นายกฯมองหุ้นไทยร่วงกังวลคดีการเมือง ครม.รับทราบGDPโต1.5% เร่งเบิกจ่ายงบ
นายกฯเศรษฐา เผยครม.รับทราบ GDP ไทยไตรมาสแรกโต 1.5% สั่งทุกกระทรวงเศรษฐกิจเบิก-จ่ายงบปี67 กระตุ้นใช้จ่ายภาครัฐ รับตลาดหุ้นไทยร่วงกังวลใจคดีการเมือง แต่เป็นเรื่องคนละตัวบุคคล ออกตัวไม่เหมาะสมคาดการณ์ผลในอนาคต
เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมครม.ได้รับทราบตัวเลขเศรษฐกิจไทย ในไตรมาสที่ 1 ประจำปี 2567 ตามที่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ GPD ของไทยขยายตัวอยู่ที่ ร้อยละ 1.5 และแนวโน้มเศรษฐกิจไทยทั้งปี จะขยายตัวร้อยละ 2 ถึงร้อยละ 3 โดยได้สั่งการให้ทุกกระทรวงเศรษฐกิจ เร่งแก้ไขปัญหาเร่งด่วน และกระตุ้นให้มีการใช้จ่ายภาครัฐโดยเร็ว
นายกรัฐมนตรี ระบุด้วยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ (11 มิ.ย.) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ไม่ได้มีการพูดคุยถึงสถานการณ์ตลาดหลักทรัพย์ หรือ หุ้นไทยที่ร่วงลงมาเมื่อวานนี้ (10 มิ.ย.) ว่าเกิดจากปัจจัยใด แต่เชื่อว่า เกี่ยวข้องกับทั้งตัวเลขทางเศรษฐกิจ และสถานการณ์ทางการเมืองด้วย
นายกรัฐมนตรี ยังได้เน้นย้ำในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ให้ทุกหน่วยราชการ และรัฐวิสาหกิจ เร่งเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประปีงบประมาณ 2567 ที่เหลือเวลาใช้บังคับเพียง 4 เดือน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่จะส่งผลโดยตรงต่อประชาชนในวงกว้าง โดยจะต้องดำเนินการอย่างถูกต้องตามระเบียบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องของแนวทางการสร้างความเชื่อมั่นกรณีหุ้นไทยตก ซึ่งปัจจัยมาจากทางการเมือง กรณีคดีใหญ่ 3 คดีที่เกิดขึ้น นายกฯ กล่าวว่า ตนเองคิดว่าเป็นเรื่องที่ทางตลาดหุ้นไทยมีความกังวลอยู่ แต่เชื่อว่า เป็นเรื่องของแต่ละตัวบุคคล ในกรณีอดีตนายก ทักษิณชินวัตร และเรื่องพรรคก้าวไกล แต่ละเรื่องมีกลไกตามกระบวนการ ส่วนกรณีของตนเองในเรื่องชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ ก็ต้องเคารพต่อศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งได้มีการส่งเอกสารชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า ถ้าหากผ่านพ้นเรื่องดังกล่าวทั้งสามเรื่องสถานการณ์จะกลับมาดีขึ้นหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนเองคิดว่าเรื่องดังกล่าว คงเป็นการไม่เหมาะสมที่จะไปพูดถึงเรื่องผลที่จะเกิดขึ้นในอนาคต