posttoday

ศาลรธน. ย้ำ กกต. มีอำนาจหน้าที่แก้กฎ ผู้สมัครสว.ไม่ต้องเลือกตัวเองก็ได้

05 มิถุนายน 2567

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 8 ต่อ1 รับคำร้องผู้สมัครสว. ร้องปมกฎการเลือกสว. กำหนดผู้สมัครสว. ไม่จำเป็นต้องเลือกตัวเองก็ได้ ศาล ระบุ ไม่ขอกำหนดเป็นมาตราการ แต่ชี้ทางกกต.หากเห็นว่า ทำให้เกิดความเสียหาย ขัดรัฐธรรมนูญ มีอำนาจดำเนินการได้ตามรธน.และกฎหมายลูกเลือกสว.

วันที่ 5 มิ.ย. 2567 ศาลรัฐธรรมนูญประชุมปรึกษาคดีที่น่าสนใจของประชาชน เรื่องพิจารณาที่ 19/2567 และเรื่องพิจารณาที่ 20/2567 ว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) พ.ศ. 2561 มาตรา 36 มาตรา 40 มาตรา 41 และมาตรา 42 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 107 หรือไม่

โดยกรณีศาลปกครองกลางส่งคำโต้แย้งผู้ฟ้องคดี (นางสาววิเตือน งามปลั่ง ในคดีหมายเลขดำที่ 899/2567 เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย มาตรา 212 ว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 36 มาตรา 40 มาตรา 41 และมาตรา 42 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 107 หรือไม่ (เรื่องพิจารณาที่ 19/2567)

รวมถึงกรณีศาลปกครองกลางส่งคำโต้แย้งของผู้ฟ้องคดีทั้งห้า (นายฤทธิชัย ศรีเมือง ที่ 1 ผู้สมัครรับเลือก สว.ประจำอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช นายเฉลิมชัย ผู้พัฒน์ ที่ 2 ผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาประจำอำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี นายสิทธิชัย ผู้พัฒน์ ที่ 3 ผู้สมัคร รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาประจำอำเภอค่ายบางระจัน  จังหวัดสิงห์บุรี นายจำนอง บุญเลิศฟ้า ที่ 4 ผู้สมัคร รับเลือกเป็นสมชิกวุฒิสภาประจำอำเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี และนายสากล พืชนุกูล ที่ 5 ผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาประจำอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช) ในคดีหมายเลขดำที่ 812/2567 เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย มาตรา 212 ว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา  36 มาตรา 40 มาตรา 41 และมาตรา 42 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 107 หรือไม่ (เรื่องพิจารณาที่ 20/2563)

ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปรายแล้วเห็นว่า เนื้อหาคำโต้แย้งของผู้ฟ้องคดีทั้งสองคดีเป็นกรณีโต้แย้งว่าพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 36 มาตรา 40 มาตรา 41 และมาตรา 42 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 107 บทบัญญัติดังกล่าวเป็นบทบัญญัติ ที่ศาลปกครองกลางจะใช้บังคับแก่คดี เมื่อผู้ฟ้องคดีทั้งสองคดีโต้แย้งพร้อมด้วยเหตุผลว่าบทบัญญัติดังกล่าวขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ และยังไม่มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวกับบทบัญญัตินี้ กรณีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 212 วรรคหนึ่ง 

ศาลรัฐธรรมนูญมีโดยมติเสียงข้างมาก (8 ต่อ 1) (ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อย คือนายอุดม  สิทธิวิรัชธรรม) มีคำสั่งรับคำร้องทั้งสองไว้พิจารณาวินิจฉัยเฉพาะประเด็นว่าพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 36 มาตรา 40 วรรคหนึ่ง (3) มาตรา 41 วรรคหนึ่ง (3) และมาตรา 42 วรรคหนึ่ง (3) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 107 หรือไม่ โดยรวมการพิจารณาทั้งสองเรื่องเข้าด้วยกัน 

และเพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณาให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำความเห็นเป็นหนังสือตามประเด็นที่ ศาลกำหนดและจัดส่งสำเนาเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 5 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือ  เพื่อประกอบการพิจารณาวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญต่อไป

อนึ่ง ผู้ฟ้องคดียื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลางเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งมาตรการหรือวิธีการใดๆ เป็นการชั่วคราวก่อนการวินิจฉัย ศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่ายังไม่ปรากฎว่าจะเกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงที่ยากแก่การแก้ไขเยียวยาในภายหลัง อีกทั้งหากคณะกรรมการการเลือกตั้งเห็นว่าจะเกิดความเสียหายดังกล่าวย่อมมีหน้าที่และอำนาจที่จะดำเนินการได้ตามรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561  ศาลรัฐธรรมนูญจึงมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่กำหนดมาตรการหรือวิธีการใดๆ เป็นการชั่วคราวก่อนการวินิจฉัย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. 2561 มาตรา 36 บัญญัติว่า ผู้สมัครอาจแนะนําตัวได้ตามวิธีการและเงื่อนไขที่คณะกรรมการกําหนดบุคคลอื่นซึ่งมิใช่ผู้สมัคร จะช่วยเหลือผู้สมัครในการแนะนําตัว ต้องปฏิบัติตามวิธีการและเงื่อนไขตามวรรคหนึ่ง 

มาตรา 40 การเลือกระดับอําเภอ ให้ดําเนินการ ดังต่อไปนี้  (3) ให้ผู้สมัครแต่ละกลุ่มลงคะแนนเลือกบุคคลในกลุ่มเดียวกันได้ไม่เกินสองคน โดยจะลงคะแนน เลือกตนเองก็ได้ แต่จะลงคะแนนให้บุคคลใดเกินหนึ่งคะแนนมิได้

มาตรา 41 การเลือกระดับจังหวัด ให้ดําเนินการ ดังต่อไปนี้ (3) ให้ผู้ได้รับเลือกระดับอําเภอแต่ละกลุ่มลงคะแนนเลือกบุคคลในกลุ่มเดียวกันได้ไม่เกินสองคน โดยจะลงคะแนนเลือกตนเองก็ได้ แต่จะลงคะแนนให้บุคคลใดเกินหนึ่งคะแนนมิได้

มาตรา 42 การเลือกระดับประเทศ ให้ดําเนินการ ดังต่อไปนี้ (3) ให้ผู้ได้รับเลือกระดับจังหวัดแต่ละกลุ่มลงคะแนนเลือกบุคคลในกลุ่มเดียวกันได้ไม่เกินสิบคน โดยจะลงคะแนนเลือกตนเองก็ได้ แต่จะลงคะแนนให้บุคคลใดเกินหนึ่งคะแนนมิได้

 

ศาลรธน. ย้ำ กกต. มีอำนาจหน้าที่แก้กฎ ผู้สมัครสว.ไม่ต้องเลือกตัวเองก็ได้

ศาลรธน. ย้ำ กกต. มีอำนาจหน้าที่แก้กฎ ผู้สมัครสว.ไม่ต้องเลือกตัวเองก็ได้

จากปมประเด็นดังกล่าว กระทั่งช่วงเย็นวันที่5มิ.ย.ยังไม่มีความคิดเห็นจากกกต.เพิ่มเติม มีเพียงการออกมาประกาศกำหนดสถานที่เลือก สว. ทั้งระดับอำเภอ จังหวัด และประเทศ  เช่น การเลือกระดับอำเภอในกรุงเทพฯ ที่จะมีการเลือกวันที่ 9 มิถุนายนนี้ เขตหลักสี่ใช้ห้องประชุมของสโมสรตำรวจ หรือการเลือก สว.ของสำนักงานเขตบางเขน ใช้พื้นที่ศูนย์กีฬารามอินทรา บางเขน 

ส่วนการเลือกระดับจังหวัดของกรุงเทพฯ ที่จะมีการเลือกวันที่ 16 มิถุนายนนี้ ใช้สถานที่โรมแรมเซ็นทาราศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ  

ขณะที่การเลือกระดับประเทศวันที่ 26 มิถุนายน ใช้ อาคารศูนย์การประชุมอิมแพ็คฟอรั่ม อาคาร 4 เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด บีจี ปทุม พบ เมืองทอง ฟุตบอลไทยลีก วันนี้ 14 ธ.ค.68