ทักษิณถึงศาลฎีกาฯมากับแพทองธารฟังคำสั่งคดีบังคับโทษชั้น14
ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เดินทางถึงศาลฎีกาฯ พร้อมลูกสาว ร่วมฟังคดีบังคับโทษ “ชั้น 14” รพ.ตำรวจ ศาลเตรียมอ่านคำสั่ง 10.00 น.
KEY
POINTS
- ทักษิณถึงศาลฎีกาฯ พร้อมบุตรสาวร่วมฟังคดีบังคับโทษ “ชั้น 14” รพ.ตำรวจ
- ศาลคุมเข้ม ตำรวจ 100 นายตรึงกำลังรอบพื้นที่ จำกัดสิทธิ์เข้า–ออก
- คำพิพากษาสะเทือนการเมือง นักกฎหมายชี้มีหลายฉากทัศน์ ผลสะท้อนถึงเสถียรภาพประเทศ
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 9 กันยายน 2568 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาปรากฏตัวที่ศาลฎีกา สนามหลวง เพื่อฟังคำสั่งบังคับโทษในคดีหมายเลขดำที่ บค.1/2568 หรือที่เรียกกันว่า “คดีชั้น 14” กรณีการพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยมีบุตรสาว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีร่วมเดินทางมาด้วย ท่ามกลางความสนใจจากสื่อมวลชนและประชาชนจำนวนมาก (คลิ๊กชมภาพ)
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กำหนดเวลาอ่านคำสั่งคดีในเวลา 10.00 น. บริเวณรอบศาลมีการรักษาความปลอดภัยเข้มงวด ตำรวจประมาณ 100 นายตรึงกำลัง โดยเฉพาะฝั่งคลองหลอด ศาลกำหนดมาตรการเข้ม อนุญาตเฉพาะคู่ความใช้ประตูด้านหลัง มวลชนรวมตัวเฉพาะพื้นที่ที่กำหนดไว้ และสื่อมวลชนต้องลงทะเบียนล่วงหน้า
คดีนี้มีการไต่สวนพยานรวม 14 ปาก โดยนายวิษณุ เครืองาม เป็นพยานคนสุดท้าย ยืนยันว่าการย้ายตัวนายทักษิณไปโรงพยาบาลตำรวจเพื่อความปลอดภัย ขณะเดียวกันแพทยสภามีมติลงโทษแพทย์ 3 ราย แม้รัฐมนตรีสาธารณสุขจะส่งความเห็นแย้ง
นักกฎหมายประเมินคำวินิจฉัยอาจออกได้ 4 แนวทาง ตั้งแต่รับรองการบังคับโทษชอบด้วยกฎหมาย ไปจนถึงการสั่งส่งตัวกลับเรือนจำและเอาผิดเจ้าหน้าที่ หากพบการปฏิบัติไม่ถูกต้อง สำหรับทักษิณเองมี 3 ฉากทัศน์ ได้แก่ รับโทษเต็ม 8 ปี รับโทษ 1 ปีพร้อมสิทธิเข้าระบบพักโทษ หรือศาลชี้ว่าการบังคับโทษที่ผ่านมาเป็นไปโดยถูกต้องแล้ว
ทั้งนี้ คำพิพากษาดังกล่าวถูกจับตาว่าไม่เพียงเป็นการตัดสินคดีส่วนบุคคล แต่ยังสะท้อนความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม และอาจส่งแรงสั่นสะเทือนต่อเสถียรภาพการเมืองไทยในระยะต่อไป


