"ศุภโชติ" ท้า "นายกฯอิ๊งค์" ยุติโครงการรับซื้อไฟฟ้า เพื่อประชาชน

นายศุภโชติ ไชยสัจ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ในวันนี้ ซึ่งมีวาระสำคัญคือการพิจารณากรอบการปรับค่าไฟฟ้าสำหรับงวดเดือนกันยายนถึงธันวาคม 2568

 

และยังมีอีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือการตัดสินใจยกเลิกรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน3,600 เมกะวัตต์ โดยมี แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม 

 

โดยนายศุภโชติ ได้ชวนจับตาการลดค่าไฟ ช่วงเดือน พ.ค.-ส.ค.68 ว่า เป็นการแก้ปัญหาค่าไฟแพงจริงหรือแค่แก้ปัญหาเฉพาะหน้า เนื่องจากรัฐบาลได้มีการนำเงิน "claw back" มาใช้ลดค่าไฟให้ประชาชน

 

หากเงินส่วนนี้หมดประชาชนจะต้องจ่ายค่าไฟแพงเหมือนเดิมหรือไม่ พร้อมได้ทวงถามรัฐบาลถึง 3 แนวทางการลดค่าไฟที่ ได้เคยประกาศไว้ตอนหาเสียง 

 

นายศุภโชติ เปิดเผยว่า อีกประเด็นสำคัญที่ต้องจับตาในวันนี้ คือ กพช. ต้องตัดสินใจว่าจะยกเลิกการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนรอบเจ้าปัญหาที่มีราคาสูงเกินจริงหรือไม่

 

โครงการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนจำนวนกว่า 3,600 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยคณะกรรมการที่รัฐบาลแต่งตั้ง คาดว่าผลการตรวจสอบจะถูกเสนอเข้าสู่ที่ประชุม กพช. วันนี้


 

คำถามที่ตนและหลายฝ่ายตั้งมาตลอดคือหากผลการตรวจสอบชี้ว่า “ไม่พบความผิดทางกฎหมาย” แต่มีความชัดเจนว่าเอื้อเอกชนและส่งผลเสียต่อประโยชน์ของประชาชนในระยะยาว 

นายกรัฐมนตรีในฐานะประธาน กพช. จะกล้าตัดสินใจยุติโครงการหรือไม่ หรือจะอ้างว่า “จำเป็นต้องเดินหน้า” เช่นเดียวกับโครงการ 5,200 เมกะวัตต์ที่ลงนามไปแล้ว 


 

ตนขอเรียกร้องให้นายกฯ กล้าตัดสินใจเพื่อลดผลกระทบต่อค่าไฟของประชาชน รวมถึงระงับการลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากโครงการพลังงานลม 5,200 เมกะวัตต์ในโครงการที่ยังไม่ได้ลงนาม ข้อเสนอของตนคือการเพิ่มสัดส่วนการซื้อขายแบบ Direct PPA ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถซื้อไฟฟ้าโดยตรงจากผู้ผลิตได้
.


 

“ค่าไฟฟ้ารอบ ก.ย.–ธ.ค. 68 จะลดลงจริงด้วยโครงสร้างที่เป็นธรรมตามที่เคยหาเสียงไว้ หรือเป็นแค่การเล่นแร่แปรเลขอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการใช้เงินเก่าที่ใกล้หมดหรือการยืดหนี้ก็แล้วแต่ ถ้ารัฐบาลยังใช้กลยุทธ์เดิม ๆ และไม่กล้าปฏิรูประบบพลังงานอย่างแท้จริง ประชาชนจะต้องทนกับค่าไฟแพงไปอีกหลายสิบปี” นายศุภโชติ กล่าว