็นภาพที่มีความ Irony ในตัวเอง เพราะว่าความเป็นประชาธิปไตยของเรามันไม่ได้เป็นประชาธิปไตยในแบบที่ตะวันตกมองแต่เราก็มองตัวเองว่าฉันก็เป็นประชาธิปไตยแล้ว
"ฉันก็เป็นประชาธิปไตยแล้ว ฉันก็มีกลไกในการเลือกตั้ง มีระบบรัฐสภา มีการตรวจสอบถ่วงดุล"
มีการเลือกตั้งที่ ให้เสียงประชาชนในการออกมาเลือกผู้ที่เป็นตัวแทน
ถอยหลังกลับ ทบทวน Reset
อย่างที่ทุกคนทราบกันดีการเมืองไทยมีจุดที่ถอยหลังกลับ แล้วก็จุดที่ไปข้างหน้าแต่สักพักมันก็อาจจะถอยหลังกลับอีกครั้งนึง แต่การถอยหลังกลับของเราในแต่ละครั้งมันก็เป็นการทบทวนตัวเองแล้วก็นำไปสู่การ Reset อะไรบางอย่างในประเทศของเรา ซึ่งต่างชาติมองอาจจะไม่ค่อยเข้าใจการถอยหลังกลับของเรา
"แต่ในบริบทของการเมืองไทยเอง เราก็เข้าใจตัวเราเองว่า เออเราคือเรา คือการเมืองไทย เราคือการเมืองแบบไทยๆ "
ไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร
อีกประการนึงก็คือว่าเรื่องของการเปลี่ยนแปลงขั้วอำนาจในการเมืองไทยก็เป็นอะไรที่ Predict ค่อนข้างยาก ไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวรในทางการเมืองไทย ก็อาจจะเป็นสิ่งที่สามารถอธิบายสภาพการเมืองไทยในขณะนี้ได้ดีที่สุด
เพราะว่าการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองสามารถเกิดขึ้นได้ ภายในชั่วระยะเวลาเพียงครึ่งตาเดียวก็เปลี่ยนได้แล้ว คือพอเราพูดว่าการเมืองแบบไทยๆอาจารย์ก็จะไปตีความว่ามันคือประชาธิปไตยแบบไทย ๆ
การพูดถึงเรื่องของประชาธิปไตยแบบไทยๆ Concept มันก็จะไปตรงกับเรื่องของการพัฒนาประชาธิปไตยตามแบบของตะวันตก ซึ่งเมื่อเราพูดถึงการพัฒนาประชาธิปไตยตามตัวแบบตะวันตกมันก็จะมีความ Irony ในสภาพการพัฒนาประชาธิปไตยของเราเอง
ส่วนถ้าเรามองว่าการเมืองแบบไทย ๆ คือการเมืองที่แบบว่ามัน Predict ไม่ได้และการเมืองของเราก็คือยังเป็นการเมืองในแบบเดิม ๆ วัฒนธรรมทางการเมืองของเรายังไม่ได้เปลี่ยนเป็นวัฒนธรรมทางการเมืองที่มีส่วนร่วมจากประชาชนมากนัก
ยุคใหม่ ตัวแปร การคาดเดา การเปลี่ยนแปลง
แน่นอนว่า Gen Z จะเป็นตัวแปรที่สำคัญในการที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เพราะว่าเราจะเห็นบทบาทของคนรุ่นใหม่มากขึ้นในการที่เขา เอ่อ raise ประเด็นทางสังคมหรือว่าในการที่เขาพูดถึงการเมืองเพราะว่าเขาเป็น Young Voter หรืออาจจะเป็น Swing Voterก็ได้
ที่จะทำให้เป็นตัวแปรสำคัญในการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองต่อไป เพราะว่าคนรุ่นใหม่ก็จะมีมุมมองทางการเมืองอีกแบบนึง คงจะไม่ได้มีวัฒนธรรมทางการเมืองแบบที่เราเคยเป็นมา
ดังนั้นวัฒนธรรมทางการเมืองแบบมีส่วนร่วมมันก็จะมีความเข้มข้นมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะโลกมันเปลี่ยนไปแล้วการสื่อสารในบริบทปัจจุบันก็มีความเปลี่ยนแปลงไปด้วยการรับข่าวสารต่าง ๆ
เพราะฉะนั้นทัศนคติหรือ perception ของคนในสังคมในปัจจุบันก็จะมีมุมมองต่อการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไป และมีความตระหนักรู้ในเรื่องของการเมืองมากขึ้น เมื่อเขามีความตระหนักรู้มากขึ้นเขาก็จะรู้สึกหวงแหนในสิทธิในการเลือกตั้งของเขา และเขาจะรู้ว่าการเลือกตั้งของเขามันส่งผลต่อความเปลี่ยนแปลงในสังคม มันส่งผลต่อ การพัฒนาประเทศในมิติต่างๆ
แต่กว่าจะถึงจุดนั้นมันก็อาจจะต้องใช้เวลา เพราะว่าในช่วงนี้เป็นช่วงของการ transit จากวัฒนธรรมทางการเมืองแบบผสม ไปสู่วัฒนธรรมการเมืองที่มีความตระหนักรู้ใน การที่จะเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น ซึ่งก็จะเป็นพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาประชาธิปไตยต่อไปด้วย เพราะว่าหัวใจหลักของการพัฒนาประชาธิปไตยมันก็คือการที่เราเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในทางการเมือง


