เปิดอันดับ 10 กระทรวง ได้รับจัดสรรงบประมาณปี 2569 สูงสุด
เปิดงบประมาณ ปี 2569 เรียง 10 กระทรวงได้รับจัดสรรงบฯ มากที่สุด เตรียมเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญวันที่ 28 – 30 พ.ค.68
งบรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ที่กำลังเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วาระแรก ระหว่างวันที่ 28-30 พฤษภาคม 2568 วงเงิน 3,780,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงบประมาณรายจ่ายปี 2568 จำนวน 27,900 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.7
จากเอกสารร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ พ.ศ.2569 ที่สำนักงบประมาณได้เผยแพร่ลงเว็บไซต์นั้น พบว่า กระทรวง 10 อันดับแรก ที่ได้รับจัดสรรมากสุดตามลำดับดังนี้
1.งบกลาง จำนวน 632,968 ล้านบาท ลดลงจากปี 2568 จำนวน 209,032 ล้านบาท
2.กระทรวงการคลัง จำนวน 397,856 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2568 จำนวน 8,197 ล้านบาท
3.กระทรวงศึกษาธิการ จำนวน 355,108 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2568 จำนวน 14,333 ล้านบาท
4.กระทรวงมหาดไทย จำนวน 301,265 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2568 จำนวน 6,852 ล้านบาท
5.กระทรวงกลาโหม จำนวน 204,434 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2568 จำนวน 4,713 ล้านบาท
6.กระทรวงคมนาคม จำนวน 200,756 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2568 จำนวน 7,403 ล้านบาท
7.กระทรวงสาธารณสุข จำนวน 177,639 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2568 จำนวน 5,673 ล้านบาท
8.กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม จำนวน 140,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2568 จำนวน 8,058 ล้านบาท
9.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำนวน 130,111 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2568 จำนวน 7,483 ล้านบาท
10.กระทรวงแรงงาน จำนวน 68,069 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2568 จำนวน 21.5 ล้านบาท
ทั้งนี้ คาดว่าจะจัดเก็บรายได้ประเภทต่างๆ จำนวน 3,494,900 ล้านบาท แต่เมื่อหักลดภาระการคืนภาษีต่างๆ แล้วจะคงเหลือเป็นรายได้สุทธิจำนวน 2,920,600 ล้านบาท แต่เนื่องจากเมื่อประมาณการรายจ่ายจะสูงกว่ารายได้สุทธิ จำนวน 860,000 ล้านบาท จึงมีการกำหนดจำนวนดังกล่าวให้เป็นเงินกู้ ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 22.7 ของประมาณการรายรับ
ซึ่งร่าง พ.ร.บ. งบประมาณฉบับนี้ จะเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญวันที่ 28 – 30 พ.ค.68 โดยมีการตั้งกรรมาธิการเพื่อพิจารณา 72 คน โดยมีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เป็นประธาน
โดยเป็นกรรมาธิการฯ ครม.เสนอชื่อ จำนวน 18 คน ซึ่งเป็นจำนวนไม่เกินหนึ่งในสี่ของจำนวนคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ในสัดส่วนพรรคการเมือง จำนวน 54 คน และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายค้าน จำนวน 19 คน ซึ่งจะมีการคัดเลือกตามกระบวนการของฝ่ายนิติบัญญัติต่อไป


