posttoday

จับตา 23 พ.ค.นี้ ศาลนัดชี้ชะตา 'นายกฯ-พิชิต'หยุดปฏิบัติหน้าที่ หรือไม่

18 พฤษภาคม 2567

"ศาลรัฐธรรมนูญ" นัดพิจารณาคำร้อง 40 สว. ยื่นศาลรัฐธรรมนูญถอด “เศรษฐา-พิชิต” เหตุขาดคุณสมบัติ 23 พ.ค.นี้ จับตานำไปสู่การหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่

ความคืบหน้าหลัง 40 สว.ได้ร่วมกันเข้าชื่อ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 เพื่อส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ความสิ้นสุดลงของตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ของนายพิชิต ชื่นบาน หลังมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 170 (4) และ (5) ประเด็นว่าด้วยขาดความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และมีพฤติกรรมฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ผ่านนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เมื่อวันที่ 15 พ.ค.2567 ที่ผ่านมา นั้น 

ล่าสุด ศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาคำร้อง 40 สว. ปมคุณสมบัติของ นายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และการเสนอชื่อนายพิชิตขึ้นทูลเกล้าฯ ของนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน โดยจะมีการบรรจุเข้าวาระการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญในวันพฤหัสบดีที่ 23 พ.ค.นี้ หลังจากเมื่อวันที่ 17 พ.ค. สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องไว้ในเชิงธุรการ 

โดยการประชุมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ วันพฤหัสบดีที่ 23 พ.ค.นี้ มีวาระพิจารณาว่าจะรับคำร้องไว้พิจิารณาวินิจฉัยหรือไม่ และจะพิจารณาว่าต้องพักการทำหน้าที่ไว้ก่อนระหว่างพิจารณาคำร้องหรือไม่ หากมีมติรับคำร้องไว้พิจารณา
 

นายวันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวถึงกรณี 40 สว. ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ถอดถอนตำแหน่ง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ นายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ว่า ถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับรัฐบาล แต่เชื่อว่าทั้ง 2 คนจะยังไม่หยุดปฏิบัติหน้าที่ เพราะศาลต้องให้เวลาชี้แจงในช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่ในทางการเมืองจะถูกตั้งคำถามถึงเสถียรภาพของรัฐบาล ขณะเดียวกันเหตุการณ์นี้ชี้ให้เห็นถึงฤทธิ์เดชครั้งสุดท้ายของ สว.ที่หมดวาระไปแล้ว ยังมีปฎิกิริยาต่อต้านรัฐบาลชุดนี้อยู่ แม้ว่าสว.ชุดนี้มีส่วนร่วมทำคลอดนายเศรษฐา ก็ตาม

รัฐบาลต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่ารู้ทั้งรู้ สังคมเกิดความรู้สึกไม่สบายใจต่อคุณสมบัติต่อผู้ที่จะมาเป็นรัฐมนตรี ต่อข้อกล่าวหา หรือแม้แต่กรณีสังคมตั้งคำถามถึงความสง่างาม เรื่องเหล่านี้นายกฯ จะหลีกหนีความรับผิดชอบไม่พ้น ถ้าคนมองกลางๆ ก็จะเห็นว่าน่าเป็นห่วงสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อนายกฯเศรษฐาในเรื่องความรับผิดชอบ แม้จะบอกว่ากฤษฎีการับรองแล้วไม่ขัดคุณสมบัติ แต่บุคคลต้นแบบ ตัวผู้นำจะถูกตั้งคำถามในประเด็นความชอบธรรมและความสง่างาม ในทางกฎหมายอาจเอาตัวรอดได้ แต่ในทางสังคมต่างหากที่จะก้าวข้ามพ้นพื้นที่ตรงนี้หรือไม่

เมื่อถามว่า ตามรัฐธรรมนูญกำหนดคุณสมบัติผู้ที่จะเป็นรัฐมนตรีต้องมีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ นายวันวิชิต กล่าวว่า ที่ผ่านมามีหลายคนที่ถูกร้องเรื่องนี้ แต่เราเห็นว่าข้อกล่าวหานี้ทอดเวลาไปพอสมควร จนประชาชนลืมไปแล้วว่านักการเมืองที่ถูกร้องในประเด็นนี้มีใครบ้าง ดังนั้นสุดท้ายอาจเกิดแรงปลุกเร้าว่านายกฯ และนายพิชิตไม่รอดแน่ แต่ตนเชื่อว่าเรื่องนี้จะหายไปกับสายลม เพราะจะมีเรื่องอื่นๆเข้ามาแทรกเบียดพื้นที่ทางการเมืองจำนวนมาก

เมื่อถามย้ำว่า นายพิชิตอาจรอดคดีใช่หรือไม่ นายวันวิชิต กล่าวว่า นายพิชิตอาจโดนหนักหน่วงกว่านายกฯ แต่ในแง่ความรับผิดชอบนายกฯปฏิเสธไม่ได้

ข่าวล่าสุด

ป.ป.ส. โชว์ผล “The Road to Success” เดินหน้าสู่ไทยปลอดยาเสพติด