posttoday

เศรษฐา เชื่อแพทองธารเจตนาบริสุทธิ์ หนุนชัยเกษมหากเปลี่ยนนายกฯ

19 กรกฎาคม 2568

อดีตนายกฯ“เศรษฐา ทวีสิน”ไม่เห็นด้วยยุบสภา ชี้ควรเร่งเดินหน้างบประมาณ-ภาษีทรัมป์ก่อนหากต้องเปลี่ยนนายกฯ ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญทุกขั้นตอน

KEY

POINTS

  • นายเศรษฐา ทวีสิน แสดงความเชื่อมั่นในเจตนาบริสุทธิ์ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร กรณีคลิปเสียงฮุนเซน
  • ไม่เห็นด้วยกับการยุบสภาในสถานการณ์ปัจจุบัน เนื่องจากประเทศมีภารกิจเร่งด่วนที่ต้องจัดการ
  • หากมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐาสนับสนุน นายชัยเกษม นิติสิริ เป็นผู้ที่เหมาะสม
  • ยอมรับว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันมีความเปราะบางและขาดเสถียรภาพ ซึ่งอาจกระทบต่อความเชื่อมั่น

นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี แสดงความเห็นต่อสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน ผ่านรายการคมชัดลึก "ผ่าทางตันประเทศไทย" (คลิ๊กชมรายการ)  เน้นย้ำถึง “ความจำเป็นในการรักษาเสถียรภาพทางการเมือง” และเชื่อมั่นใน“เจตนาบริสุทธิ์” ของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต่อกรณีคลิปเสียงฮุนเซนจนนำไปสู่มติศาลรัฐธรรมนูญที่สั่งให้หยุดปฎิบัติหน้าที่ชั่วคราว เพื่อรอคำวินิฉัย "หากการทำงานตั้งอยู่บนความบริสุทธิ์ใจและความถูกต้อง ก็ไม่ควรถูกตัดสินจากผลลัพธ์ทางการเมืองหรือกระแสกดดันใดๆ"

นายเศรษฐา แสดงความไม่เห็นด้วยกับการยุบสภา ถูกจัดเป็นเรื่องไม่ควรเร่งรีบในสถานการณ์ปัจจุบันเพราะประเทศยังมีภารกิจเร่งด่วนที่ต้องจัดการ อาทิ การพิจารณางบประมาณแผ่นดิน และการรับมือกับนโยบายภาษีของสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจไทย การยุบสภาจะสร้างสุญญากาศทางการเมืองและกระทบต่อความเชื่อมั่นของประเทศ

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ น.ส.แพทองธาร หยุดปฏิบัติหน้าที่ นายเศรษฐาระบุว่า กระบวนการเปลี่ยนผ่านต้องเป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ โดยพรรคร่วมรัฐบาลจะร่วมกันเสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสมเข้ารับตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรี
 

ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐาให้การสนับสนุนนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตของพรรคเพื่อไทย โดยให้เหตุผลว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถและมีความเหมาะสมที่จะนําประเทศเดินหน้าต่อในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ

หากนายชัยเกษมได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หน้าที่สำคัญลำดับแรกคือการดำเนินการให้ร่างงบประมาณและมาตรการภาษีต่างประเทศแล้วเสร็จ ก่อนวางกรอบเวลาชัดเจนในการคืนอำนาจให้ประชาชนผ่านการเลือกตั้งทั่วไป

อดีตนายเศรษฐายอมรับว่า รัฐบาลชุดปัจจุบันมีความเปราะบาง ทั้งจากจำนวนเสียงในสภาที่ไม่มั่นคง และจากการมีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีถึง 3 รายจากพรรคเดียวกัน ซึ่งอาจกระทบต่อเสถียรภาพและความเชื่อมั่นของรัฐบาลในสายตาประชาชน

"สิ่งที่ควรมาก่อนในสถานการณ์นี้คือการบริหารด้วยสติและความจริงใจ” โดยขอให้ทุกฝ่ายยึดหลักรัฐธรรมนูญ ไม่ใช้ความเร่งรีบหรือการเมืองเล่นเกมเพื่อผลประโยชน์ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง พร้อมเสนอให้จัดลำดับความสำคัญแห่งรัฐ เร่งเดินหน้างบประมาณ เจรจานโยบายต่างประเทศ แล้วจึงค่อยเปิดทางให้ประชาชนตัดสินอนาคตประเทศด้วยตนเอง" อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าว

ข่าวล่าสุด

บอลวันนี้ ดูบอลสด ถ่ายทอดสด โปรแกรมฟุตบอล วันจันทร์ที่ 15 ธ.ค. 68