สัญญายื่นสภา ตั้ง กมธ.วิสามัญ สอบใช้อำนาจรัฐ ขัดหลักนิติธรรม

นายสัญญา สถิรบุตร อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหลายสมัย เตรียมยื่นจดหมายถึงนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ในวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 เวลา 10.00 น. เพื่อเสนอให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาปัญหาการใช้อำนาจรัฐในลักษณะที่ขัดต่อหลักการประชาธิปไตย นิติธรรม และความโปร่งใส โดยมีรายละเอียดดังนี้:

1. กรณีคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 143/2562: คำสั่งลับที่ไม่สามารถตรวจสอบได้โดยสาธารณะนี้ ถูกระบุว่าเป็นตัวอย่างของการใช้อำนาจโดยไม่เปิดเผย และอาจนำไปสู่การแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม

2. กรณีโครงการโฮปเวลล์: โครงการนี้มีความซับซ้อนเกี่ยวกับการอนุมัติ การเพิกถอน และการอนุญาตต่อสัมปทานโดยรัฐ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการจัดการหนี้สินของประเทศ และเกิดข้อกังขาในเชิงกฎหมายรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะการใช้ดุลยพินิจของฝ่ายบริหารในการยกเลิกคำพิพากษาที่มีผลเป็นที่สุดแล้ว

3. กรณีเขากระโดง: กรณีนี้เกี่ยวพันกับการจัดสรรที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย และการตัดสินของศาลปกครองสูงสุด ซึ่งถูกมองว่ารัฐพยายามละเลยคำตัดสินและเดินหน้าโครงการต่อโดยไม่คำนึงถึงกฎหมาย

กรณีดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความไม่ชัดเจนของอำนาจรัฐระหว่างฝ่ายบริหาร ฝ่ายตุลาการ และองค์กรอิสระ รวมถึงกระบวนการบังคับใช้กฎหมายที่ทับซ้อน ซึ่งทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นในระบบ

ข้อเรียกร้องหลัก นายสัญญา ประกอบด้วย 

การตั้งกรรมาธิการวิสามัญ: ขอให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญที่มีสมาชิกจากทุกพรรคการเมือง เข้าร่วมศึกษาปัญหาโครงสร้างอำนาจที่กระทบต่อความยุติธรรม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกรณีเช่นนี้อีกในอนาคต

การตรวจสอบรายงานการบังคับใช้กฎหมาย: ขอให้มีการตรวจสอบรายงานการบังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะในโครงการก่อสร้างหรือสัมปทานที่ใช้งบประมาณแผ่นดิน และมีข้อโต้แย้งทางกฎหมายหรือคำพิพากษา

ทั้งนี้ นายสัญญา และคณะชี้ว่าการใช้อำนาจของรัฐในลักษณะดังกล่าว ไม่เพียงแต่ขัดต่อหลักนิติธรรม แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณลบต่อนักลงทุนและนักธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ที่มองเห็นความไม่แน่นอนในระบบกฎหมายของไทย ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น (Trust) และความมั่นใจ (Confidence) ของสังคมไทย และย้ำว่าควรมีระบบตรวจสอบและกลไกถ่วงดุลที่แท้จริงในทุกกรณีที่รัฐใช้อำนาจอย่างมีผลกระทบสูง