รัฐบาลอนิจจัง! รับศึกรอบด้าน ท่ามกลางรอยร้าวพรรคร่วม
จับสัญญาณปรับครม. หลังนายกฯ-อนุทินพร้อมใจเอ่ย "โลกล้วนอนิจจัง" รับตำแหน่งไม่จีรัง ท่ามกลางรอยร้าวพรรคร่วม
สถานการณ์การเมืองไทยยังคงมีความเคลื่อนไหวและเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะความขัดแย้งที่ยังคุกรุ่นระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย ซึ่งส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลและความเชื่อมั่นของประเทศโดยรวม ท่ามกลางข่าว"การปรับครม."ตลอดทั้งสัปดาห์
ประเด็นการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) กลายเป็นคำถามสำคัญที่สื่อมวลชนและประชาชนให้ความสนใจ
อย่างไรก็ตาม ทั้งนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ต่างให้คำตอบในทำนองเดียวกัน โดยอ้างถึงหลักธรรม "อนิจจัง" หรือความไม่แน่นอนในโลก โดยนายกรัฐมนตรีย้ำว่า แม้แต่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็ไม่แน่นอนเช่นกัน
ล่าสุด หลังเดินทางกลับจากการเยือนกัมพูชา นายกรัฐมนตรีได้หลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามเรื่องการปรับ ครม.
ขณะเดียวกัน มีการวิเคราะห์ว่า ความเป็นผู้นำของนางสาวแพทองธารยังอยู่ในช่วงของการสั่งสมประสบการณ์และบารมี แม้จะได้รับตำแหน่งสืบทอดมาก็ตาม
นอกเหนือจากประเด็นทางการเมือง เศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายอย่างหนัก ทั้งปัจจัยภายนอกและภายในประเทศ
โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่เป็นความหวังสำคัญ กำลังประสบปัญหาน่ากังวล ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งเป็นกลุ่มหลัก เลือกเดินทางไปเวียดนามมากกว่าไทย
สถานการณ์นี้ถือเป็นวิกฤตที่ต้องเร่งแก้ไข เพื่อให้ภาคการท่องเที่ยวและการบริการกลับมาเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทดแทนภาคการส่งออกที่ชะลอตัว
ช่วงเวลาเดียวกัน ผู้นำจีนได้เดินทางเยือน 3 ประเทศในภูมิภาค คือ กัมพูชา มาเลเซีย และเวียดนาม แต่ไม่ได้แวะเยือนประเทศไทย ทั้งที่เป็นปีครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ซึ่งทำให้เกิดคำถามถึงสถานะและความสัมพันธ์ของไทยในเวทีระหว่างประเทศ ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่เปราะบาง
สถานการณ์ทั้งภายในและภายนอกประเทศที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนนี้ ถือเป็นโจทย์ใหญ่ที่รัฐบาลและทุกภาคส่วนต้องร่วมกันหาทางออก เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นและขับเคลื่อนประเทศต่อไป
ที่มา ประกอบรายงานข่าว เนชั่นสุดสัปดาห์


