ผลGBCกัมพูชาเห็นพ้องข้อตกลงไทยเสนอครม.เคาะก่อนลงนาม7ส.ค.68
ศบ.ทก. เผยผลถก GBCไทย-กัมพูชาบรรลุข้อตกลงเตรียมเสนอสภาความมั่นคงฯ และครม.วาระพิเศษ ก่อนรมช.กลาโหมบินร่วมประชุมมาเลเซีย 7 ส.ค.นี้
KEY
POINTS
- ไทย-กัมพูชาเห็นพ้องร่างข้อตกลง GBC เตรียมเสนอเข้าสู่ที่ประชุมความมั่นคงแห่งชาติ
- กำหนดหารือใน ครม.วาระพิเศษวันนี้ ก่อน รมช.กลาโหมบินไปมาเลเซีย
- กระบวนการตรวจสอบเอกสารใกล้เสร็จสมบูรณ์ เตรียมชงลงนามอย่างเป็นทางการ7สิงหาคม68
เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2568 พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงข่าวถึงความคืบหน้าการประชุมร่วมภายใต้กรอบคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ระหว่างฝ่ายเลขานุการไทย-กัมพูชา ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ช่วงค่ำวานนี้ถึงเที่ยงคืนที่ผ่านมา โดยล่าสุดทั้งสองฝ่ายสามารถตกลงร่างข้อตกลงร่วมกันได้เรียบร้อย
ฝ่ายไทยได้นำผลการหารือเสนอให้ประธาน ศบ.ทก. พิจารณา เพื่อบรรจุเข้าสู่วาระสภาความมั่นคงแห่งชาติในช่วงบ่ายวันนี้ ซึ่งตรงกับการประชุมคณะรัฐมนตรีวาระพิเศษด้วย ทั้งนี้เพื่อเตรียมพร้อมก่อนที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมจะเดินทางเข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีในมาเลเซีย วันที่ 7 สิงหาคม 2568
โดยเมื่อเวลา 10:10 น. ของวันที่ 6 สิงหาคม การประชุมของฝ่ายเลขานุการสองประเทศยังคงดำเนินต่อไปด้วยบรรยากาศเชิงบวก อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดเอกสารร่างข้อตกลง ก่อนเสนอให้ประธาน GBC พิจารณาเพื่อนำไปสู่ขั้นตอนลงนามอย่างเป็นทางการในวันถัดไป (คลิ๊มชมการถ่ายทอดสด)
เปิด8เงื่อนไขหยุดปะทะก่อนถกGBC
ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เตรียมนั่งหัวหน้าการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เพื่อสรุปแนวทางและเงื่อนไข 8 ข้อ ที่จะใช้เป็นกรอบเจรจากับฝ่ายกัมพูชาในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย–กัมพูชา (GBC) ที่จะจัดขึ้นในประเทศมาเลเซีย วันที่ 7 ส.ค.นี้ โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นหัวหน้าทีมเจรจาของฝ่ายไทย
ทั้ง 8 ข้อเสนอมีเป้าหมายเพื่อยุติความรุนแรง และลดความตึงเครียดตลอดแนวชายแดน โดยเริ่มจาก การตกลงหยุดยิงโดยเด็ดขาด ในพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง, คุ้มครองประชาชน โดยห้ามโจมตีพื้นที่พลเรือน, งดเสริมกำลังและยุทโธปกรณ์, ห้ามเคลื่อนย้ายกำลังพล ที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด รวมถึง อำนวยความสะดวกในการส่งกลับผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต จากเหตุปะทะที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ไทยยังเสนอให้มี การจัดตั้งคณะทำงานประสานงานเฉพาะกิจฝ่ายละ 4 นาย เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ทันที และมีการเสนอ ปรับกำลังทหารในพื้นที่พิพาท เพื่อลดการเผชิญหน้าโดยตรง ซึ่งอาจเป็นต้นเหตุของความรุนแรง
ท้ายที่สุด หากทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องต้องกันในหลักการ อาจมีการ ลงนามในข้อตกลงร่วม ที่มีผลในระดับนโยบายของทั้งสองประเทศ เป็นแนวทางสู่การแก้ปัญหาที่ยั่งยืน


