'ยุติธรรม'ปัดพักโทษ'บุญทรง-เสี่ยเปี๋ยง'เอื้อ'ยิ่งลักษณ์'กลับประเทศ
สมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม แจงพักโทษ บุญทรง - เสี่ยเปี๋ยง ลดความแออัดในคุก ตามหลักการบริหารงานกรมราชทัณฑ์ ปัดเตรียมการเอื้อประโยชน์ให้อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ เดินทางกลับประเทศ เมษายน68
เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.2567 นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ แถลงข่าวถึงการปล่อยตัว พักการลงโทษของ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ "เสี่ยเปี๋ยง" ซึ่งเป็นจำเลยในคดีทุจริตจำนำข้าว ซึ่งเป็นกระแสข่าวที่อยู่ในความสนใจของประชาชนอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่าจะเป็นการเปิดทางให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลับมาประเทศไทย ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 2 อาคารกระทรวงยุติธรรม ถ.แจ้งวัฒนะ หลักสี่ กทม. โดยมีนายนายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ผู่ทำหนังสือสอบถามไปยังกรมราชทัณฑ์ เข้าร่วมฟังการชี้แจงด้วย
นายสมบูรณ์ ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการประกาศใช้ระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังนอกเรือนจำ ว่า ยืนยันไม่ได้เพื่อรอใครคนหนึ่งกลับมาถึงประกาศหรือไม่ แต่รอความครบถ้วนของประกาศเสียก่อน โดยเป้าหมายเพื่อลดความแออัดในเรือนจำ
นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ กล่าวเสริมว่า ระเบียบดังกล่าวอยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นประชาชน จนถึง 17 ธ.ค.67 เพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไข จากนั้นเมื่อเรียบร้อยท่านอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ก็จะลงนามประกาศใช้ได้ทันที ถ้าในการทำประชาพิจารณ์มีคนเห็นแย้ง 90% อาจจะต้องมีการปรับแก้ไข แต่หากไม่ถึง 20% ก็อาจจะไม่ต้องมีการปรับเนื้อหาแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าเงื่อนไขประกาศระเบียบดังกล่าวหรือไม่ นายสมบูรณ์ กล่าวว่า ระเบียบหลักเกณฑ์เป็นเพียงเบื้องต้น ยังไม่ออกเป็นหลักเกณฑ์ที่ประกาศใช้อย่างเป็นทางการเลย จึงยังตอบไม่ได้และเรายังไม่ได้มีการพิจารณาเนื่องจากเป็นเรื่องของอนาคต ซึ่งตอนนี้ต้องรอให้ประกาศดังกล่าวออกมาก่อน และทุกอย่างก็คงเดินหน้าไปตามระเบียบ เราไม่มีการดำเนินการว่าใครจะเข้าเงื่อนไขดังกล่าวก่อนล่วงหน้า
นางกนกวรรณ กล่าวเสริมเรื่อง หลักเกณฑ์การคุมขังนอกเรือนจำ ว่า เราจะใช้เกณฑ์การพิจารณาตามหลัก “ทัณฑวิทยา” ซึ่งเกี่ยวกับการปฏิบัติในการลงโทษ ซึ่งจะมีคณะกรรมการในการตัดสิน โดยขอเรียนว่ามันไม่ใช่สิทธิ์หรือประโยชน์ของผู้ต้องขัง แต่เป็นการบริหารเรือนจำ เนื่องจากขณะนี้มีผู้ต้องขังจำนวนมาก และเป็นหลักสากลที่หลายๆประเทศใช้อยู่ และการที่จะให้เขาไปอยู่ในที่คุมขังอื่น ก็ไม่ใช่การอยู่เฉยๆ ต้องมีกฎมีระเบียบ โดยจะต้องมีการประเมินความเสี่ยงจากคณะกรรมการในระดับเรือนจำก่อนจะไปคุมขังนอกเรือนจำ
นายสมบูรณ์ กล่าวยืนยันว่า เราไม่ได้วางระเบียบนี้เพื่อรอใครคนใดคนหนึ่ง แต่ประกาศนี้ออกมาเมื่อปี 2566 ซึ่งเมื่อมีประกาศแล้วก็ต้องออกระเบียบตามมาในช่วงนี้ ยอมรับ มันปฏิเสธไม่ได้ว่าสร้างความคลังแคลงใจ ว่าเราทำเพื่ออะไร แต่เรายืนยันได้ว่าเราไม่ได้ทำเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง เราทำเพราะมันเข้าเงื่อนไขและความครบถ้วนในกระบวนการต่างๆ
เมื่อถามว่าจะทันไตรมาสแรกของปี 2568 หรือไม่ เพราะมันประจวบเหมาะพอดีกับที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคยพูดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะกลับมาในช่วงสงกรานต์ นายสมบูรณ์ กล่าวว่า ถ้าถามความเห็นก็น่าจะเป็นไปได้ แต่มันก็มีขั้นตอนในการปฏิบัติไม่ใช่คนใดคนหนึ่ง แต่ถ้าถามว่าไตรมาสแรกมันก็ 3 เดือนมันก็น่าจะเป็นไปได้ แต่ในส่วนของนางสาวยิ่งลักษณ์ ตนไม่ทราบว่าเขาจะกลับเมื่อไหร่ ได้ยินเพียงแต่ข่าว ดังนั้น เรื่องของการคาดเดาว่าจะทันหรือไม่ ไม่สามารถระบุได้ เพียงแต่บอกว่า “มันใกล้จะเสร็จแล้ว”
เมื่อถามว่าระเบียบการคุมขังนอกเรือนจำที่กำหนดอายุโทษไม่เกิน 4 ปี หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ กลับมา จะไม่ต้องเข้าเรือนจำ และไปคุมขังที่บ้านได้เลยหรือไม่ นางกนกวรรณ เบื้องต้นที่วางระเบียบคือคำพิพากษาล่าสุดไม่เกิน 4 ปี แต่อดีตนายกฯมีโทษจำคุกมากกว่า ก็ต้องอยู่ในเรือนจำระยะเวลาหนึ่ง แต่ทุกอย่างมันยังอยู่ระหว่างการดำเนินการมีแก้ไขได้อีก หลังรับฟังความเห็น
เมื่อถามว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเป็นอีกหนึ่งคนที่ไม่ต้องติดคุกแม้แต่วันเดียวเหมือนกับนายทักษิณ หรือไม่ นายสมบูรณ์ กล่าวยืนยันว่า นายทักษิณติดคุกเพราะไปอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจก็ถือว่าเป็นคุกแห่งหนึ่งตามกฎหมาย ยอมรับว่าเรากังวลต่อข้อสงสัยของพี่น้องประชาชน แต่เรายืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่ไปแล้ว ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่ทำ ดังนั้น ในเรื่องชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ป.ป.ช.กำลังดำเนินการอยู่ รอกันวินิจฉัยของป.ป.ช.เป็นผู้ตัดสิน
ด้าน นายวัชระ ได้เข้าร่วมฟังการแถลงในว่านี้ด้วย และมีการถามถึงการตรวจสอบกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ถูกจำคุก ก่อนเข้ารักษาอาการป่วย ชั้น 14 ของโรงพยาบาลตำรวจนั้น ได้มีการส่งเอกสารโดยเฉพาะเวชระเบียนให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ครบถ้วนหรือไม่ นายสมบูรณ์ มวงกล่ำ กล่าวว่า การส่งมอบเวชระเบียนนั้นเป็นสิทธิ์ของคนไข้จะให้หรือไม่ให้ก็ได้ หากไม่ให้ก็ไม่มีใครมีสิทธิ์นำเวชระเบียบที่เป็นความลับในการรักษาไปมอบให้ ป.ป.ช. เพราะมีความผิดตามกฎหมาย ย้ำว่า กรมราชทัณฑ์ไม่สามารถส่งเวชระเบียนให้ ป.ป.ช. ได้เพราะคนไข้ไม่อนุญาต และยืนยันว่า การดำเนินการพักโทษนั้น ดำเนินการอย่างถูกต้องตามระเบียบและกฎหมาย ไม่ได้ใช้ดุลยพินิจส่วนตัว
ส่วนการพักโทษนายบุญทรง และนายอภิชาติ ซึ่งเป็นนักโทษคดีทุจริตที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ กว่า 9 แสนล้านบาทนั้น มีการชดใช้ค่าเสียหายให้แก่รัฐตามคำพิพากษาหรือไม่นั้น นายสมบูรณ์ ศิลา ผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรม กล่าวว่า มีการเสนอในคณะอนุกรรมการพักโทษให้พิจารณา แต่ชดใช้แล้วหรือไม่นั้นไม่มีใครทราบ เพราะเป็นอำนาจหน้าที่ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ป.ป.ง.) ในการอายัด และยึดทรัพย์สินให้เป็นของแผ่นดิน ซึ่งดำเนินการไปแล้วส่วนหนึ่ง แต่คงเหลืออีกเท่าไรนั้นเรายังไม่ทราบ ขณะนี้ยังคงมีผู้ต้องขังในคดีจำนำข้าวอีก 2 ราย ที่เป็นข้าราชการระดับสูง และยังอยู่ระหว่างการได้รับโทษต้องขัง เนื่องจากต้องโทษจำคุกสูง และไม่ได้มีอาการเจ็บป่วยอย่างไร
ภาพ ธิติ วรรณมณฑา (Thiti Wannamontha)
#NationPhoto


