posttoday

“สมชัย ศรีสุทธิยากร” ชี้ พ.ร.บ. เงินกู้ คือ ทางลงของ “เศรษฐา”

11 พฤศจิกายน 2566

เผยรัฐบาลไม่กล้าออกเป็น พ.ร.ก. ที่ทำได้โดยมติ ครม. ในสมัยปิดสภา เหตุรู้ การออก พ.ร.ก. คือ คุก และ การออกเป็น พ.ร.บ. มีข้อแก้ตัวได้ว่า ถ้าไม่สำเร็จ เป็นเพราะคนอื่น

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร โพสต์เฟซบุ๊ก ส่วนตัว ระบุ หรือ พ.ร.บ. เงินกู้ คือ ทางลงของเศรษฐา

การใช้แหล่งเงิน ดิจิทัล 10,000 บาท จากการออกเป็น พ.ร.บ.เงินกู้ อาจไม่ใช่การหาทางออกแต่เป็นการหาทางลงให้คุณเศรษฐา

รัฐบาลไม่กล้าออกเป็น พ.ร.ก. ที่ทำได้โดยมติ ครม. ในสมัยปิดสภา ทั้ง ๆ ที่ปากพร่ำว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนฉุกเฉิน เพราะรู้ว่า ออก พ.ร.ก. คือ คุก และ การออกเป็น พ.ร.บ. มีข้อแก้ตัวได้ว่าถ้าไม่สำเร็จ เป็นเพราะคนอื่นแทน

แต่ตอนที่คุณเศรษฐา ยิ้มแย้มตอนบอกว่า จะออก เป็น พ.ร.บ.นั้น อาจไม่รู้ไม่เข้าใจกลไกการออก พ.ร.บ. ทั้งในด้านขั้นตอนทางกฎหมายและความเขี้ยวของฝ่ายการเมือง

วันแรกที่ พ.ร.บ.เข้าสภา อำนาจต่อรองของเพื่อไทยจะเป็นศูนย์ การยกมือแต่ละมือของพรรคร่วมรัฐบาล คือ การคงอยู่หรือล้มหายของนายกรัฐมนตรีชื่อเศรษฐา เพราะหาก พ.ร.บ. ไม่ผ่านสภา นายกมี 2 ทางเลือก คือ ยุบสภาหรือลาออก

หากดันจนผ่านสภาผู้แทนได้ ยังมีด่านของวุฒิสภา หากวุฒิสภายับยั้ง ก็ต้องรออีก 180 วัน จึงจะเสนอกลับมาใหม่ได้

ยังไม่คิดถึงกรณีถูกร้องศาลรัฐธรรมนูญว่าการออก พ.ร.บ.เงินกู้ ขัดรัฐธรรมนูญ ขัดวินัยการเงินการคลังของรัฐ

ดูเส้นทาง พ.ร.บ. เงินกู้ ที่มีเส้นทางวิบากเช่นนี้ จึงบอกก่อนได้เลยว่า เดือนพฤษภาคม 2567 นั้น คืออีกหนึ่งขายฝันของรัฐบาลเพื่อไทย 

พอถึงพฤษภา อาจบอกว่า ใจเย็น ๆ อีกครั้ง เพราะกระบวนการทั้งหมดทั้งสภาผู้แทน วุฒิสภา หรืออาจไปถึงศาลรัฐธรรมนูญ น่าจะไม่น้อยกว่า 8 เดือน 

และโอกาสแจกได้จริง มีเพียง 50/50 หรือครึ่งต่อครึ่งเท่านั้น

ไม่แน่นัก การรู้ว่า ออก พ.ร.บ. มันยากเย็นขนาดนี้ อาจเป็นการหาทางลงที่ไม่ใช่ทางออกของคนยิ้มซื่อ ๆ ที่ชื่อเศรษฐา ทวีสิน

อาจเป็นทางลงจากตำแหน่ง แต่ไม่ใช่ทางออกของการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท