posttoday

ไขปมสส.ตะวันออกค่ายส้มย้ายพรรค บ้านใหญ่คุมเกมเขย่าขั้วอำนาจ

14 พฤษภาคม 2568

ไขปมผู้แทนแดนตะวันออกค่ายส้มย้ายพรรค "บ้านใหญ่" ชักใยคุมเกมอำนาจเหนืออุดมการณ์ "เค้กเศรษฐกิจ" EEC แรงดึงดูด นักการเมืองปรับตัวตามขั้วอำนาจ

KEY

POINTS

  • บ้านใหญ่ อิทธิพลเครือข่ายท้องถิ่นกำหนดการย้ายพรรคสส.ภาคตะวันออก
  • EECผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจปัจจัยสำคัญต่อรองเปลี่ยนแปลงขั้วการเมือง
  • การเมืองแบบ"เกาะขบวน"ย้ายฝั่งมีอำนาจเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน-ท้องถิ่น
  • สนามแข่งขันตะวันออกไร้ฐานเสียงถาวรสส.พร้อมย้ายค่ายตามสถานการณ์
  • พลวัตการเมืองท้องถิ่นสะท้อนความยืดหยุ่นการปรับตัวของการเมืองภูมิภาค

ดินแดนตะวันออก...ฉากหน้าความงามแห่งท้องทะเลและรอยยิ้มของนักท่องเที่ยว แต่ภายใต้คลื่นลมที่สงบ กลับซ่อนกระแสการเมืองที่ผันผวนและน่าจับตา  เมื่อเก้าอี้ผู้แทนราษฎรกลายเป็นสมรภูมิแห่งการย้ายขั้ว เปลี่ยนค่าย ราวกับเกมอำนาจที่ไม่มีวันจบสิ้น

ล่าสุด ชื่อของ น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ ส.ส. ชลบุรี เขต 6 จากพรรคประชาชน กลายเป็นอีกหนึ่งหน้าในประวัติศาสตร์การเมืองท้องถิ่น เมื่อโบกมือลาต้นสังกัด เตรียมย้ายไปมีบทบาททางการเมืองกับพรรคกล้าธรรม เป็นภาพสะท้อนที่ชัดเจน"โรคย้ายพรรค"ที่ระบาดในภาคตะวันออก ดินแดนที่ผลประโยชน์และความภักดีต่อ "บ้านใหญ่"มีน้ำหนักเหนืออุดมการณ์ทางการเมือง

ย้อนเข็มนาฬิกากลับไปในการเลือกตั้งปี 2562 ชลบุรีก็เคยเผชิญคลื่นใต้น้ำทางการเมืองมาแล้ว เมื่อนางสาวกวินนาถ ตาดีย์ อดีต ส.ส. เขต 7 จากอนาคตใหม่ ต้องเผชิญชะตากรรมถูกขับออกจากพรรค เพียงเพราะโหวตสวนมติในสภาฯ สุดท้าย ปลายทางคือพรรคพลังท้องถิ่นไท แต่ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด แม้จะสวมเสื้อพลังประชารัฐก็ไม่สามารถกลับเข้าสู่สภาได้ สะท้อนถึงความไม่แน่นอนและผันผวนในสนามการเมืองแห่งนี้

สำหรับพรรคประชาชนมีสส. ในภาคตะวันออกถึง 17 ที่นั่ง จากทั้งหมด 29 ที่นั่ง กระจายอยู่ในหลายจังหวัด แต่ทว่า คลื่นลมทางการเมืองก็เริ่มพัดแรง เมื่อมีรายงานข่าวว่า ส.ส. บางส่วนได้ยื่นใบลาออกจากพรรค เตรียมย้ายไปสังกัดพรรคอื่น โดยมีพรรคกล้าธรรมเป็นจุดหมายปลายทางที่ถูกจับตา ซึ่งแน่นอนว่า ย่อมส่งผลต่อจำนวนเก้าอี้ของพรรคประชาชนในภูมิภาคนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เบื้องหลังการย้ายพรรคที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในภาคตะวันออกมีเงื่อนปมที่ซับซ้อนและน่าสนใจยิ่งนัก
 

ปฐมบทแห่งอำนาจ: "บ้านใหญ่" เหนือพรรค

ภาคตะวันออก...ดินแดนที่ "บ้านใหญ่" แผ่อิทธิพลปกคลุมราวใยแมงมุม ไม่ว่าจะเป็นชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา จันทบุรี หรือตราด เครือข่ายนักการเมืองท้องถิ่นเหล่านี้มีพลังอำนาจในการชี้ทิศทางคะแนนเสียงและพร้อมที่จะต่อรองผลประโยชน์กับพรรคการเมืองต่างๆ หากพรรคใดไม่ตอบสนองความต้องการ หรือมีแนวทางที่ขัดแย้ง "บ้านใหญ่" ก็สามารถพลิกขั้ว สั่งให้ ส.ส. ในอาณัติย้ายพรรคได้อย่างรวดเร็ว ราวกับการเปลี่ยนเสื้อผ้า

"เค้กเศรษฐกิจ" ชิ้นโต: แรงดึงดูดแห่ง EEC

แผ่นดินตะวันออกคือหัวใจของการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ โดยเฉพาะโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนมหาศาล ผลประโยชน์จากที่ดิน โรงงาน ท่าเรือ และระบบโลจิสติกส์ กลายเป็นแรงจูงใจสำคัญที่ทำให้เกิดการต่อรองผลประโยชน์ระหว่างขั้วอำนาจต่างๆ สส. ในพื้นที่จึงมักตกอยู่ภายใต้แรงกดดัน หรือถูกเสนอผลประโยชน์อันเย้ายวนให้ย้ายพรรค เพื่อเกาะกระแสอำนาจและเข้าถึงงบประมาณในการพัฒนาพื้นที่ของตนเอง

ยุทธศาสตร์ "เกาะขบวน": การเมืองแบบอยู่กับ "ผู้ชนะ"

นักการเมืองบางส่วนในภาคตะวันออกมีพฤติกรรมการเมืองที่เน้นการ "อยู่กับฝ่ายที่เป็นรัฐบาล"เพื่อโอกาสในการดึงทรัพยากรและงบประมาณมาพัฒนาท้องถิ่น การย้ายพรรคจึงเป็นกลยุทธ์เพื่อความอยู่รอดทางการเมือง และเป็นใบเบิกทางสู่การผลักดันโครงการต่างๆ ให้เป็นจริง

สนามประลองเดือด: ฐานเสียงที่ไม่มั่นคง

แตกต่างจากภาคอีสานที่เป็นฐานเสียงหลักของพรรคเพื่อไทย หรือภาคใต้ที่พรรคประชาธิปัตย์เคยมีอิทธิพล ภาคตะวันออกคือสังเวียนการแข่งขันที่สูง ไม่มีพรรคใดมีฐานเสียงที่มั่นคงถาวรสส. ในพื้นที่จึงพร้อมที่จะโยกย้ายตามกระแสความนิยมในแต่ละยุคสมัย ไม่ว่าจะเป็นยุคทองของพรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรคก้าวไกล หรือแม้แต่พรรคการเมืองน้องใหม่ที่พร้อมจะเข้ามาท้าทาย

เมื่อ "บ้านใหญ่ชลบุรี" เปลี่ยนใจ: ปรากฏการณ์ที่ต้องจับตา

กรณีศึกษาที่น่าสนใจคือ การเคลื่อนไหวของตระกูล "คุณปลื้ม" บ้านใหญ่แห่งชลบุรี ที่เคยเป็นเสาหลักของพรรคพลังประชารัฐมาอย่างยาวนาน แต่ภายหลังการเลือกตั้งปี 2566 ที่กระแสการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองพัดแรงขึ้น ประกอบกับความขัดแย้งภายในพรรค และแนวทางที่ไม่ตอบโจทย์ผลประโยชน์ในพื้นที่ ทำให้เริ่มมีสัญญาณของการ "ตีตัวออกห่าง"

แม้จะไม่มีการประกาศสนับสนุนพรรคก้าวไกลหรือเพื่อไทยอย่างเป็นทางการ แต่ในการเลือกตั้งท้องถิ่นหลายครั้งในชลบุรี พบว่าผู้สมัครในสายก้าวไกลได้รับการสนับสนุนทางอ้อมจากเครือข่ายเดิมของบ้านใหญ่ ขณะที่พรรคเพื่อไทยเองก็เริ่มขยายฐานเสียงในพื้นที่ที่พลังประชารัฐอ่อนแรงลง การเคลื่อนไหวของ "คุณปลื้ม" สะท้อนให้เห็นว่า การเมืองท้องถิ่นในภาคตะวันออกนั้นยืดหยุ่น พร้อมที่จะปรับตัวตามสถานการณ์ โดยมีผลประโยชน์ในพื้นที่เป็นปัจจัยสำคัญ

สมรภูมิชิงชัย: ฉะเชิงเทรา-ระยอง ดินแดนแห่งการต่อรอง

พื้นที่เศรษฐกิจสำคัญอย่างฉะเชิงเทราและระยอง การแข่งขันทางการเมืองทวีความเข้มข้น นอกจากพรรคใหญ่ๆ ที่พยายามช่วงชิงฐานเสียงแล้ว ยังมีบทบาทของ "พรรคเฉพาะกิจ"ที่มักจะผูกโยงกับกลุ่มบ้านใหญ่ท้องถิ่นในช่วงเลือกตั้ง พรรคเหล่านี้อาจไม่ได้มุ่งหวังอำนาจในระดับชาติ แต่ใช้เป็นเครื่องมือในการต่อรองตำแหน่งและงบประมาณกับฝ่ายรัฐบาล ทำให้เกิดการแข่งขันที่ดุเดือด และการย้ายขั้วที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

ภูมิใจไทยรุก...ประชาธิปัตย์ถอย: แผนที่การเมืองที่เปลี่ยนแปลง

อีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่น่าสนใจคือ การที่พรรคภูมิใจไทยสามารถขยายอิทธิพลในภาคตะวันออก ซึ่งเดิมเคยเป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ การอ่อนแรงลงของพรรคประชาธิปัตย์ ประกอบกับการเดินเกมเชิงรุกของภูมิใจไทยด้วยนโยบายที่จับต้องได้ และการดึงดูดอดีตนักการเมืองท้องถิ่น ทำให้ภูมิใจไทยสามารถเข้ามาแทนที่ฐานเสียงเดิมได้อย่างรวดเร็ว สะท้อนให้เห็นว่า การเมืองในภาคตะวันออกนั้นเปลี่ยนแปลงไปตามกระแสและผลประโยชน์อย่างแท้จริง

ภาคตะวันออกดินแดนแห่งพลวัตและการต่อรอง

จากกรณีของ น.ส.กฤษฎิ์ และอีกหลายเหตุการณ์ที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นว่า ภาคตะวันออกเป็นพื้นที่ที่มีพลวัตทางการเมืองสูง การย้ายพรรคของสส. มักมีปัจจัยหลักมาจากอิทธิพลของ "บ้านใหญ่" ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ และพฤติกรรมการเมืองที่เน้นการอยู่กับฝ่ายที่มีอำนาจ มากกว่าความผูกพันกับอุดมการณ์ของพรรค การเมืองในภูมิภาคนี้จึงเต็มไปด้วยการต่อรอง และการเปลี่ยนแปลงขั้วที่เกิดขึ้นได้เสมอ ตราบใดที่ "การเมืองท้องถิ่น" และ "ผลประโยชน์" ยังคงเป็นตัวแปรสำคัญในการตัดสินใจของนักการเมืองในพื้นที่แห่งนี้.

ข่าวล่าสุด

SCB WEALTH กวาด 6 รางวัลระดับโลก สะท้อนความเป็นเลิศในทุกมิติการบริหารความมั่งคั่ง