จับตา"กกต.ลุยไฟ"รับรองเลือกสว.เสี่ยงอาญามาตรา157
จับตาสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงในสภาสูง หลัง7กกต.ประกาศรับรองผลเลือกสว. 200คน บัญชีสำรอง99 ก่อนตามสอยภายหลัง เสี่ยงอาญามาตรา157 ท่ามกลางเสียงคัดค้านปัญหาว่าด้วยคุณสมบัติผู้สมัคร กระบวนการเลือกไขว้ลงคะแนน ปมบล็อกโหวต
สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในสภาสูง หลัง 7อรหันต์กกต. ประกอบด้วย นายอิทธิพร บุญประคอง (ประธาน กกต.) นายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ นายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย นายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี นายปกรณ์ มหรรณพ นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ นายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ ประกาศรับรองสว.จำนวน200คน และสำรอง99 คน โดยผู้ได้รับเลือกเป็นสว.ต้องไปรับใบรายงานตัวที่กกต.11-12ก.ค.67 จากนั้นไปรายงานตัวที่รัฐสภา 11-15ก.ค.67
การเลือกสว.ครั้งนี้ต้องยอมรับว่ามีหลายประเด็นให้กกต.ทั้ง7อรหันต์ ต้องตัดสินใจ ท่ามกลางเสียงคัดค้านเพราะมีผู้ไม่เห็นด้วยกับกระบวนการเลือกสว.โดยเห็นว่าคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้งขัดรัฐธรรมนูญ การจัดตั้งแบบโพยก๊วนล่วงหน้าทำให้การเลือก สว.ขัดกับเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ ประกอบกับมีการร้องเรียนจำนวนกว่า 800 เรื่อง การประกาศรับรองผลไปก่อนเท่ากับกกต.กำลัง"ลุยไฟ"
"นายแสวง บุญมี" เลขา กกต.ชี้แจงสาเหตุ3ประการ ที่กกต.รับรองผลการเลือกสว.เพราะพิจารณาแล้วเห็นว่า การเลือกสว.67 เป็นไปด้วยความถูกต้อง สุจริตและเที่ยงธรรม จึงมีมติ ประกาศผลการเลือกสว. 200 คนและบัญชีสำรอง99คน เพื่อให้เปิดสภาได้
ทว่า กกต.ทั้ง7อรหันต์ยังไม่พ้นบ่วงกรรม ประมวลกฎหมาย มาตรา157 เพราะการเลือกสว.ยังมีปัญหาในกระบวนการได้มา แม้18คดีที่ส่งไปที่ศาลฎีกาจะมีคำสั่งยกคำร้อง ทำให้เป็นเหตุผลหนึ่งในการตัดสินใจประกาศรับรองผลเลือกสว.ก็ตาม แต่เนื่องจากในแต่ละกลุ่มยังมีปัญหาว่าด้วยคุณสมบัติผู้สมัครสว. การเลือกสว. การไขว้ลงคะแนนและการบล็อกโหวต
การเลือกสว.ยังมีปัญหาอีกประการคือ มาตรา 59 ของพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสว.ฯ "ก่อนประกาศผลการเลือก หากมีเหตุอันควรต้องสงสัยว่า การเลือกมิได้เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งมีอำนาจสั่งระงับยับยั้ง แก้ไขเปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกการเลือกและสั่งให้ดำเนินการเลือกใหม่ หรือนับคะแนนใหม่"
ดังนั้น แม้กกต.การประกาศผลรับรอบเลือกสว.ไปก่อนแล้วตามไปสอยภายหลัง ก็อาจนำไปสู่การฟ้องร้องปลายทางอยู่ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการมืองได้อีก.