สรุปให้ ทำไมพรรคเพื่อไทย ประชาชน อยากแก้ไขรธน. ภูมิใจไทยคัดค้าน
2พรรคใหญ่ เพื่อไทย ประชาชนย้ำจำเป็นปลดล็อกเงื่อนไขสว.ให้ประชาชนมีส่วนร่วมร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ขณะที่ ภูมิใจไทย คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญปัจจุบันหากไม่ได้ผ่านการทำประชามติอาจขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
เมื่อวันที่ 13กุมภาพันธ์ 2568 การประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 เพื่อเปิดทางให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
ล่าสุดมีความเป็นไปได้ว่าการประชุมจะถูกเลื่อนออกไปหลังจากสส.พรรคภูมิใจไทย วอล์คเอาท์ออกจากห้องประชุม ไม่ขอร่วมพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขณะที่นพ.เปรมศักดิ์ เพียรยุระ สมาชิกวุฒิสภา กลุ่ม ส.ว.สีขาวได้ยื่นญัตติด่วนต่อ ที่ประชุมรัฐสภา เพื่อขอให้รัฐสภามีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเกี่ยวกับอำนาจและหน้าที่ของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 วรรคหนึ่ง (2) โดยมีสมาชิกทั้ง ส.ส. และ ส.ว. ลงชื่อสนับสนุนกว่า 40 คน ซึ่งถือเป็นญัตติร่วมกันของทั้งสองสภา
ทั้งนี้ เมื่อเจาะลึกลงในรายละเอียดของ 2 ร่างที่เสนอแก้ไขโดยพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน มีสาระสำคัญหลักที่ตรงกันคือ การแก้ไขมาตรา 256 (หลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ) และการเพิ่มหมวด 15/1 (การจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่) เพื่อปลดล็อกการจัดทำรัฐธรรมนูญให้ง่ายขึ้น และเปิดทางให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) จากการเลือกตั้งโดยตรงเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแก้ไขรัฐรรมนูญ ซึ่งหากผ่านไปได้จะถือเป็นประวัติศาสตร์ครั้งแรกที่ประเทศไทยมี สสร. จากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน
อย่างไรก็ตาม ทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนต่างก็มีเหตุผลที่ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จนนำมาสู่การประชุมร่วมของรัฐสภา โดยแยกรายละเอียดปลีกย่อยได้ดังนี้
พรรคเพื่อไทย : ล้มรัฐธรรมนูญผลพวงรัฐประหาร
ที่มาของรัฐธรรมนูญ: รัฐธรรมนูญปัจจุบันถูกจัดทำขึ้นโดยคณะรัฐประหาร โดยประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วมอย่างแท้จริง แม้ว่าจะมีการทำประชามติ แต่เป็นการจัดทำภายใต้เงาของคณะรัฐประหาร ซึ่งผู้ที่มีความเห็นต่างถูกจำกัดสิทธิ์และเสรีภาพ
ระบบการเลือกตั้ง: ระบบบัตรเลือกตั้งใบเดียวที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ทำให้เกิดปัญหาพรรคเล็กพรรคน้อย และลดทอนอำนาจการตัดสินใจของประชาชน พรรคเพื่อไทยเสนอให้กลับไปใช้ระบบบัตรเลือกตั้งสองใบ เพื่อให้ประชาชนสามารถเลือกผู้แทนราษฎรและพรรคการเมืองได้อย่างเต็มที่
การสืบทอดอำนาจ: การมีสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่มาจากการแต่งตั้งของคณะรัฐประหาร มีอำนาจในการเลือกนายกรัฐมนตรีและพิจารณากฎหมายสำคัญ ทำให้เกิดการสืบทอดอำนาจและจำกัดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง
สิทธิเสรีภาพของประชาชน: รัฐธรรมนูญปัจจุบันกำหนดสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างมีเงื่อนไขและไม่ชัดเจน ทำให้เกิดการละเมิดสิทธิต่างๆ มากมาย
ความยากในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ: กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญปัจจุบันมีความซับซ้อนและยากลำบาก เนื่องจากต้องได้รับความเห็นชอบจาก ส.ว. ซึ่งไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปได้ยาก
พรรคประชาชน : เสนอแก้ไขมาตรา256ให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่
เปิดทางให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่: พรรคประชาชนเสนอให้มีการแก้ไขมาตรา 256 เพื่อเปิดทางให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยจัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้งหมด เพื่อให้รัฐธรรมนูญใหม่สะท้อนความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง
การลดอำนาจของ ส.ว.: พรรคประชาชนเสนอให้ตัดเงื่อนไขที่ต้องได้รับความเห็นชอบจาก ส.ว. ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปตามฉันทามติของประชาชนและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรง
การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมและองค์กรอิสระ: พรรคประชาชนเสนอให้มีการตีกรอบอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ เพื่อป้องกันการใช้อำนาจเกินขอบเขตและการแทรกแซงทางการเมือง
พรรคภูมิใจไทย: แสดงจุดยืนคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ด้วยเหตุผลดังนี้
- ความเสี่ยงในการขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ โดยเห็นว่าการดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญในปัจจุบันยังไม่ได้ผ่านการทำประชามติจากประชาชน ซึ่งอาจขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในปี 2564 ที่ระบุว่าต้องมีการถามประชามติก่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
- การปฏิบัติตามกระบวนการทางกฎหมาย พรรคย้ำว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญควรดำเนินการตามกระบวนการที่ถูกต้องตามกฎหมาย และไม่ต้องการเสี่ยงต่อการกระทำที่อาจถูกมองว่าผิดกฎหมาย
- การแยกบทบาทระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร พรรคภูมิใจไทยมองว่าการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของแต่ละพรรคการเมืองในฝ่ายนิติบัญญัติ และไม่เกี่ยวข้องกับการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาลในฝ่ายบริหาร
พรรคภูมิใจไทยจึงตัดสินใจไม่เข้าร่วมการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยประการฉะนี้


