posttoday

ครบ120วันแพทย์แจ้งราชทัณฑ์ทักษิณรักษาตัวต่อชั้น14รพ.ตำรวจ

22 ธันวาคม 2566

พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล ศรีสง่า โฆษกรพ.ตำรวจ เผย แพทย์แจ้งผลราชทัณฑ์ให้ทักษิณรักษาตัวต่อชั้น14 และถือเป็นพื้นที่ควบคุม อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ รพ.ไม่มีอำนาจอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้บุคคลใดเข้าพื้นที่การควบคุม

เมื่อ22 ธันวาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศด้านหน้าโรงพยาบาลตำรวจอาคารมหาภูมพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา สถานที่รักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะบนชั้น 14 หลังจากนายทักษิณเข้ารักษาตัวจากนอกเรือนจำครบ 120 วัน ซึ่งตามระเบียบการรักษาตัวนอกโรงพยาบาลจะต้องมีความเห็นจากแพทย์ผู้ทำการรักษาแจ้งผลการรักษาให้กรมราชทัณฑ์ รับทราบเพื่อพิจารณาว่ายังมีความจำเป็นที่จะต้องรักษาตัวอยู่นอกเรือนจำต่อหรือไม่

มีรายงานว่าที่ชั้น 14 ที่รักษาตัว นายทักษิณ พบว่ายังคงมีตำรวจเฝ้าประจำการดูแลความเรียบร้อย มีตำรวจ 2 นาย และ มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 1 นาย นั่งประจำการ ขณะที่ป้ายแจ้งข้อมูลของแต่ละชั้นในอาคารพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงข้อความของชั้น 14 จากเดิมเคยระบุว่า เป็นหอผู้ป่วยพิเศษระดับสูง ซึ่งหมายถึงเป็นชั้นพักฟื้นระหว่างรักษาตัวของตำรวจระดับนายตำรวจชั้นนายพล แต่ปัจจุบัน ข้อความระบุสั้นๆ ว่า “หอผู้ป่วยพิเศษ”
 

ด้าน พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล ศรีสง่า โฆษก โรงพยาบาลตำรวจ กล่าวว่า พื้นที่การควบคุมผู้ต้องขัง ตามคำสั่งศาลเป็นพื้นที่รักษาความปลอดภัย ที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบของกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 รวมถึงโรงพยาบาลตำรวจ มีหน้าที่รักษาคนไข้เพียงอย่างเดียว อีกทั้ง พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 (มาตรา 7) มาตรา 7 ข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคล เป็นความลับส่วนบุคคล ผู้ใดจะนำไปเปิดเผยในประการที่น่าจะทำให้บุคคลนั้นเสียหายไม่ได้ เว้นแต่การเปิดเผยนั้นเป็นไปตามความประสงค์ของบุคคลนั้นโดยตรง หรือมีกฎหมายเฉพาะบัญญัติให้ต้องเปิดเผย แต่ไม่ว่าในกรณีใดๆ ผู้ใดจะอาศัยอำนาจหรือสิทธิตามกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการหรือกฎหมายอื่นเพื่อขอเอกสารเกี่ยวกับข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคลที่ไม่ใช่ของตนไม่ได้

พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล กล่าวอีกว่า ในส่วนอาการป่วย การรักษาตัวของนายทักษิณ ทางโรงพยาบาลตำรวจได้ทำรายงานให้กรมราชทัณฑ์ ทราบแล้ว ซึ่งนายทักษิณ ยังคงรักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาลต่อไป 

ทั้งนี้โรงพยาบาลตำรวจ ขอความร่วมมือสื่อมวลชนในการเข้ามาทำข่าวในพื้นที่ให้ระมัดระวังการนำเสนอภาพข่าวหรือภาพ เพื่อไม่ให้ไปกระทบสิทธิผู้ป่วยและประชาชนที่มาใช้บริการ