พิธากดปุ่มประชุมโหวตหัวหน้าพรรคก้าวไกลเผยนายกฯ ปรึกษา‘ทักษิณ’เรื่องปกติ

รายงานข่าวระบุว่า บรรยากาศการประชุมวิสามัญของพรรคก้าวไกลที่อาคารไทยซัมมิท ในวาระการเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ในวันนี้ มีสส.ของพรรค อดีตกรรมการบริหารพรรค และสมาชิกพรรค เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพียง โดยนายพิธา ลิ้มเจิรญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวเปิดการประชุม ระบุว่า เริ่มต้นด้วยการทักทายทุกๆคนที่มาร่วมประชุม และขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันเหนื่อยในช่วงต้นปีที่ผ่านมา 

ส่วนเหตุผลที่ต้องมาประชุมกันในวันนี้เริ่มต้นจากที่ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ลาออกจากกรรมการบริหารพรรคภาคเหนือ เพื่อจะเป็นรับตำแหน่งรองประธานสภาคนที่ 1 และต่อมาเมื่อการทำงานตัดสินใจแน่ชัดแล้วว่า พรรคก้าวไกลจะต้องเป็นฝ่ายค้าน และต้องเป็นฝ่ายค้นเชิงรุก

ขณะที่ด้านนายพิธาเอง ก็มีความจำเป็นที่จะต้องลาออกเพื่อเปิดทางให้พรรคก้าวไกลได้เป็นผู้นำฝ่ายค้ายเชิงรุก เพื่อให้พรรคได้หาผู้นำฝ่ายค้านตามรัฐธรรมนูญที่จะต้องเป็น สส.ระหว่างที่จะต้องรอเรื่องเกี่ยวกับคดีความและยังต้องรอเวลาอยู่ จึงจำเป็นต้องเปิดประชุมวิสามัญ เพราะถือเป็นการปรับองค์กร เพื่อจะเดินต่อไป ทั้งเรื่องบุคลากรและข้อบังคับ

แต่สิ่งที่จะทำร่วมกันก็เพื่อจะกระโดดและปรับไปข้างหน้า ให้ก้าวได้ไกลกว่าเดิม และวันนี้ก็จะต้องหารือกันใน 3 - 4 วาระเพื่อให้เกิดการแสดงความคิดเห็นร่วมกัน ส่วนในวันพรุ่งนี้ขอให้ทุกคนไปร่วมกันพบปะสมาชิกพรรคเพื่อแสดงพลังกันอย่างพร้อมเพียง และคาดว่าจะมา 4,000-5,000 คน

พร้อมเปิดเผยอีกว่า สำหรับงบประมาณในการจัดงานวันนี้ ได้รับการสนับสนุนจาก กองทุนพัฒนาพรรคการเมือง ที่ได้นำเครื่องลงคะแนนอัตโนมัติมาใช้ในการลงคะแนนเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลชุดใหม่

นอกจากนี้นายพิธายังให้ความเห็นต่อกรณีที่นายกฯ เศรษฐา ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ว่า หากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พ้นโทษจะตั้งเป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีว่า ได้ทราบจากข่าวเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ว่านายเศรษฐาไม่ได้พูด และตนเข้าใจว่านายเศรษฐาต้องการปรึกษากับอดีตนายกฯ ที่ผ่านมา  ในเรื่องเกี่ยวกับข้อกฎหมาย ศีลธรรม และจริยธรรม ซึ่งไม่เห็นว่าเป็นเรื่องที่ผิดปกติอะไร

เมื่อถามถึงกรณีที่นายทักษิณ อาจได้รับการปฏิบัติ 2 มาตรฐานพรรคก้าวไกลจะตรวจสอบเรื่องนี้อย่างไร นายพิธา กล่าวว่า ตนยังไม่ได้ตามเรื่อง แต่เท่าที่ทราบทางพรรคได้มีการพูดคุย เรื่องเกี่ยวกับพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม เพื่อที่จะทำให้เกิดความทัดเทียมและเป็นบรรทัดฐาน  ทั้งนี้ ตนเข้าใจว่าสมาชิกพรรคและผู้ที่เกี่ยวข้อง กำลังเตรียมกฏหมายในเรื่องดังกล่าว เพื่อยื่นเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรอยู่ 

สำหรับกรณีที่นายพิธาเข้าพบเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย และ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย ในงานวันชาติจีนใน ช่วงเวลาเดียวกับที่นายเศรษฐาเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ต่างประเทศนั้น ถือว่าเป็นนายกฯเงาหรือไม

นายพิธา หัวเราะก่อนตอบว่า  คงไม่ได้เกี่ยว เนื่องจากวันดังกล่าวเป็นวันชาติจีน จึงเลือกวันที่จะพบกับทูตฯจีนไม่ได้ เพราะเป็นวันชาติของประเทศเขา ทั้งนี้ ในส่วนทูตสหรัฐฯ นั้น ได้นัดหมายกันมาตั้งแต่สัปดาห์ก่อนแล้ว แต่เนื่องจากติดธุระและต้องลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดระยอง จึงไม่มีโอกาสได้เข้าไปพบ ดังนั้นเวลาดังกล่าวจึงเหมาะสมกับการมาเจอกันภายในอาทิตย์เดียวกัน ซึ่งได้มีการพูดคุยเพื่อประโยชน์ของทั้งสองชาติ ทั้งคนของประเทศจีน คนของสหรัฐฯ และคนของประเทศไทย