ธรรมนัส เตรียมเสนอ ครม.อนุมัติเงินชดเชยให้ชาวนา 1 พันบาทต่อไร่
ธรรมนัส เตรียมชงครม. อนุมัติเงินชดเชยชาวนา 1 พันบาทต่อไร่ แจง ซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิ 1.2หมื่นบาทต่อตัน ดำเนินการได้ทันที เล็ง เปิดตลาดขายข้าวหลายประเทศ 22พ.ย.เยือนจีน เจรจาส่งสินค้าเกษตร หลัง15ม.ค.67 ลุยแจกโฉนดที่ดิน ในเขตปฏิรูปที่ดิน ย้ำทำงาน 2รมช.ไม่มีปัญหา
วันที่10พ.ย.ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ(นบข.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ ที่มี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน การประชุมของคณะอนุกรรมการฯ จะเป็นการขออนุมัติเงินชดเชยในการพัฒนาและบริหารคุณภาพข้าวให้กับชาวนา 1,000 บาทต่อไร่ ไม่เกิน 20 ไร่ จำนวน 20,000 บาท แนวทางดังกล่าว จะต้องเร่งดำเนินการเพราะจะเสนอครม. ในสัปดาห์หน้า กระทรวงการคลัง โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ได้เตรียมงบประมาณวงเงินดังกล่าวไว้ให้แล้ว
การซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิ ความชื้นไม่เกิน 25% วงเงิน 12,000 บาทต่อตัน สามารถดำเนินการได้เลย ขณะที่การช่วยเหลือชาวนา ในอนาคตหากพบว่า ราคาข้าวมีการตกต่ำ รัฐบาลเข้ามาช่วง 2 เดือน ภายใต้กรอบที่ยังไม่สามารถใช้งบประมาณได้ ขณะนี้เป็นการใช้งบประมาณพรางไปก่อน หลังฤดูเก็บเกี่ยว กระทรวงเกษตรฯ จะมีมาตรการพัฒนาคุณภาพข้าวในการที่จะหาตลาดส่งออกเพื่อระบายข้าวให้ได้มากที่สุด เชื่อมั่นว่า ในฤดูเก็บเกี่ยวปี 2566/2567 จะไม่เกิดปัญหาเช่นนี้อีก กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงการคลัง จะแก้ไขปัญหาให้กับชาวนาอย่างยั่งยืนต่อไป ตนเล็งตลาดขายข้าวอื่นๆแล้ว วันที่ 22 พ.ย.จะเดินทางไปยังประเทศจีน เพื่อการเจรจาส่งสินค้าทางด้านการเกษตรหลายๆอย่างไป โดยจะไปทำพิธีสารในเรื่องของสินค้าเกษตรหลายๆอย่าง
ร้อยเอกธรรมนัส ยังกล่าวถึงสถาบันเกษตรกรในพื้นที่ที่รับซื้อข้าว ให้เป็นไปตามมติ ครม. ให้รับซื้อในราคา 12,000 บาทต่อตัน ในการประชุมคณะอนุกรรมการวันนี้ ได้กำชับปลัดกระทรวงเกษตรฯ รวมทั้งอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ว่าต้องปฏิบัติตามมติครม.แต่หากสถาบันเกษตรกรใด ซื้อข้าวเปลือกในราคาที่ต่ำกว่านี้ ธ.ก.ส. จะมีมาตรการขั้นเด็ดขาด ดังนั้นอย่าซื้อราคาต่ำกว่านี้ เป็นการเอาเปรียบชาวนา แต่ยังพบปัญหาที่จังหวัดพะเยา ซึ่งอาจจะเป็นการสื่อสารกันผิดเนื่องจากขณะนี้เป็นการซื้อข้าวสด
ร้อยเอกธรรมนัส ยังยืนยันว่า การทำงานในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไม่มีวันหยุดในเรื่องการลงพื้นที่ เพื่อนำปัญหาของประชาชนที่ทำการเกษตรมาศึกษาและแก้ปัญหาเป็นนโยบาย ได้สั่งการไปยังปลัดกระทรวงเกษตรฯ รวมทั้งอธิบดีทุกกรม จะต้องทำงานแบบบูรณาการ ผลงานก็จะเห็นหลังจากนี้ เป็นต้นไป เพราะกรอบการทำงาน 60 วันที่ผ่านมา เป็นกรอบการทำงานโดยมีการวางแผน เพื่อเข้าสู่การปฏิบัติหลังวันที่ 15 ธันวาคมนี้ ในหลายๆเรื่อง หลังวันที่ 15 มกราคม 2567 จะเดินหน้าแจกโฉนดที่ดินให้กับประชาชนที่อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน เพื่อการเกษตร รวมทั้งการช่วยเหลือแรงงานที่เดินทางกลับมาจากอิสราเอล
นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องของการแก้ไขปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรและการระบายสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้นตนจะเริ่มทำงานกับกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงพาณิชย์ ในการระบายสินค้า ทั้งนี้มองว่าการลดต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกร ก็เป็นเรื่องที่สำคัญตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ จะเห็นเป็นรูปธรรมหลัง 15 ธันวาคมนี้
ร้อยเอกธรรมนัสกล่าวว่า การทำงานร่วมกันของรัฐมนตรีในกระทรวงเกษตรฯ ไม่มีปัญหา โดยตนได้เชิญรัฐมนตรีช่วยทั้ง2คนมาพูดคุยกรอบการทำงานว่า ต้องทำงานอย่างไร ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ แต่บางคนเป็นรัฐมนตรีใหม่ อาจจะยังไม่ทราบกรอบการทำงาน แต่ตอนนี้เข้าใจกันหมดแล้ว ได้มอบงานให้แต่ละคนไปทำ และทำให้เต็มที่ ซึ่งจะมีการประเมินการทำงาน หรือ KPI เป็นไตรมาส ที่จะดูจากผลงาน