“ปิ่นสักก์” โต้ สส.นิติพล ปมให้ข้อมูลเท็จ โครงการหัวหาดเทียมฯ

นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ตามที่  นายนิติพล ผิวเหมาะ สส. พรรคประชาชน ได้สอบถามถึงโครงการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน กิจกรรมติดตั้งหัวหาดเทียมผสมผสานแนวทางในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ว่า เป็นการหลีกเลี่ยงการทำ EIA หรือไม่

 

มีความซ้ำซ้อนกับการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นที่มีอยู่ในพื้นที่หรือไม่ และเป็นการดำเนินการก่อสร้างในพื้นที่ของเทศบาลตำบลปากน้ำปราณ ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกับเทศบาลตำบลปราณบุรี ส่อเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อผู้บริหารเทศบาลตำบลปราณบุรี ซึ่งเป็นคนนามสกุลเดียวกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม

 

  ดังนั้น ขอเรียนชี้แจงว่า ข้อมูลที่นำเสนอดังกล่าวเป็นเท็จ เนื่องจากพื้นที่ดำเนินโครงการเป็นพื้นที่ของเทศบาลตำบลปากน้ำปราณ ซึ่งไม่ได้มีพื้นที่ติดต่อกันกับเทศบาลตำบลปราณบุรี และพื้นที่เทศบาลตำบลปราณบุรีไม่ได้ติดกับชายหาด จึงไม่ได้เป็นการเอื้อประโยชน์ต่อเทศบาลตำบลปราณบุรี และท่าน รมว.ทส. แต่อย่างใด”นายปิ่นสักก์ กล่าว

 

โครงการนี้ เป็นการฟื้นฟูชายหาดที่เสียหายจากที่มีการดำเนินการก่อสร้างกำแพงกันคลื่น ทำให้ชายหาดเสียหาย สูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ และทำให้ประชาชนในพื้นที่ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากชายหาดได้

 

การดำเนินการโครงการดังกล่าวเป็นการดำเนินการโดยใช้แนวคิดธรรมชาติเป็นฐาน (Nature-based solutions) ซึ่งเป็นประเภทโครงการที่ไม่เข้าข่ายต้องจัดทำ EIA และพื้นที่ดำเนินโครงการมีความเหมาะสมและศักยภาพที่สามารถฟื้นฟูชายหาดได้

โดยพิจารณาจากความลาดชันของชายหาด ลักษณะคลื่น ความรุนแรงของคลื่น

 

พร้อมกันนี้ นายปิ่นสักก์ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า โครงการติดตั้งหัวหาดเทียมผสมผสานแนวทางการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กำหนดำเนินการในพื้นที่ หาดปราณบุรี ตำบลปากน้ำปราณ อำเภอปราณบุรี ระยะทาง 500 เมตร ด้วยวัตถุประสงค์ 

 

1.เพื่อฟื้นฟู และรักษาสมดุลของระบบนิเวศชายฝั่งในพื้นที่หาดปราณบุรี

โดยเน้นการเสริมสร้างความสมบูรณ์ของระบบนิเวศให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติ

 

2.เพื่อป้องกันและลดผลกระทบจากการกัดเซาะชายฝั่งอย่างยั่งยืน ด้วยแนวทางที่ใกล้เคียงธรรมชาติ (Nature-based solutions)  

 

3.เพื่อยกระดับคุณภาพสิ่งแวดล้อมทางทะเลให้เหมาะสมกับการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และการใช้ประโยชน์จากชายหาดอย่างยั่งยืนในระยะยาว 

 

4.เพื่อเป็นต้นแบบการจัดการชายฝั่งทะเลอย่างบูรณาการ โดยคำนึงถึงความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคมในระดับท้องถิ่น และระดับประเทศ

สำหรับรูปแบบการฟื้นฟูและรักษาความสมดุลของระบบนิเวศชายฝั่งทะเล ประกอบด้วย 4 ระบบ ได้แก่  

1.ระบบนิเวศชายหาด โครงการเติมทรายและการสร้างเนินทรายชายฝั่ง

 

2.ระบบนิเวศหาดหิน โดยใช้องค์ประกอบของโครงสร้างที่มีผลกระทบน้อย

 

3. ระบบนิเวศชายฝั่งพื้นที่ใต้น้ำตื้น ทำการฟื้นฟูสันดอนทราย หรือ Sand Bar 

 

4.ระบบนิเวศป่าชายหาด ปลูกต้นไม้ป่าชายหาดและพืชคลุมดินเพื่อรักษาเสถียรภาพของชายฝั่ง

 

โดยมีระยะเวลาดำเนินการ ปีงบประมาณ 2569 – 2570 ใช้งบประมาณรวม 64,520,400 บาท ซึ่งหลังเสร็จสิ้นโครงการจะทำให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์ชายหาดเพื่อการพักผ่อนและสันทนาการ และมีระบบนิเวศชายหาดที่อุดมสมบูรณ์ขึ้น”นายปิ่นสักก์ กล่าว