ปปง.ยึดทรัพย์เพิ่ม! ดิไอคอนกรุ๊ป 160 ล้าน ทนายตั้ม 6 ล้าน
ปปง. แถลงผลงานยึดทรัพย์ 3 เดือน 123 คดี มูลค่าทรัพย์สินกว่า 3,260 ล้านบาท "ดิไอคอนกรุ๊ป" โดนเพิ่ม 160 ล้าน ทนายตั้ม 6 ล้าน
สำนักงาน ปปง. แถลงผลการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินตามมติคณะกรรมการธุรกรรม ในรอบเดือนเมษายน ถึง มิถุนายน 2568
รวมผลการดำเนินการกับทรัพย์สินจำนวน 4,064 รายการ 123 รายคดี มูลค่าทรัพย์สินกว่า 3,260 ล้านบาท และมอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทรัพย์สิน 136 รายคดี
16 มิ.ย.2568 นายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการ ปปง. และโฆษกประจำสำนักงาน ปปง. แถลงผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรมในเดือนเมษายน 2568 ถึงเดือนมิถุนายน 2568 ซึ่งมีนายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. เป็นกรรมการและเลขานุการ
โดยคณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติให้ดำเนินการกับทรัพย์สินตามความผิดมูลฐาน เช่น ยาเสพติด ฉ้อโกงประชาชน ฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ และพนันออนไลน์ สรุปผลการดำเนินการที่น่าสนใจดังนี้
1. ยึดและอายัดทรัพย์สิน จำนวน 27 รายคดี ทรัพย์สิน 1,016 รายการ พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 833 ล้านบาท โดยเป็นทรัพย์สินในคดีสำคัญ ดังนี้
- รายคดี นางสาวอรอมลฯ กับพวก เป็นกรณีการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดพื้นที่แนวชายแดนภาคเหนือ โดยสืบสวนขยายผลจับกุมเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดอย่างต่อเนื่อง
และพบความเชื่อมโยงว่ามีการนำเงินที่ได้จากขบวนการค้ายาเสพติดไปจำหน่าย จ่าย โอน และซื้อทรัพย์สินจำนวนมาก ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 76 รายการ (เช่น ที่ดิน ทองรูปพรรณ เงินสด และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร) รวมมูลค่าประมาณ 12 ล้านบาท (คำสั่ง ย. 134/2568)
- รายคดี นายษิทราฯ กับพวก (เพิ่มเติม) กรณีความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการฉ้อโกง อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ และความผิดฐานฟอกเงิน
โดยคณะกรรมการธุรกรรมได้เคยมีคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินไว้แล้ว จำนวน 3 รายการ รวมมูลค่าประมาณ 71 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลแพ่ง
ในการนี้ มีการดำเนินการยึดและอายัดทรัพย์สินซึ่งตรวจพบในอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ (เพิ่มเติม) จำนวน 25 รายการ (เช่น สินค้าแบรนด์เนม และสิทธิเรียกร้องตามสัญญาซื้อขายรถยนต์) รวมมูลค่าประมาณ 6 ล้านบาท (คำสั่ง ย. 116/2568)
- รายคดี นางชยาวรรณฯ กับพวก กรณีความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน และฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ โดยมีการหลอกลวงผู้เสียหายและประชาชนให้โอนเงินร่วมลงทุน
ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 40 รายการ (เช่น สินค้าแบรนด์เนม ที่ดิน และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร) รวมมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท (คำสั่ง ย. 118/2568)
- รายคดี บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด กับพวก (เพิ่มเติม) กรณีดังกล่าวเป็นความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน โดยคณะกรรมการธุรกรรมได้เคยมีคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินไว้แล้วจำนวน
หน้าที่
5 ครั้งรวมทรัพย์สิน 165 รายการ ราคาประเมินประมาณ 450 ล้านบาท และส่งเรื่องให้พนักงานอัยการ พิจารณายื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเกี่ยวกับทรัพย์สินดังกล่าว รวม 2 สำนวนคดี
ตามคดีหมายเลขดำที่ ฟ.3/2568 และหมายเลขดำที่ ฟ.54/2568 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลแพ่ง
ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด (เพิ่มเติม) จำนวน 281 รายการ (เช่น กระเป๋า นาฬิกา สินค้าแบรนด์เนม และยานพาหนะ) รวมมูลค่าประมาณ 160 ล้านบาท (คำสั่งย.122/2568)
- รายคดี นายธัณย์ศรุตฯ กับพวก กรณีลักลอบจัดให้มีการเล่นพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยติดต่อผ่านแอปพลิเคชันไลน์ มีการตั้งกลุ่มเฉพาะ ส่งข้อมูล และใช้วิธีการถ่ายทอดสด (Live) เล่นการพนันประเภทต่าง ๆ
ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 153 รายการ (เช่น สินค้าแบรนด์เนม เงินสด วัตถุมงคล และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร) รวมมูลค่าประมาณ 11 ล้านบาท (คำสั่ง ย. 114/2568)
- รายคดี นายนรายุทธฯ กับพวก กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนขยายผลเครือข่าย เว็บพนันออนไลน์ จากการตรวจสอบพบข้อมูลการโอนเงินที่มีพฤติการณ์หลีกเลี่ยงการถูกตรวสอบ มีการฝาก-ถอน ผ่านระบบรับชำระเงินออนไลน์ และส่งต่อไปยังบัญชีม้าของเครือข่ายพนันออนไลน์ ผลการตรวจค้นเครือข่ายผู้กระทำความผิด พบทรัพย์สินจำนวนมาก
ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรม มีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 53 รายการ (เช่น ที่ดิน ห้องชุด ยานพาหนะสินทรัพย์ดิจิทัล และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร) รวมมูลค่าประมาณ 488 ล้านบาท (คำสั่ง ย. 133/2568)
- รายคดี กลุ่มบุคคลผู้ร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันทางอิเล็กทรอนิกส์ (รายนายพิทยาฯ) กับพวก ซึ่งกรณีดังกล่าวคณะกรรมการธุรกรรมได้เคยมีคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินไว้แล้วกว่า 700 รายการ รวมมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 100 ล้านบาท (คำสั่ง ย.7/2568)
ในการนี้ จากการตรวจพบทรัพย์สินที่กระทำความผิดเพิ่มเติม คณะกรรมการธุรกรรมจึงมีคำสั่งให้ยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 41 รายการ (ที่ดิน) รวมมูลค่าประมาณ 89 ล้านบาท (คำสั่ง ย. 127/2568)


