"เศรษฐา"ไร้แผนสำรองหากพ้นเก้าอี้นายกฯบอก"เกิดก่อนค่อยว่ากัน"
"เศรษฐา"ไร้แผนสำรองหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเป็นโทษ พ้นเก้าอี้นายกฯ เกิดก่อนค่อยว่ากัน ปัดแพลนงานยาวถึงสิ้นเดือน ไม่ใช่โชว์ความมั่นใจ รับ รทสช. พรรคร่วมรัฐบาลส่งชื่อ “ปรับครม.” แล้วแต่ยังต้องรอคุยกันอีกครั้ง
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมครม. ถึงกรณีศาลธรรมนูญ นัดวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดหรือไม่ วันที่ 14 ส.ค67 ในที่ประชุมครม. มีการให้กำลังใจอย่างไรบ้าง ว่า ในที่ประชุมไม่ได้มีการพูดคุยในเรื่องนี้
เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกับนายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีในเรื่องดังกล่าวอย่างไรบ้าง นายกฯ กล่าวว่า ตั้งแต่ที่เตรียมข้อมูลกัน และได้ส่งข้อมูลคำแถลงปิดคดีไปครบแล้ว ตั้งแต่วันนั้นมา จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันอีก
เมื่อถามถึง นายวิษณุ ที่ออกมาระบุว่า หากนายกฯ หลุดออกจากตำแหน่งก็สามารถจะกลับมาได้ หากศาลฯ ไม่ได้เขียนแนบท้าย นายกเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่ได้คุยเรื่องนี้ และไม่ทราบเลย ต้องให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฏหมาย และเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว ตามที่ได้ส่งคำแถลงปิดคดี ก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกันอีกเลย
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยมีการเตรียมการ เรื่องนี้อย่างไรหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ทราบต้องถามทางพรรคเพื่อไทย
เมื่อถามว่า ภารกิจของนายกฯ ในวันพรุ่งนี้เป็นอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ตนได้มอบหมายให้ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ไปฟังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญแทน ส่วนภารกิจของตนในช่วงบ่ายนั้น มีแน่นเลย และเข้าใจว่าเป็นภารกิจในทำเนียบรัฐบาล ยืนยันว่าไม่ได้มีการตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์แต่อย่างใด มันจบแล้ว ตั้งแต่จัดทำคำแถลงปิดคดี ก็ถือว่าเราทำหน้าที่ของเราเต็มที่แล้ว ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรม
เมื่อถามว่า จะมีเวลาติดตามคำวินิจฉัยของศาลฯ ในเวลาบ่ายสามโมงหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนมีประชุมอยู่แล้ว แต่เป็นการประชุมภายในกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน ตนก็อยู่ในทำเนียบฯ อยู่แล้วและเชื่อว่าทีมงานจะเข้ามาบอก
เมื่อถามว่า มีแผนสำรองหรือไม่หากสุดท้ายแล้วไม่ได้เป็นนายกฯ ต่อ นายเศรษฐา ยิ้มก่อนกล่าวว่า “ไม่ได้คุยครับ”
เมื่อถามว่า แผนสำรองตามที่นายวิษณุระบุ หากนายกฯ รักษาการมีอำนาจยุบสภา นายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้คิดเลยให้เรื่องมันเกิดขึ้นก่อนแล้วค่อยว่ากัน
เพื่อไทยมั่นใจนายกฯได้ไปต่อ
นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว พรรคเพื่อไทย ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ นัดอ่านคำวินิจฉัยคดีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในวันพรุ่งนี้ (14 ส.ค.) ว่า นายกรัฐมนตรี ได้ย้ำแล้วว่า ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีฯ ก็ยืนยันแล้วว่า นายกรัฐมนตรี ไม่ได้หนักใจ และมั่นใจในความบริสุทธิ์ ซึ่งพรรคเพื่อไทย ก็ไม่ได้เตรียมการใด ๆ ไว้ และขอให้รอให้เกิดเหตุการณ์เกิดขึ้นก่อน เพราะพวกตน รวมถึง สส.ในพรรคฯ ยังมั่นใจในความบริสุทธิ์ของนายกรัฐมนตรี
ส่วนที่มีการประเมินการปรับ ครม. หากนายกรัฐมนตรีรอดศาลรัฐธรรมนูญนั้น นายสรวงศ์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม เพราะเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี
นายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญต่อตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน ว่า ตนเชื่อว่านายเศรษฐา จะรอดพ้นในคดีนี้ และทำหน้าที่นายกฯต่อไป เพราะเท่าที่ติดตามข่าวเห็นว่าท่านนายกฯ ได้ปรึกษาในข้อกฎหมายทั้งกับกฤษฎีกาและเลขาครม. ซึ่งผู้รู้ก็ได้ให้คำแนะนำว่าทำได้ เป็นการดำเนินการตามกฎหมาย เป็นการแต่งตั้งปกติ เชื่อว่าไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย แต่เมื่อเกิดปัญหาขึ้นท่านก็ได้ชี้แจงตามข้อเท็จจริงทุกอย่าง เชื่อว่าศาลท่านน่าจะรับฟังคำชี้แจง เพราะเป็นเจตนาที่บริสุทธิ์ ส่วนการที่นายกฯ ไม่ได้ไปฟังคำวินิจฉัยด้วยตัวเอง ก็ไม่ได้เป็นสัญญาณอะไร ไม่ได้มีเหตุผลทางการเมืองอื่น แต่ต้องเข้าใจว่าท่านนายกฯเป็นคนขยัน มีภารกิจค่อนข้างเยอะ ทำงานไม่มีวันหยุดเลย แม้กระทั่งช่วงเวลาที่คุณแม่ท่านนายกฯจากไป ท่านก็ยังไปทำงานอยู่แล้วตอนเย็นก็ไปรับแขกที่มาร่วมแสดงความเสียใจ ตรงนี้เป็นปกติของท่านนายกฯ ซึ่งเป็นคนขยันมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงาน
เมื่อถามว่าหากนายเศรษฐาถูกตัดสินให้หลุดจากตำแหน่งฯ จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง นายก่อแก้ว กล่าวว่า แน่นอนว่าท่านหลุดจากตำแหน่งนายกฯ รวมถึงคณะรัฐมนตครีก็ต้องพ้นจากตำแหน่งไปด้วย ก็ต้องมีการเลือกนายกฯกันใหม่ ตั้งครม. กันใหม่ ส่วนในทางการเมืองเชื่อว่าคงไม่มีแรงกระเพื่อมอะไร เพราะพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันต่างทำงานร่วมกันด้วยดี มีอะไรก็หารือกันตลอด ไม่ได้มีข้อขัดแย้งหรือขัดประโยชน์อะไรกัน มีแต่ร่วมกันทำงาน อย่างไรก็ตามหากมีการเลือกนายกฯใหม่ นายเศรษฐา ก็ยังมีชื่ออยู่ในแคนดิเดท รัฐธรรมนูญไม่ได้มีข้อห้ามอะไร ท่านไม่ได้ขาดคุณสมบัติตามที่รัฐธรรมนูญมีข้อห้ามไว้ หากเป็นความผิดพลาดทางข้อกฎหมายโดยไม่ได้เจตนา ก็สามารถกลับเข้ามาใหม่ได้ เหมือนกรณีที่อดีตนายกฯสมัคร สุนทรเวช โดนเรื่องทำกับข้าวออกทีวีทำให้ต้องหลุดจากตำแหน่ง แล้วก็มีหลายคนพยายามผลัดดันกลับเข้ามาใหม่
โดยหลักการแล้ว หากมีการเลือกนายกฯคนใหม่ ก็ต้องมาจากพรรคที่มีเสียงอันดับหนึ่งก็คือพรรคเพื่อไทย แต่ผมไม่อยากให้ไปไกลถึงขนาดนั้น เพราะเชื่อว่าท่านนายกฯไม่หลุดจากตำแหน่งแน่นอน
"ชัยชนะ"ชี้ร่วมรัฐบาลขึ้นกับสถานการณ์-มติพรรคปชป.
ที่อาคารรัฐสภา นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีในวันที่ 14 สิงหาคมนี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยถอดถอนตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่ จากการแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่า ต้องให้เป็นคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ควรที่จะให้ความเห็นหลังมีคำวินิจฉัยจะดีกว่า ส่วนการประเมินหากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองเห็นว่าคงไม่ต้องประเมิน เพราะพรรคประชาธิปัตย์ก็ทำหน้าที่ของฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ แต่หากมีการเทียบเชิญให้ร่วมรัฐบาลก็ต้องกลับไปถามมติของพรรคประชาธิปัตย์ โดยกรรมการบริหารพรรคต้องประชุมร่วมกันกับ สส. จะแสดงความคิดเห็นคนใดคนหนึ่งไม่ได้
"อย่าใช้คำว่าพรรคประชาธิปัตย์พร้อมจะร่วมรัฐบาล เพราะการเมืองไทยต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ดังนั้น พรรคประชาธิปัตย์เองจึงตอบไม่ได้ว่าจะร่วมหรือไม่ร่วม หากมีการเทียบเชิญเพราะต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์"