posttoday

พิธา โต้ ทักษิณ ย้ำ เศรษฐกิจไม่หนักเท่าต้มยำกุ้ง จี้รัฐออก Road Map แก้ปัญหา

17 มีนาคม 2567

พิธา โต้ความเห็น ทักษิณ หลังบอก เศรษฐกิจหนักกว่าช่วงต้มยำกุ้ง รับเศรษฐกิจแค่ซึม โตช้า เย้ย รัฐจ่ายยาผิด หวัง งบประมาณผ่านเร่งอัดโครงการไปยังประชาชน ชวน ทักษิณ อย่าวัดการโตเศรษฐกิจแค่ จีดีพี แนะ มองไปถึง ความร่ำรวยประชาชน

KEY

POINTS

  • นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ไม่เห็นด้วยกับความคิด นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมตรี
  • นายพิธา ระบุ วิกฤตเศรษฐกิจขณะนี้ไม่หนักเท่าวิกฤตช่วงต้มยำกุ้ง ตอนนี้แค่ซึมและเติบโตช้า
  • กระตุ้นภาครัฐ หากงบประมาณผ่านสภาฯ เร่งอัดโครงการไปถึงประชาชน และออก Road Map เพื่อแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจให้ชัด 

ที่จ.เชียงใหม่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้ความเห็น วิกฤตของประเทศไทยตอนนี้หนักกว่าวิกฤตต้มยำกุ้ง เมื่อปี 2540 จะเป็นตัวเร่งให้รัฐบาลเร่งผลักดันโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเร็วขึ้นหรือไม่ ทั้งที่ยังไม่มีที่มาของเงินชัดเจนว่า คำว่าเศรษฐกิจไม่ดีมีหลายระดับ ตั้งแต่เศรษฐกิจซึม จนถึงวิกฤต เช่น เหตุการณ์ต้มยำกุ้ง วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ หรือวิกฤตโควิด มีนิยามวิกฤตเหล่านี้ในระดับสากลอยู่ เพราะวิกฤตเศรษฐกิจ และการเงิน เกี่ยวข้องกันทั่วโลกอยู่แล้ว แล้วจะมีนิยามออกมาว่าวิกฤตไหน GDP ต้องถอยเท่าไหร่ งานวิจัยต้องหายเท่าไร หรือค่าเงินต้องหายเท่าไหร่ ข้อมูลเหล่านี้ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยเคยเล่าให้ฟังแล้ว

"ตอนนี้เศรษฐกิจไม่ดีจริง โตช้าจริง ซึม และการฟื้นฟูหลังจากผ่านสถานการณ์โควิด ยังช้าและแย่มากเป็นอันดับท้ายๆของโลก สิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาโครงสร้างทั้งหมด ไม่ใช่ว่าวิกฤตแล้วเศรษฐกิจหายไป 20% หรือตลาดหุ้นหายไปเกินครึ่งเหมือนตอนวิกฤตต้มยำกุ้ง หรือค่าเงินบาทปรับเป็น 50 บาทจาก 25 บาท ตอนนี้สถานการณ์ไม่เหมือนกันแล้ว พอสถานการณ์ไม่เหมือนกัน เราดันไปบอกว่าเหมือนกัน เราจ่ายยาผิดทันที คุณจะจ่ายยาผิด เพราะคุณวินิจฉัยอาการผิดตอนนี้เศรษฐกิจมันซึม แล้วมันซึมยาว ซึมยาวมาเป็นปี และซึมมาเป็น 10 ปี แต่ปัญหาโครงสร้างในการส่งออกยังเหมือนเดิม เรื่องเกี่ยวกับภาคการผลิตยังเหมือนเดิม"นายพิธา กล่าว
 

นายพิธากล่าวว่า ปีนี้งบประมาณล่าช้า แต่ยังรู้สึกว่า เมื่องบประมาณผ่านแล้วภาครัฐตั้งใจที่จะอัดโครงการที่เป็นประโยชน์ออกไปจริงๆ ไม่ใช่เพียงแค่สัมมนาหรือซื้อผ้าม่าน มีการอัดฉีดลงทุนในโครงสร้างเข้าไป ก็จะทำให้ GDP โตขึ้น ที่สำคัญที่สุด อยากจะชวนรัฐบาลหรือนายทักษิณ คือเวลาวัดเศรษฐกิจ ถ้าคุณวัดผิดก็จะเป็นเข็มทิศที่ผิด ถ้าคุณไปวัดแค่ GDP ว่าโตเท่าไหร่ มันไม่ได้วัดความเหลื่อมล้ำ อยากขอให้ลองหาตัววัดเศรษฐกิจใหม่ๆ ในการดูแล เช่น การเพิ่มมูลค่าของเศรษฐกิจตอนนี้เป็นอย่างไร หรือวัดความร่ำรวยของประชาชน GDP per capita ไม่ได้ดูแค่ระดับประเทศ แต่ดูระดับในจังหวัด จะทำให้บริหารจัดการได้ง่ายขึ้น เราเชื่อว่า ไม่ใช่เป็นการบริหารเศรษฐกิจแบบน้ำหยดอย่างที่เคยชิน แต่เป็นการบริหารเศรษฐกิจแบบฐานรากขึ้นมา จะทำให้เศรษฐกิจเติบโตและเท่าเทียม

ถามว่า วิธีการแก้ไขเฉพาะหน้าที่จะรวดเร็วที่สุด ที่จะเป็นทางออกให้กับประเทศคืออะไร นายพิธา กล่าวว่า ตอนนี้ต้องลงรายละเอียดในเรื่องที่เปราะบางที่เกิดขึ้น เช่น เรื่องการใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดิน เป็นเรื่องสำคัญจะต้องเร่งผ่านงบประมาณให้เศรษฐกิจเดินต่อ เรื่องภาคการผลิตมีปัญหา โดยเฉพาะภาคSME ก็ต้องหามาตรการที่ลดต้นทุนใน SME ลดค่าไฟ ลดค่าวัตถุดิบ สามารถทำให้ SME สามารถเข้าถึงเวทีโลกได้ เรื่องการเกษตรต่างๆ แม้ผลผลิตจากราคาสูงขึ้น แต่ต้องเข้าไปดูว่าเรามีผลผลิตพอหรือไม่ บางเรื่องราคาลงขึ้นมาเพราะมีการแอบนำเข้า เช่น การนำเข้าปลากะพงจากมาเลเซีย ทำให้ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำลง 

ดังนั้นต้องมีหลายมาตรการเข้าไปแก้ไข ที่สำคัญที่สุดคือคือต้องมี Road Map ให้เห็นว่าจะทำอะไร เมื่อไหร่ คนที่จะเข้าไปช่วย คนที่จะเข้าไปตรวจสอบ ต้องไปตรวจสอบใคร แต่ในขณะนี้ถ้าไม่มีอะไรนอกจากดิจิทัลวอลเล็ตมัน เถียงกันในเรื่องแบบนี้ตลอดเวลา ภาพใหญ่กลายเป็นการโต้กันไปโต้กันมา มันไม่สามารถจะแนะนำอะไรไปได้มากกว่าที่ทำอยู่ ถ้ามีแผนอย่างชัดเจนก็น่าจะทำได้