เปิดเอกสาร 'ทิวา' ยื่นกกต.ชงยุบเพื่อไทย-พรรคร่วม ปมคลิปเสียง
เปิดเอกสาร 'ทนายทิวา' ยื่นกกต. ร้อง ยุบ พรรคเพื่อไทย-พรรคร่วมรัฐบาล ชี้ นายกฯเป็นภัยต่อความมั่นคง ปมคลิปเสียง 'อังเคิล-หลานอิ๊งค์'
นายทิวา การกระสัง ทนายความ ยื่นหนังสือร้องเรียนถึง กกต.ขอให้พิจารณาส่งคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อยุบพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาล โดยอ้างว่า การกระทำของนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ ฝ้าฝืนต่อมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง พร้อมหลักฐานสำคัญเป็นคลิปเสียงการสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ยอมรับว่าเป็นของจริง และการประชุมสั่งการของนายกรัฐมนตรีที่จังหวัด สุรินทร์ให้ประเทศไทยเปิดด่านพร้อมกัมพูชา
หนังสือดังกล่าว ระบุว่า เมื่อเหตุการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ได้เริ่มจากการยัวยุของฝ่ายกัมพูชา และมีการปะทะกันระหว่างทหารของทั้งสองประเทศ โดยฝ่ายกัมพูชาอ้างสิทธิเหนือดินแดนช่องบก ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควายที่เป็นข้อพิพาท และมีการเพิ่มกำลังทหารบริเวณชายแดนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรัฐบาลไทยโดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กลับไม่ได้ดำเนินมาตรการที่เหมาะสมในการตอบโต้ทางการทูต เนื่องจากความสนิทสนมเป็นการส่วนตัวกับตระกูลฮุน ผู้นำประเทศกัมพูชา
ประเด็นข้อกล่าวหาตามร้องเรียน คลิปเสียงการสนทนา ระหว่าง นายกฯ และสมเด็จ ฮุนเซน แสดงให้เห็นว่า นายกรัฐมตรีมีเจตนาเอื้อประโยชน์ให้ฝ่ายกัมพูชาเกี่ยวกับการเปิด-ปิดด่านชายแดน /วิจารณ์เชิงลบต่อฝ่ายกองทัพไทยว่าเป็นฝ่ายตรงข้าม /นำความลับ มาตรการของประเทศเผยแพรให้ผู้นำรัฐต่างชาติทราบ / ไม่คำนึงถึงถึงผลประโยชน์ของชาติเจรจาต่อรองเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ถือว่า ฝ่าฝืนต่อมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
นอกจากนี้ยังมีคลิปภาพและเสียงยืนยันการยอมรับของนายกรัฐมนตรึ ซึ่งนายกรัฐมนตรียอมรับต่อสาธารณะว่าคลิปเสียงเป็นของจริง ขณะที่การดำเนินการที่สวนทางกับผลประโยชน์ชาติ รัฐบาลปล่อยให้กองทัพดำเนินการฝ่ายเดียวโดยไม่ดำเนินมาตรการทางการทูตที่เหมาะสม ไม่รักษาไว้ซึ่งผลประโยชน์ของประเทศไทย ให้เปิดด่านตามข้อเรียกร้องของของฮุนเซน ทำให้ไทยเสียข้อต่อรองกับประเทศกัมพูชา เนื่องจาก ความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างตระกูลชินวัตรและสมเด็จฮุนเซน ความสัมพันธ์ส่วนตัวส่งผลกระทบต่อการบริหารราชการแผ่นดินและผลประโยชน์ของชาติ
ส่วนสาเหตุที่ต้องร้องเรียนให้ยุบพรรคเพื่อไทย เนื่องจากนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ถูกกล่าวหาว่าปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ปกป้องอธิปไตยและผลประโยชน์ชาติ ขัดรัฐธธรรมนูญและกฎหมายอื่นๆ อย่างร้ายแรง ซึ่งถือเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ และเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
เมื่อปรากฏข่าวดังกล่าว คณะกรรมการบริหารพรรคต่างนิ่งเฉย ยังคงสนับสนุนให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป ถือว่า เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ส่วนสาเหตุที่ต้องให้ยุบพรรคร่วมรัฐบาล เนื่องจากพรรคร่วมรัฐบาล (ได้แก่ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคกล้าธรรม พรรคประชาธิปัตย์ พรรคประชาชาติ พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคอื่นๆ) มีมติสนับสนุนนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป แม้ทราบถึงการกระทำที่เป็นภัยภัยต่อความมันคง เพื่อประโยชน์ในการเข้าร่วมรัฐบาลและการจัดสรรโควต้ารัฐมนตรี จึงเป็นการกระทำที่อาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยฯ
ทั้งนี้ ขอให้ กกต. ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณายุบพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาลที่สนับสนุนการกระทำดังกล่าว ขอให้มีการเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล
โดยการร้องเรียนดังกล่าว เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราขอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 52, 161, 164 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 20, 21, 22, 45, 92 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119, 120, 157
ท้ายที่สุด นายทิวา การกระสัง ขอให้ กกต. เร่งดำเนินการในเรื่องดังกล่าวโดยเร็ว เพื่อปกป้องความมั่นคงของประเทศ และป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายร้ายแรงถึงขั้นต้องสูญเสียดินแดน เหมือนในกรณีเขาพระวิหารในอนาคต
ที่มา:กรุงเทพธุรกิจ


