posttoday

รัฐบาลย้ำเปิดสถานบริการได้ 24 ชม.แค่ในเขตสนามบินอู่ตะเภา ไม่รวมพัทยา

27 สิงหาคม 2566

รัฐบาลแจงหลังมหาดไทยออกกฎกระทรวงอนุญาตเปิดสถานบริการ 24 ชั่วโมง ในเขตส่งเสริมเมืองการบินภาคตะวันออก ย้ำไม่ครอบคลุมพื้นที่เมืองพัทยา อนุญาตเฉพาะในสนามบินอู่ตะเภาที่บอร์ดอีอีซีประกาศเป็นพื้นที่เขตส่งเสริมเท่านั้น

กรณีเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2566 ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ กฎกระทรวง กำหนดวันเวลาเปิดปิดของสถานบริการ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 ออกโดยกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการอนุญาตให้สถานบริการเปิดบริการได้ 24 ชั่วโมง ในเขตส่งเสริมเมืองการบินภาคตะวันออก ซึ่งภายหลังการเผยแพร่กฎกระทรวงดังกล่าวได้ปรากฎว่าสังคมบางส่วนได้มีเข้าใจที่คาดเคลื่อนว่าเป็นการอนุญาตที่ครอบคลุมถึงพื้นที่โดยรอบด้วยนั้น

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กรณีนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ยืนยันว่าอนุญาตให้เปิดบริการ 24 ชั่วโมงของสถานบริการจะมีได้เฉพาะในเขตส่งเสริมเมืองการบินภาคตะวันออก ตามประกาศคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (บอร์ดอีอีซี) เรื่อง กำหนดเขตส่งเสริมเมืองการบินภาคตะวันออก ลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2561 ซึ่งอยู่ในสนามบินอู่ตะเภาเท่านั้น

 

ทั้งนี้ ไม่ครอบคลุมถึงพื้นที่โดยรอบหรือเมืองท่องเที่ยวต่อเนื่องอื่น เช่น เมืองพัทยา จ.ชลบุรี หรือพื้นที่อื่นในจ.ระยอง โดยพื้นที่อื่นๆ ภายนอกเขตส่งเสริมเมืองการบินยังต้องปฏิบัติตามเกณฑ์การเปิด-ปิดสถานบริการตามปกติ

 

สำหรับเขตส่งเสริมเมืองการบินภาคตะวันออกตามประกาศของบอร์ดอีอีซีครอบคลุมพื้นที่ 6,500 ไร่ในสนามบินนานาชาติอู่ตะเภาเท่านั้น ซึ่งการอนุญาตนี้ก็เพื่อให้สอดคล้องกับกิจการภายในสนามบินที่จะต้องมีการบินเข้า-ออกทั้งในส่วนของผู้โดยสาร การขนส่งสินค้า ที่จะต้องมีอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งจำเป็นต้องมีบริการ กิจการร้านค้าต่างๆ เปิดให้บริการรองรับ เช่นเดียวกับสนามบินนานาชาติอื่นๆ เช่นสุวรรณภูมิ ดอนเมือง ที่ก็มีการอนุญาตให้ร้านค้าและบริการต่างๆ เปิดบริการในสนามบินได้ 24 ชั่วโมงเช่นกัน และการอนุญาตนี้จะสนับสนุนให้สนามบินอู่ตะเภามีบริการที่ครบวงจร สามารถดึงดูดการท่องเที่ยว และลงทุนให้เกิดในพื้นที่อีอีซีในภาพรวมได้

โดยโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก เป็นหนึ่งในโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานในอีอีซีตามนโยบายของรัฐบาล มีเป้าหมายคือยกระดับสนามบินอู่ตะเภาเป็น สนามบินนานาชาติเชิงพาณิชย์หลัก แห่งที่ 3 เชื่อมสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ด้วยรถไฟความเร็วสูง ทำให้ทั้ง 3 สนามบินสามารถรองรับผู้โดยสารรวมกันได้มากถึง 200 ล้านคนต่อปี 

พร้อมส่งเสริมให้อีอีซีสามารถเป็นศูนย์กลางการพัฒนาธุรกิจ อุตสาหกรรมเป้าหมาย มีโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมโยงกับกรุงเทพฯ และปริมณฑลไปทางตะวันออกอย่างสะดวก ผลักดันให้ประเทศไทยเป็น ศูนย์กลางทางการบินและประตูเศรษฐกิจสู่อาเซียน

 

สำหรับเขตส่งเสริมเมืองการบินภาคตะวันออกในสนามบินอู่ตะเภา ประกอบไปโครงการหลักหลายโครงการ เช่น

  • อาคารผู้โดยสารที่รองรับเที่ยวบินพาณิชน์ขนส่งผู้โดยสาร
  • ศูนย์ธุรกิจการค้าและการขนส่งภาคพื้นดิน
  • ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (Maintenance Repair and Overhaul)
  • เขตประกอบการค้าเสรี และเขตธุรกิจเกี่ยวเนื่อง (Cargo Village or Free Trade Zone)
  • ศูนย์ธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศและโลจิสติกส์ (Cargo Complex)
  • ศูนย์ฝึกอบรมการบิน (Aviation Training Centre)