ย้อนไทม์ไลน์ปมวุฒิการศึกษาหมอเกศ กกต.ฟันอาญาใช้ศาสตราจารย์เก๊

เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2568 นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ "ทนายอั๋น บุรีรัมย์" เปิดเผยภายหลังเข้ายื่นเอกสารต่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า ได้รับหนังสือคำวินิจฉัยของ กกต. ลงวันที่ 18 ก.ค. ระบุชัดว่า มีมติให้ดำเนินคดีอาญากับ พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จากกรณีใช้คำว่า “ศาสตราจารย์” ประกอบการสมัครเข้ารับการสรรหา ส.ว. ซึ่งเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา

“หมดเวลาเธอแล้ว” ทนายอั๋นประกาศกลาง กกต. ระบุเป็นผู้ยื่นคำร้องตั้งแต่แรก ตั้งข้อสังเกตเรื่องวุฒิการศึกษาระดับปริญญาเอก จนท้ายที่สุด พญ.เกศกมล เลือกใช้คำว่า “ศาสตราจารย์” แทนในการสมัครรับการคัดเลือก และถูก กกต.ชี้ว่าเป็นการให้ข้อมูลเท็จ

พร้อมกันนี้ ทนายอั๋นย้ำว่า กกต.ควรส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งภายในวันที่ 25 ก.ค.นี้ เพราะไม่มีเหตุใดที่ควรดึงเรื่องไว้ หลังจากที่ผู้ร้องได้รับหนังสือคำวินิจฉัยครบถ้วนตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา

ไทม์ไลน์: ปมวุฒิการศึกษา “หมอเกศ” จากหมอสู่นักการเมือง – สู่คำร้อง กกต.

21 ก.พ. 68: ทนายอั๋นยื่นร้องเรียนต่อ กกต. ขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติของ พญ.เกศกมล กรณีวุฒิการศึกษาต่างประเทศที่ไม่ปรากฏอยู่ในระบบเทียบเท่าของสำนักงาน ก.พ.

ข้อสงสัย: วุฒิปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ หากไม่ได้รับการรับรอง อาจเข้าข่าย “ขาดคุณสมบัติ” ในการลงสมัคร ส.ว.

คำชี้แจงก่อนหน้า: พญ.เกศกมลเคยโพสต์ว่า สำเร็จการศึกษาด้านจิตวิทยาจากต่างประเทศ มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยชอบ แต่การใช้คำว่า “ศาสตราจารย์” ถูกตั้งข้อสังเกตว่าหลอกลวง

มติ กกต.: เห็นว่าการใช้คำนำหน้า “ศาสตราจารย์” เพื่อประโยชน์ในการสมัคร ถือว่ามีความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง และเข้าข่ายความผิดอาญา

บทลงโทษตามกฎหมาย: จำคุก 10 ปี และตัดสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี