posttoday

จับตา สาธารณสุข ชงครม. ส่งเสริมการมีบุตร เสริมศักยภาพแข่งขันประเทศ

01 ตุลาคม 2566

จับตา สาธารณสุข ชงที่ประชุมครม. 3ต.ค. เสนอแนวทางเพิ่มจำนวนพลเมือง ส่งเสริมการมีบุตร พร้อมดันเป็น วาระแห่งชาติ ห่วง คนหนุ่มสาว ไม่แต่งงาน-แต่งงานช้า-ไม่มีบุตร ส่งผลกระทบ ศักยภาพการแข่งขันในอนาคต เผย ปัจจัยเศรษฐกิจ ทำให้ อัตราเกิดระยะหลังลดลงเหลือเพียง 4 แสนกว่าคนต่อปี

นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ข้าราชการการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายให้ไปช่วยงาน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กรอบการดำเนินงานของตน จะทำตามที่นพ.ชลน่าน รมว.สาธารณสุข มอบหมายงาน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เข้าไปร่วมรับฟังการนำเสนอนโยบายจาก นพ.ชลน่าน พูดต่อข้าราชการในกระทรวงสาธารณสุข ต้องขอชมเชย รมว.สาธารณสุข ปลัดกระทรวง ผู้บริหารกระทรวง และข้าราชการ มีความมุ่งมั่นเอาจริงเอาจัง ต่อการผลักดันนโยบายต่างๆของรัฐบาล 

นพ.ชลน่าน นำเสนอและรับฟังการแลกเปลี่ยนมีหลายอย่าง ที่จะดำเนินการออกมาเป็นระยะๆ มีแผนปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมแต่ละช่วงเวลา แม้รัฐบาลเพิ่งทำงานได้ประมาณ 2 อาทิตย์ กระทรวงสาธารณสุข ต้องขอชมเชยเป็นกระทรวงที่ทำงานได้เร็ว มีแผนเป็นระยะๆ ในระยะเร่งด่วน มีทั้งนโยบาย30 บาทพลัส จะให้ประชาชนใช้บัตรประชาชนใบเดียวสามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลได้ทุกที่ เรื่องนี้ถือ เป็นนโยบายหลักทั้งของพรรคเพื่อไทย และก็เป็นนโยบายของรัฐบาลด้วย 

เช่นเดียวกับ การเร่งฉีควัคซีน ป้องกันมะเร็งปากมดลูก ให้สุภาพสตรีตั้งแต่อายุ 11ปี ขึ้นไป คงต้องเร่ง เพราะฉีดเร็วก็จะยิ่งดีสำหรับประชาชน เรื่องอื่นๆ เตรียมจะผลักดัน 50 โรงพยาบาล 50 เขต ในกทม. อาจจะมีการนำร่องก่อนในบางเขต คงต้องรอ รมว.สาธารณสุข เป็นผู้ประกาศออกมา

อีกเรื่องที่น่าสนใจ การเพิ่มพลเมืองคนไทย หรือ ส่งเสริมการมีบุตร เรื่องนี้เกิดจาก การเกิดของคนไทย ระยะหลังๆลดน้อยลงเป็นอย่างมาก เหลือประมาณ 4แสนกว่าคนต่อปี จากเดิม เกิดนับล้านคนต่อปี นพ.ชลน่านเคยให้สัมภาษณ์ เดี๋ยวนี้ คนรุ่นใหม่ ไม่ค่อยแต่งงาน หรือ แต่งงานช้า หรือ แต่งงานแล้วไม่อยากมีลูก อาจจะกังวลปัญหาเศรษฐกิจ ค่าครองชีพ แต่ภาพเสียอีกด้านหนึ่งคือ พลเมืองไทยลดลง ทำให้บุคคลากรไม่ว่าสาขาไหนๆ ลดลงตามไปด้วย ยิ่งโลกในปัจจุบันเป็นยุคที่ต้องแข่งขันกัน ประเทศไทยเราต้องมีคนรุ่นใหม่ บุคคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ จากแต่ละสาขาอาชีพที่มีศักยภาพ เพื่อจะต้องไปแข่งขันและต้องมารับภาระในอนาคต วันข้างหน้า

"ทุกวันนี้อย่างที่เราทราบ สังคมไทยกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุ เพิ่มมากขึ้น ขณะที่คนวัยหนุ่มสาว วัยทำงาน กลับค่อยๆลดน้อยลง ทุกวันนี้ไม่แค่เพียงการขาดแคลนบุคคลากร แต่ยังห่วงบุคลากรที่จะมาเป็นกำลังแรงงานในอนาคต เรื่องการจัดเก็บภาษี นำไปพัฒนาบ้านเมืองจะลดน้อยลงตามไปด้วย การเพิ่มพลเมือง จึงต้องทำให้เป็นอย่างเป็นรูปธรรม มีมาตรการต่างๆออกมา ตามความเห็นส่วนตัว ควรผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติ เข้าใจว่า รัฐมนตรีน่าจะนำเสนอเรื่องนี้เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) 3 ต.ค. เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ต้องให้ครม.รับทราบ อนุมัติในหลักการ เพื่อผลักดัน นำไปดำเนินการให้เห็นเป็นรูปธรรมต่อไป"นพ.เชิดชัยกล่าว