posttoday

"ณฐพร"ส่งทนายยื่นกกต.ขอศาลรธน.มีคำสั่ง138สว.หยุดทำหน้าที่

21 พฤษภาคม 2568

ณฐพร โตประยูร ส่งทนายร้องกกต.ส่งศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาสำนวนคดีฮั้วเลือกสว.สั่ง138สมาชิกสภาสูงหยุดปฎิบัติหน้าที่

เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่งทีมกฎหมายนำเอกสารคำร้องขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. พิจารณาส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพของวุฒิสภาตามมาตรา 82 เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ สว. หยุดปฎิบัติหน้าที่  หลังกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ กกต. สืบสวนร่วมกันจนพบพยานหลักฐานในขบวนการฮั้ว รวมทั้งจากการสอบปากคำพยานบุคคล ,พยานแวดล้อม , พยานผู้เชี่ยวชาญวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ รวมถึงมีการตรวจสอบข้อมูลทางธุรกรรมบุคคลในขบวนการจำนวน 12,000 คน และ ตรวจสอบผู้ใช้โทรศัพท์อีก 20,000 เลขหมาย ก็พบความผิดปกติเรื่องการฮั้ว

อีกทั้งจากการสอบพยานในที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นผู้ที่พบโพยลงคะแนน รวมถึงสถานที่ที่ใช้ในการนัดหมายพูดคุยเรื่องฮั้ว อีกทั้งยังมีหลักฐานจากเทคโนโลยีประดิษฐ์หรือ AI เข้ามาตรวจสอบจนพบข้อมูลเชิงประจักษ์ และสรุปได้ว่า สว.จำนวน 138 คน มีพฤติการณ์กระทำอยู่ภายใต้พรรคภูมิใจไทย
 
ทั้งนี้ ในเอกสารคำร้องยังระบุว่า นับตั้งแต่สว.เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ พบว่า ไม่มีความเป็นกลางเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคภูมิใจไทย และ กลุ่มบุคคลที่มีอิทธิพลภายในพรรคดังกล่าว บางช่วงของเอกสารคำร้อง ยังระบุว่า การปฏิบัติหน้าที่ของ สว. กลุ่มนี้ อาศัยเสียงข้างมากในสภาคัดเลือกประธานวุฒิสภา รองประธานวุฒิสภา และ ประธานกรรมาธิการทุกคณะ ทิศทางการลงมติของ สว. ชุดนี้ยังเป็นไปในทิศทางเดียวกันทุกครั้ง

ยกตัวอย่าง การประชุมวุฒิสภาปลายเดือน พฤศจิกายน 2567 ประชุมทั้งหมด 21 ครั้ง ลงมติ 48 ครั้ง ปรากฏว่า สว. นอกกลุ่มสีน้ำเงินแพ้ทุกการโหวตทุกประเด็น สิ่งที่น่าเป็นกังวลอีกประเด็น คือ การเห็นชอบการคัดเสือกบุคคลที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ 

ดังนั้น จากพฤติกรรมดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า สว.กลุ่มนี้ กระทำการฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา113 ก่อให้เกิดผลกระทบความเสียหายอย่างร้ายแรง เป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลายการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพราะการการกระทำดังกล่าวเห็นได้ชัดว่า ต้องการได้อำนาจการปกครองโดยเบ็ดเสร็จ ถือเป็นการกระทำที่ส่อล้มล้างการปกครอง

อีกทั้งการทำหน้าที่ขององค์กรอิสระ เสียความเป็นกลาง เนื่องจากต้องได้รับความเห็นชอบจาก สว. ที่อยู่ภายใต้อาณัติของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ไม่มีความเป็นกลางทางการเมืองและไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ดังนั้นเพื่อยับยั้งความเสียหายอันร้ายแรง จึงยื่นคำร้องให้ กกต. ใช้อำนาจตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา82 วรรคท้าย ส่งสำนวนการสอบสวนของ สว. ทั้ง 138คน ให้ศาลรัฐธรรมนูญทำการวินิจฉัย.

ข่าวล่าสุด

คลัง-ธอส. อัดฉีด 1.5 แสนล้าน กระตุ้นอสังหาฯ ครึ่งปีหลัง