จับตา! "ลดค่าไฟ" รอบใหม่ แก้จริง หรือ แก้ปัญหาเฉพาะหน้า
"ศุภโชค" ชวนจับตา! "นายกฯอิ๊งค์" ประชุม กพช. ปม "ลดค่าไฟ" รอบใหม่ แก้จริงหรือแค่แก้ปัญหาเฉพาะหน้า หลังรัฐบาลใช้เงิน "claw back" ลดค่าไฟ
นายศุภโชติ ไชยสัจ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ในวันนี้ ซึ่งมีวาระสำคัญคือการพิจารณากรอบการปรับค่าไฟฟ้าสำหรับงวดเดือนกันยายนถึงธันวาคม 2568 โดยมี แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม
นายศุภโชติกล่าวว่า สิ่งที่ต้องจับตาคือรัฐบาลจะลดค่าไฟรอบ ก.ย.-ส.ค. 68 ด้วยวิธีที่เคยหาเสียงไว้หรือไม่ เพราะรอบก่อนหน้านี้ (พ.ค.–ส.ค. 68) ที่รัฐบาลประกาศลดค่า Ft ลงเหลือ 19.72 สตางค์ต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยลดลงเหลือ 3.98 บาทต่อหน่วยนั้น
เป็นเพียงการนำเงิน "claw back" หรือเงินส่วนเกินที่การไฟฟ้าเคยจัดเก็บจากประชาชนไว้ในอดีตมาใช้ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ไม่ใช่การลดต้นทุนพลังงานอย่างแท้จริงหรือการปฏิรูประบบให้เป็นธรรม
“เมื่อใช้เงินเก่ากลบค่าไฟแพง แต่ไม่กล้าแตะโครงสร้างที่ทำให้ค่าไฟแพงซ้ำซาก ถ้าเงิน claw back หมด ประชาชนก็ต้องกลับมาจ่ายแพงเหมือนเดิม”
ดังนั้นขอทวงถาม 3 แนวทางปฏิรูปที่รัฐบาลเคยหาเสียงและแถลงไว้ ได้แก่
(1) การทบทวนสัญญาซื้อไฟแบบ Adder และ FiT ที่ให้ผลประโยชน์แก่เอกชนอย่างไม่จำกัด
(2) การลดภาระในสัญญารับซื้อระยะยาว เช่น ค่า AP/EP ที่รัฐต้องจ่ายให้โรงไฟฟ้าเอกชนแม้ไม่ได้ใช้ไฟ
(3) การปรับระบบบริหารจัดการไฟฟ้าให้เลือกใช้แหล่งที่มีต้นทุนต่ำที่สุดจริงๆ
นายศุภโชติ กล่าวต่อว่า นอกจากรัฐบาลจะไม่ได้แสดงความจริงใจในการปฏิรูประบบพลังงานตามแนวทางที่เคยประกาศไว้ก่อนเลือกตั้ง ทำให้จนถึงวันนี้ไม่มีความคืบหน้าแม้แต่น้อย
กลับกันรัฐบาลยังเดินหน้าเซ็นสัญญารับซื้อไฟฟ้าจากเอกชนเพิ่มโดยไม่คำนึงถึงต้นทุนที่ประชาชนต้องแบกรับในระยะยาว


