posttoday

รัฐบาลเอาจริง ดัน Entertainment Complex-กาสิโน โว โกยรายได้ล้านล้านบาท

17 ธันวาคม 2566

รัฐบาลเอาจริง ดัน Entertainment complex ตั้งกมธ.ศึกษา นิคม เผยรายได้หลัก ไม่ได้มาจาก กาสิโน โว นักลงทุนพร้อมเทแสนล้านลงทุน เล็งปักหมุดสร้างในเมืองท่องเที่ยว โว ศักยภาพไทยเหนือคู่แข่ง เปิดไทม์ไลน์ เข้าสภาฯมี.ค.67 ก่อสร้าง68 ชี้ ถ้าสำเร็จ ดึงเงินเข้าประเทศนับล้านล้านบาท

นายนิคม บุญวิเศษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร(Entertainment Complex) เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายและเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผย'โพสต์ทูเดย์'ว่า กรอบหน้าที่การทำงานของกรรมาธิการฯชุดนี้ มีนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ทำหน้าที่ประธานกรรมาธิการฯ และคณะกรรมาธิการคนอื่น รวมทั้งหมด 60 คน วางกรอบการศึกษารายละเอียดต่างๆ 90 วัน เป็นการทำงานต่อเนื่องจากผลการศึกษาของรัฐบาลชุดที่แล้ว โดยเรานำผลศึกษามาพิจารณา ต่อยอด 

การสร้างสถานบันเทิงครบวงจร มีเป้าหมายในการสร้างเศรษฐกิจ หาเงิน ดึงนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ เมื่อพูดถึงกาสิโน คนจะเข้าใจ ต้องการจะเปิดบ่อนการพนันถูกกฎหมายเพียงอย่างเดียวหรือไม่ แต่ความจริงไม่ใช่อย่างนั้น เป็นการสร้างสถานบันเทิงครบวงจร มีทั้งโรงแรม ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร สวนน้ำ ศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ สปอร์ตคอมเพล็กซ์ สถานที่ขายสินค้าโอท็อป เป็นต้น กาสิโนมีสัดส่วนเพียงแค่ 5 เปอร์เซ็นต์จากพื้นที่ทั้งหมดเท่านั้น

เป้าหมายที่วางไว้ เดือนมีนาคม2567 จะนำเสนอเข้าสภาฯ พิจารณาทั้ง3วาระ อาจจะใช้เวลานานหลายเดือน ออกเป็นกฎหมาย หากไม่มีอะไรผิดคาด ต้นปี2568 น่าจะเริ่มมีการก่อสร้างทันที เราดูจากพื้นที่ๆเคยศึกษาจากกรรมาธิการฯชุดที่แล้ว สถานที่จะก่อสร้างนั้น เบื้องต้นกระจายไปทุกภูมิภาค เชียงใหม่ กทม. ชลบุรี ที่เป็นพื้นที่อีอีซี แถวสนามบินอู่ตะเภา ภูเก็ต ทางภาคอีสาน ขอนแก่นหรืออุดรธานี 

 

รัฐบาลเอาจริง ดัน Entertainment Complex-กาสิโน โว โกยรายได้ล้านล้านบาท

จากการเชิญตัวแทน ผู้ที่ลงทุนมาในชุดที่แล้ว มีนักลงทุนสนใจที่จะมาลงทุนในไทยเป็นจำนวนมาก ในครั้งนี้ เชื่อว่าจะเป็นเช่นนั้น ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดสรรรายได้เข้ารัฐ แบ่งให้รัฐ ยังต้องไปพูดคุยหารือกันอีก ยังไม่ได้สรุปลงไปชัดขนาดนั้น แต่ความเห็นส่วนตัว สัดส่วนที่จะแบ่งคงอยู่ประมาณ 20-30 เปอร์เซ็นต์

นายนิคมกล่าวว่า การก่อสร้าง ตามศักยภาพแต่ละพื้นที่ อาจแบ่งเป็น S-M-L กล่าวคือ ในกทม. หรือ ภูเก็ต คงไปหาพื้นที่เป็น ร้อยๆไร่ คงไม่ได้ แต่ในบางจังหวัดอาจทำได้ จึงอาจมีการปรับขนาดเพื่อให้เกิดความเหมาะสม มีนักลงทุนที่พร้อมลงทุน บางรายเสนอจะลงทุนกว่า 1.5 แสนล้านบาท เพราะเขาเห็นว่า เมืองไทยมีศักยภาพ มีความพร้อมด้านต่างๆทั้งด้านการท่องเที่ยว เรื่องพื้นที่ อาหารการกิน สภาพอากาศ เหมาะแก่การลงทุน เชื่อว่า หากกฎหมายผ่านสภาฯ มีการก่อสร้างได้แล้วเสร็จ จะดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาประเทศได้เป็นจำนวนมาก

 “เท่าที่รู้ กาสิโนตามแนวตะเข็บชายแดน ปัจจุบัน มีปัญหาเรื่องรายได้ เนื่องจากยอดผู้เดินทางมา โดยเฉพาะจากจีน รัฐบาลยังควบคุมการเดินทางออกนอกประเทศ ทำให้รายได้คนจะมาเล่นหายไปด้วย ประกอบกับ มีการสร้างกาสิโนเพียงอย่างเดียว แต่ในปัจจุบัน ออนไลน์ทำให้ผู้คนเข้าถึงมากขึ้น ดังนั้นการจากศึกษารายละเอียดต่างๆ จึงเห็นว่า รายได้ที่จะมา ไม่ได้มาแค่เพียงกาสิโนอย่างเดียว แต่รายได้หลักจะมาจาก ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร โรงแรม ศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ ลานกีฬา บางประเทศ ได้ปรับตัว ทำธุรกิจเป็นแนวทางนี้เลยไปได้ มีรายได้ ของเราคงเป็นอย่างนั้นเช่นกัน”นายนิคมกล่าว

นายนิคม กล่าวอีกว่า กรรมาธิการฯชุดนี้ เราเพียงเอาข้อมูลจาก กรรมาธิการชุดก่อนหน้า ในรัฐบาลที่แล้วศึกษาไว้แล้ว มาต่อยอด เอามาเป็นแนวทาง แต่ชุดนี้ ก็มีการตั้งอนุกรรมาธิการฯ ออกเป็นอีก 3 คณะ 
1.คณะอนุกรรมาธิการฯพิจารณากฎหมายสถานบันเทิงครบวงจร

2.คณะอนุกรรมาธิการฯพิจารณาผลกระทบทางสังคม

3.คณะอนุกรรมาธิการฯเกี่ยวกับการจัดเก็บรายได้  

สำหรับการทำงานของคณะกรรมาธิการฯชุดนี้ ได้ประชุมไปแล้ว 4-5ครั้ง พยายามศึกษาให้รอบครอบทุกด้าน การประชุมครั้งล่าสุดครั้งที่แล้ว ได้เชิญตัวแทนจากอีอีซี มาให้รายละเอียด และ กลุ่มผู้ที่ห่วงใย นำเสนอข้อมูล เรารับฟังหมด ฝ่ายห่วงใย เป็นห่วงเรื่องการฟอกเงิน การจะทำให้คนติดการพนันมากขึ้นหรือไม่ กฎระเบียบในการควบคุม ซึ่งเขาเป็นห่วงอยากให้มีการแก้ไขเรื่องเหล่านี้ให้ได้ด้วย

ขณะเดียวกัน ยังต้องไปดูในรายละเอียดต่างๆ บุคคลที่จะเข้ามาเล่น การกำหนดช่วงอายุ เป็นต้น โดยได้ไปศึกษาโมเดลต่างๆมาหมดไม่ว่าจะเป็นจาก สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ มาเก๊า เป็นต้น

ขอย้ำว่า รัฐบาลนี้มุ่งมั่นเอาจริง เดินหน้าหารายได้เข้าประเทศ นักลงทุนมีความพร้อม หากทำได้สำเร็จเชื่อว่า จะสร้างรายได้เข้าประเทศนับล้านล้านบาทเลยทีเดียว โดยบางรายถึงขนาดบอกว่า ถ้ากฎหมายผ่าน เจรจารายได้กับภาครัฐลงตัว กับศักยภาพของประเทศไทยที่เหนือกว่าคู่แข่ง ไม่กี่ปีเขาก็คืนทุนแล้ว