posttoday

เปิดมุมมองกฎหมาย คัดค้านคำสั่งฟ้องทักษิณคดี112 เป็นคุณ หรือ โทษอดีตนายกฯ

10 มิถุนายน 2567

ทักษิณ ชินวัตร ยืนยันจะเดินทางไปฟังคำสั่งฟ้องอัยการ 18มิ.ย. ขณะที่ฝ่ายกฎหมายทักษิณ ยื่นคำร้องขอความเป็นธรรม การสั่งฟ้อง ยกเหตุพนักงานสอบสวนถูกข่มขู่ มีการฟ้องในช่วงคสช.ยึดอำนาจ ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย สะท้อนอีกมุมมองออกมาอย่างน่าสนใจเช่นกัน

KEY

POINTS

  • อัยการนัด ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาฟังคำสั่งฟ้องต่อศาล 18มิ.ย.
  • ทักษิณ ยืนยัน พร้อมเดินทางไปศาล ระบุ ไม่มีข้อกังวลต่อการสู้คดี
  • ทนายความ ฝ่ายกฎหมายทักษิณ ยื่นขอความเป็นธรรม คัดค้านคำสั่งฟ้อง หยิบยกเหตุผล พนักงานสอบสวนทำคดีถูกข่มขู่
  • ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย อัยการ สะท้อนมุมมองทางกฎหมาย หลังจากได้ฟังเหตุผลจาก ฝ่ายกฎหมายทักษิณ   

ตามที่ 'อัยการสูงสุด' นัดฟังคำสั่งฟ้อง 'ทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เมื่อวันที่ 29 พ.ค. แต่ก่อนจะถึงวันนัดฟังคำสั่ง หนึ่งวัน ทักษิณ ได้มอบหมายให้ทนาย นำเอกสารทางการแพทย์ไปยื่น แจ้งว่า ป่วยโควิด ขอให้เลื่อฟังคำสั่ง


อัยการยังยืนยัน นัดฟังคำสั่งวันเดิม 29 พ.ค. และนัดให้มาฟังคำสั่งนำตัวส่งศาล วันที่ 18 มิ.ย. จากนั้น ทักษิณ เก็บตัวเงียบ เป็นช่วงจังหวะเดียวกัน ทีมทนายระดมสมองวางแนวทางการต่อสู้คดีอย่างหนัก กระทั่ง เย็นวันที่ 8มิ.ย.หลังหายป่วยจากโควิด ทักษิณ และ บุตรสาว แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย มาปรากฎตัวงานบวชบุตรชายของ หัวคะแนนคนสำคัญของ ชาญ พวงเพ็ชร์ ผู้สมัครนายกอบจ.ปทุมธานี ที่พรรคเพื่อไทย ให้การสนับสนุน  

ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ ยืนยัน  
-วันที่ 18 มิ.ย.นี้ หายป่วยแล้ว ที่มีการนัดรอบใหม่ จะเดินทางไปแน่นอน  
-คดีแทบจะไม่มีมูล คดีนี้ เรียกว่าเป็นผลไม้เป็นพิษ ที่เกิดจากต้นไม้เป็นพิษ 
-การทำคดีตั้งแต่ต้นที่มีการข่มขู่พนักงานสอบสวนโดยผู้บังคับบัญชา 
 

 

ในเวลาต่อมา ทักษิณ โดยทนายความ ได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมมายังอัยการสูงสุด เพื่อยื่นเหตุผลเพิ่มเติมคัดค้าน คำสั่งฟ้อง ในคดีที่ตกเป็นผู้ต้องหากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จากการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเกาหลีใต้เมื่อปี2558

ฝ่ายกฎหมายของทักษิณ หยิบยกเหตุผล
-พนักงานสอบสวนทำสำนวน ถูกกดดันข่มขู่จากผู้มีอำนาจ ซึ่งเป็นยุค คสช. 
-พนักงานสอบสวนไม่มีความเป็นอิสระในการทำหน้าที่ กระบวนการได้มาซึ่งพยานหลักฐานจึงมิชอบด้วยกฎหมาย และมีความเบี่ยงเบนไปตามที่ผู้มีอำนาจต้องการ 
-คำให้สัมภาษณ์ของอดีตนายกฯ กล่าวกับสื่อเกาหลีใต้ ไม่ได้มีเนื้อหาพาดพิงสถาบันเบื้องสูง และไม่ได้มีถ้อยคำหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย จึงไม่เข้าองค์ประกอบความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 
 

 

แวดวงอัยการ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านกฎหมาย ให้ความเห็น มุมมองทางกฎหมายอีกแง่มุม

-ประเด็นนี้ใช้ ตอนนี้ไม่ได้แล้วเนื่องจาก เลยเวลาความเห็นของพนักงานสอบสวนไปแล้ว ตอนนี้เป็นคำสั่งเด็ดขาดของ อัยการสูงสุด ไปแล้ว

-แต่ถึงแม้ พนักงานสอบสวนทำตามบงการ คสช.จริง แล้วข้อเท็จจริงตรงไหนที่ พนักงานสอบสวนสอบมา เป็นความเท็จ ซึ่งตรงนี้ ไม่เห็นมีการระบุถึงให้ชัดเจน โดยเพื่อหวังผล ที่จะทำให้ความเห็นและคำสั่งอัยการสูงสุด เปลี่ยนแปลงไปในทางเป็นคุณ

-กรณีนี้ เป็นแค่เพียง เหตุผลใหม่ ตามคำกล่าวอ้าง ผลไม้ของต้นไม้พิษ หาใช่พยานหลักฐานใหม่ ที่จะเป็นเหตุนำไปเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมของ อัยการสูงสุดได้ แต่อย่างใด

 

แม้ตามขั้นตอนของกฎหมาย อัยการสูงสุดพิจารณาว่า คำร้องขอความเป็นธรรมที่ยื่นมา ฟังขึ้น -ไม่ขึ้น มีน้ำหนักมากพอที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งฟ้องได้หรือไม่ หากมีน้ำหนักหรือมีมูลพอที่จะพิจารณา อาจจะเลื่อนนัดส่งตัวผู้ต้องหา และนำผู้ต้องหาไปยื่นฟ้องต่อศาลในวันที่ 18 มิ.ย. เพื่อตรวจสอบคำร้องขอความเป็นธรรมให้เรียบร้อยก่อน

มีการมองว่าเป็น แทคติกทางกฎหมาย มุมมองที่อยากจะขอ ประวิงเวลาออกไปสักระยะ เพื่อให้เป็นผลบวกในการต่อสู้คดีของบางฝ่าย  

ในชั้นกระบวนการของคดีความ วันที่ 18มิ.ย. อัยการนัดฟังคำสั่งฟ้องนำตัวส่งต่อศาล ถ้าหากศาลประทับรับฟ้อง ทักษิณ จะแปรเปลี่ยนจาก ‘ผู้ต้องหา’ กลายเป็น ‘จำเลย’ ทันที

กระบวนการต่อสู้ทางคดี เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ การใช้ข้อมูลพยาน หลักฐานต่างๆ ยังมีถึง 3 ศาลให้ต่อสู้ ศาลชั้นต้น อุทธรณ์ ฎีกา กว่าคดีจะถึงที่สิ้นสุด และคงต้องใช้เวลายาวนานเป็นปี กว่าจะได้บทสรุปแห่งผลของคดี