posttoday

สมชาย สับ เศรษฐา จัดทำงบล่าช้า บี้ ยกเลิกแจกเงินดิจิทัล ชี้ ได้ไม่คุ้มเสีย

25 มีนาคม 2567

สมชาย สว. เย้ย เศรษฐา เซลส์แมน ไปต่างประเทศ ขายของที่ยังขายไม่ได้ ขออยู่เมืองไทย 6 เดือน ชี้ ไม่อยู่ร่วมประชุมครม. ทำเกิดสุญญากาศ ซัด จัดทำงบประมาณล่าช้า หมกมุ่นแต่แจกเงินดิจิทัล แนะยกเลิก สับ เจ้าหน้าที่รัฐ ช่วยทักษิณ ต้องร่วมรับผิดชอบ ทำให้เกิดวิกฤตความยุติธรรม

KEY

POINTS

  • สมชาย แสวงการ สว. อภิปรายรัฐบาลตามรธน.มาตรา 153 ระบุ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ เดินทางไปต่างประเทศบ่อยครั้ง ทำประเทศเกิดสุญญากาศ
  • นายกฯ ทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธาองค์กรยุติธรรม จากกรณี การช่วยเหลือ นายทักษิณ ชินวัตร
  • ขอให้ยกเลิกการแจกเงินดิจิทัล เพราะได้ไม่คุ้มเสีย ติง รัฐบาลจัดทำงบประมาณ ล่าช้า 

วันที่25มี.ค. ที่อาคารรัฐสภา มีการประชุมสมาชิกวุฒิสภา(สว.) เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อให้คณะรัฐมนตรีแถลงข้อเท็จจริง ชี้แจงปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 153

นายสมชาย แสวงการ สว.อภิปรายประเด็นการเดินทางไปต่างประเทศของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังว่า การเป็นเซลส์แมนไปขายของที่ยังขายไม่ได้ การเดินทางบางอย่างถือว่าไม่มีความจำเป็นเพราะผู้นำระดับประเทศของภูมิภาคอาเซียน ไม่จำเป็นต้องไปร่วมทุกคน สามารถมอบหมายรองนายกฯ ที่เกี่ยวข้องไปแทนได้ นายกรัฐมนตรีรับปากว่าจะอยู่บริหารราชการแผ่นดิน ไม่เดินทางอีก 2 เดือนนับจากนี้ ขอให้อยู่เพิ่มอีก 4 เดือนเป็น 6 เดือน หวังว่าจะตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ การเดินทางไปต่างประเทศ 32 ทริป ทำให้ไม่ได้นั่งหัวโต๊ะการประชุมครม. ด้านเศรษฐกิจ ด้านความมั่นคง สังคม ซึ่งไม่มีเลย จึงเกิดสุญญากาศมาตลอด 6 เดือน 
 

ส่วนสาเหตุที่ต้องมาอภิปราย ทั้งที่งบประมาณยังไม่ออก ถือเป็นความผิดของตัวท่านเอง เพราะตั้งแต่มีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีมานานเกือบ 8 เดือน คณะรัฐมนตรีชุดเก่าได้จัดทำงบประมาณเสร็จสิ้นแล้ว หากตนเป็นนายกฯ จะเสนอร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวต่อสภาทันที เพื่อเข้าสู่กระบวนแก้ไขในสภาจะทำให้เม็ดสำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจตั้งแต่ 4 เดือนที่แล้ว

ดังนั้นที่งบประมาณล่าช้าเป็นความผิดของครม.เอง นอกจากนี้ ยังหมกมุ่นเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตมาก ทั้งที่ได้ไม่คุ้มเสีย อย่าดันทุรังต่อไป การกู้เงิน 5 แสนล้านบาท เป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ เสี่ยงผิดกฎหมาย ประเทศไทยติดกับดักประเทศกำลังพัฒนามากกว่า 50 ปีไม่พัฒนาอะไรเลยใช้เพียงนโยบายประชานิยมแจกอย่างเดียวสุดท้ายต้องกู้มาแจก จึงขอให้เลิกการกู้เงินมาแจกเพราะเป็นการทำลายประเทศ
 

นายสมชาย อภิปรายประเด็นความอยุติธรรมในกระบวนการยุติธรรมว่า รู้สึกว่า ประเทศนี้ขาดความยุติธรรม เสื่อมวิกฤตความยุติธรรมอย่างถึงที่สุด นายกรัฐมนตรีมีส่วนรับผิดชอบสำคัญในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ท่านเป็นประธานก.ตร. คุมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คุมโรงพยาบาลตำรวจ คุมกระทรวงยุติธรรม แม้ประชาชนจะไม่พูด แต่เขารู้สึกว่าความยุติธรรม 2 มาตรฐาน บางคนเรียกว่าไร้มาตรฐาน นักโทษในเรือนจำกว่า 200,000 คน ได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกันหรือไม่

วันนี้ไม่มีความจำเป็นต้องมีศาล คงไว้ให้เหลือแต่กรมราชทัณฑ์ ที่อ้างกฎ อ้างระเบียบ อธิบดีกรมราชทัณฑ์เป็นผู้แก้ไข จนเกิดช่องว่าง แต่กฎหมายกำหนดว่านักโทษที่จะได้รับการลงโทษจะต้องเป็นผู้ประพฤติดี ช่วยงานราชการ อยากถามว่านายทักษิณ ชินวัตร เข้าเงื่อนไขใดบ้าง สนับสนุนการกลับประเทศ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม หลังจากหนีคดีทุจริตไป 17 ปี สิ่งที่ต้องพูดคือปัญหาในการบังคับโทษที่เกิดขึ้นในระบบทั้งการเมืองและข้าราชการ ผู้ใดทำคนนั้นต้องรับผิดชอบ

นายสมชาย ยังได้เปิดคลิปวีดีโอ นายทักษิณลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมถามว่า การลุกนั่ง การใช้มือขวาโหนขึ้นรถกอล์ฟ เหมือนกับอาการเอ็นเปื่อยยุ่ยจริงหรือไม่ การเดินขึ้นบันไดดอยสุเทพ รดน้ำพรวนดินที่งานพืชสวนโลก แสดงถึงความแข็งแรง ต้องขอแสดงความยินดีด้วย ได้สอบถามไปยังแพทย์ระดับแพทย์ผู้ใหญ่และคณบดีหลายคน บางคนให้ถึง 30 คะแนนถือว่าแข็งแรง ขอชื่นชมโรงพยาบาลตำรวจ เดิมนักโทษจะได้รับการพักโทษ รับโทษมาไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 หรือ 6 เดือน อายุ 70 ปีขึ้นไป และมีโรคประจำตัว แต่มีการแก้ไข จากคำว่า และ เป็น หรือ ทำให้แค่อายุ 70 ปี ก็กลับบ้านได้ 

จึงขอบอกว่าเรื่องนี้เป็นการสั่นคลอนกระบวนการยุติธรรมอย่างยิ่ง ไม่ได้มาอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเพราะไม่มีสิทธิ์ แต่ประชาชนจะไม่ไว้วางใจท่าน ความเสื่อมศรัทธานี้จะซึมลึกยาวนาน กังวลว่าจะเกิดวิกฤตศรัทธา จะนำมาซึ่งสึนามิ ที่แก้ไขยาก คนที่จะต้องรับผิดชอบคือเจ้าหน้าที่รัฐและฝ่ายการเมืองที่ไปเอื้อประโยชน์