ภูมิใจไทยเสี่ยงสะเทือน! ปมรุกที่เขากระโดง-ฮั้วสว. ร้อนระอุ
ภูมิใจไทยถูกล้อมกรอบสองด้าน ทั้งปมที่ดินรัฐ “เขากระโดง” กับคดีฮั้ว สว. ที่อาจลากยาวถึง “ยุบพรรค” กลายเป็นศึกใหญ่เขย่ากระดานการเมือง
ภูมิใจไทย: ยุทธการรุกฆาตเขาพนมกระโดง-ฮั้ว สว.
สองศึกใหญ่กำลังไล่บี้พรรคภูมิใจไทยแบบประชิดตัว ทั้งปมครอบครองที่ดินรัฐ “เขาพนมกระโดง” และข้อกล่าวหาฮั้วสมาชิกวุฒิสภา ที่อาจโยงไปถึงการยุบพรรค
ที่ดินเขากระโดง: มรดกร้อนจากรัชกาลที่ 6
ข้อพิพาทที่ดินเขากระโดงกว่า 5,000 ไร่ ใน จ.บุรีรัมย์ ปะทุอีกครั้ง หลังคำพิพากษาศาลระบุชัดว่าเป็นที่ราชพัสดุของ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ซึ่งได้รับพระราชทานจาก รัชกาลที่ 6
แต่กลับพบว่าที่ดินบางส่วน (178 ไร่) ถูกออกโฉนด และโอนขายให้กับ นายชัยชนก ชิดชอบ เครือญาติของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีตรัฐมนตรีคมนาคม-มหาดไทย และแกนนำพรรคภูมิใจไทย โดยช่วงเวลาดังกล่าว นายศักดิ์สยามอยู่ในตำแหน่งที่มีอำนาจกำกับทั้ง รฟท. และกรมที่ดิน
ฝ่ายพรรคภูมิใจไทยยืนยันว่าเป็นการปกป้องผลประโยชน์ชาวบ้าน ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีมหาดไทยคนปัจจุบัน ย้ำให้ปฏิบัติตามคำตัดสินของศาล และเร่งรัดให้ตรวจสอบตามหลักกฎหมาย
ข้อกล่าวหาฮั้วสว.: ลูกระเบิดเวลาการเมือง
อีกด้านหนึ่ง คณะอนุกรรมการ กกต. เสนอให้ดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้อง 229 ราย ฐานสมรู้ร่วมคิดคัดเลือก ส.ว. โดยระบุว่ามี 138 คน เป็น ส.ว. ปัจจุบัน และอีก 91 คน มีความเชื่อมโยงกับพรรคภูมิใจไทยหรือเครือข่าย
การกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. และ รัฐธรรมนูญ ซึ่งมีโทษถึงขั้น จำคุก–ห้ามดำรงตำแหน่งการเมือง–ยุบพรรค
ขณะเดียวกัน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กำลังขยายผลการสอบสวนเส้นทางการเงิน รวมถึงพฤติการณ์ที่อาจเข้าข่ายฟอกเงินหรืออาชญากรรมทางการเมืองในหลายจังหวัด โดยมีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมากถูกเรียกสอบ
ปลายทางการเมือง: ยุบพรรคหรือฟื้นศรัทธา
ทั้ง 2 คดีใหญ่กำลังเคลื่อนไหวคู่ขนาน โดยหนึ่งอยู่ในกระบวนการยุติธรรม (คดีที่ดิน) และอีกหนึ่งอาจถูกส่งเข้าสู่ ศาลรัฐธรรมนูญ หาก กกต. มีมติเห็นชอบในข้อเสนอของคณะอนุกรรมการ
คดีเหล่านี้ไม่เพียงแต่กระทบชื่อเสียงของพรรคภูมิใจไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นบททดสอบความเข้มแข็งของสถาบันการเมืองไทย ว่าจะยืนอยู่บน “หลักนิติธรรม” หรือถูกกลืนด้วย “ผลประโยชน์แฝงซ้อน”


