posttoday

'ชัยธวัช'แนะจับตาทักษิณพ้นรพ.ตำรวจเตือนเพื่อไทยระวังมีนายกฯ2คน

15 กุมภาพันธ์ 2567

'ชัยธวัช ตุลาธน' ผู้นำฝ่ายค้านแนะจับตา'ทักษิณ'ออกจากรพ.ตำรวจหลังเที่ยงคืน 18ก.พ.67 อ้างป่วยอาจไม่จริง เตือนเพื่อไทยระวังภาวะนายกรัฐมนตรี2คน บริหารจัดการไม่ดี เก้าอี้'เศรษฐา'สั่นคลอนมีปัญหาแน่

ที่อาคารรัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรและหัวหน้าพรรคก้าวไกล มองว่า หลังจากที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้รับการพักโทษ ออกจากรพ.ตำรวจ ในวันที่ 18ก.พ.2567 สภาพการณ์เหมือนกับมีนายกรัฐมนตรี2คน หากไม่ระมัดระวังจะมีปัญหาในการบริหารงานของรัฐบาล 

นายชัยธวัช กล่าวอีกว่า ยังมีคำถามอีกมากเกี่ยวกับนายทักษิณ เช่นสิทธิการรักษาตัวในโรงพยาบาลโดยไม่ต้องอยู่ในเรือนจำแม้แต่วันเดียวเกิดคำถามว่าได้รับอภิสิทธิ์เหนือนักโทษคนอื่นหรือไม่ มีผู้ต้องขังน้อยมาก ที่ได้สิทธิแบบนายทักษิณ กว่าจะได้รักษานอกเรือนจำจากข้อมูลของกรรมาธิการฯสภาผู้แทนราษฎพบว่าผู้ต้องขังที่ป่วยเกิน 120 วัน มี 3 คน คือสองคนป่วยจิตเวช และอีกหนึ่งคนคือนายทักษิณ ขณะเดียวกันก็มีการอ้างว่าจำเป็นจะต้องอยู่โรงพยาบาลด้วยเหตุผลทางการแพทย์ ซึ่งทันทีที่ได้รับการพักโทษ ก็ไม่แน่ใจว่าสามารถมีสุขภาพดีเพียงพอที่จะออกจากโรงพยาบาลได้หรือไม่ อย่างนี้ก็เป็นข้อเท็จจริงที่ถูกต้องข้อสังเกต 

ส่วนฝ่ายค้านจะตรวจสอบอย่างไร นายชัยธวัช กล่าวว่า ตอนนี้มีคนตรวจสอบเยอะ ว่าข้ออ้าง เหตุผลของกรมราชทัณฑ์ ที่อ้างรายงานทางการแพทย์มีความถูกต้อง โปร่งใส ชัดเจนหรือไม่ ซึ่งอีกเรื่องหนึ่งที่พรรคก้าวไกลให้ความสำคัญ ความเสมอภาคเท่าเทียมในการอำนวยความยุติธรรมในกรณีนี้หลายคนพูดว่านายทักษิณควรได้รับการอำนวยความยุติธรรม เพราะถูกกระทำด้วยคดีความต่างๆที่ไม่เป็นธรรมจากการรัฐประหารพรรคก้าวไกลก็อยากจะบอกว่าคนที่ยังไม่ได้รับความยุติธรรมยังมีอีกเป็นจำนวนมาก ทุกคนควรได้รับการอำนวยความยุติธรรม ไม่ใช่แค่นายทักษิณคนเดียว ซึ่งเรื่องนี้ก็จะมีความเชื่อมโยงกับการนิรโทษกรรมผู้ต้องหาคดีทางการเมืองด้วย 

นายชัยธวัช ยังกล่าวว่า หากปล่อยไว้จะเป็นการเพิ่มความรู้สึกที่ไม่เท่าเทียมและเป็นธรรม อาจจะไม่ได้ส่งผลฉับพลัน แต่จะสะสมในความรู้สึกข้องใจของประชาชน และถ้านายทักษิณได้รับการพักโทษออกมาแล้วรัฐบาลบริหารจัดการไม่ดี ก็อาจจะยุ่งได้ ส่วนจะเป็นข้อมูลพอในการนำมาซักฟอกรัฐบาลหรือไม่ยังบอกไม่ได้ 

อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้กำหนดท่าทีใดๆวันที่ 18ก.พ.2567 ซึ่งเป็นวันที่นายทักษิณ พ้นจากการควบคุมของกรมราชทัณฑ์ 
แต่หากในคืนวันดังกล่าวเลยเที่ยงคืน จะกี่นาทีไม่ทราบ สามารถออกจากโรงพยาบาลตำรวจได้ทันที ก็หมายความว่าเหตุผลที่เป็นข้ออ้างว่า มีความจำเป็นจะต้องอยู่โรงพยาบาลก็ไม่เป็นความจริงนี่ยังไม่ต้องนับว่าอีกสักพักจะมีกำลังวังชาขึ้นมา  พร้อมที่จะเดินสายไปพบประชาชนทั่วประเทศ อันนี้ก็ไปกันใหญ่ 

สำหรับกรณีที่นายทักษิณได้รับการพักโทษจะเป็นผลบวกหรือลบต่อรัฐบาล นายชัยธวัช กล่าวว่าก็คงเป็นคำเตือนไปยังฝ่ายบริหาร ว่าอย่าทำให้เกิดสภาวะนายกรัฐมนตรี 2 คน ส่วนเก้าอี้นายกรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน จะสั่นคลอนหรือไม่นั้น ถ้าบริหารจัดการไม่ดีก็จะมีปัญหา 

ส่วนกรณีที่นายทักษิณอาจจะมีการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองนั้น ส่วนตัวเห็นว่าทุกคนมีสิทธิ์ที่จะทำอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าอย่าทำให้เกิดความยุ่งยากในการบริหาร ตกลงนายกรัฐมนตรีเป็นใครกันแน่ ต้องฟังใคร ซึ่งรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยจะต้องระมัดระวังเรื่องนี้ เพราะรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยเน้นย้ำตลอดเวลา เวลาที่ถูกผลักดันให้ต้องทำสิ่งที่ถูกต้องตามหลักการก็มักจะอ้างว่า ไม่ควรที่จะทำเพื่อไม่เพิ่มความขัดแย้งทางการเมือง พยายามประนีประนอม ไม่ผลักดันการเปลี่ยนแปลงในเชิงโครงสร้างให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ไม่พยายามผลักดันนิรโทษกรรมโดยอ้างว่าไม่ไปเพิ่มความขัดแย้งใหม่ แต่กลับกันกรณีของนายทักษิณ ไม่มีความลังเลใดๆเลยที่จะกังวลว่าจะไปสร้างความขัดแย้งใหม่ 

ส่วนกรณีที่พรรคก้าวไกลจะมีการจับมือกับพรรคเพื่อไทยในอนาคต นายชัยธวัช ได้ร้องโอ๊ย พร้อมกล่าวว่ายัง พรรคก้าวไกลยังคงเป็นฝ่ายค้าน อยู่ที่ผลของการเลือกตั้งครั้งหน้า  ยืนยันว่าแต่ขณะที่ยังเป็นฝ่ายค้านจะไม่จับมือในลักษณะที่เป็นแบบนั้น แต่หากเห็นว่าข้อเสนอของรัฐบาลเรื่องไหนที่เป็นประโยชน์ ก็ยินดีสนับสนุน 

ส่วนจะเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองหรือไม่หากนายทักษิณกลับมา นายชัยธวัช อมยิ้ม พร้อมกล่าวว่าอุบัติเหตุทางการเมืองเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เช่นกรณีของ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ นักกิจกรรมทางการเมือง ผู้ต้องหาคดีม.116 เป็นต้น