แกะรอยนอมินี แม่บ้านแสนสิริ สามีแจ้งความ ถูกโยงเอี่ยวซื้อขายที่ดินพันล้าน

วันที่16ส.ค. จากกรณี ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ออกมาแถลงบริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) ซื้อที่ดินย่านสุขุมวิท โดยใช้นอมินี ระบุชื่อ น.ส.พินิช (สงวนนามสกุล) แม่บ้าน และ นายสมศักดิ์ (สงวนนามสกุล) เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรปภ. ร่วมกันตั้งบริษัท ซื้อที่ดินทองหล่อ 1 พันล้านบาท สร้างคอนโดมิเนียมหรู มีเงินทอน 435 ล้านบาท ขณะที่ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ประกาศเตรียมฟ้อง นายชูวิทย์ จนถึงที่สุด ยืนยันซื้อที่ดินสุขุมวิทตามราคาตลาด และบริหารแสนสิริ อย่างมีธรรมาภิบาล 

ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่บ้านพักของ น.ส.พินิช ที่ต.นาทอง อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม พบว่า บ้านหลังที่ปรากฏในข่าว แต่ไม่มีคนอยู่ภายในบ้าน มีเพียงรถยนต์ 3 คัน จอดอยู่ภายในบริเวณบ้าน และมีน้ำดื่มที่เตรียมไว้ขาย

จากการสอบถามชาวบ้านในหมู่บ้าน บอกว่า บ้านหลังนี้อยู่กัน 6 คน มีนางน้อย อายุ 56 ปี นายนิเวศน์ อายุ 60 ปี มีลูก 2 คน และหลานอีก 2 คน ชาวบ้านไม่เคยรู้ข่าวมาก่อน เรื่องซื้อขายที่ดินทองหล่อ จนกระทั่งมีนักข่าวเข้ามาในพื้นที่ จึงทราบว่า มีข่าวลักษณะนี้เกิดขึ้น ส่วนตัวไม่เชื่อว่า เพื่อนบ้านจะเป็นไปตามข่าวที่ปรากฏ ที่ผ่านมา เห็นคนบ้านนี้ อยู่บ้านตลอด ในช่วงเช้ายังเห็นอยู่บ้านตามปกติ บางวันก็ออกไปนา ไปไร่ อีกทั้งยังมีธุรกิจขายน้ำดื่ม มีเพียงลูกสาวที่เคยไปทำงานที่กทม. เมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว แต่ก็กลับมาอยู่บ้าน ทำธุรกิจน้ำดื่มตามปกติ

สามีของ น.ส.พินิช เปิดเผยว่า ข่าวที่ปรากฏตามสื่อฯ รู้สึกงงเป็นอย่างมาก ข่าวที่ออกไป มีการระบุว่า มีเงินเข้ามาเกี่ยวข้องถึง 1000 ล้านบาท ที่ว่าไปกู้มา ส่วนตัว ไม่รู้เรื่องนี้เลย ก่อนหน้านี้ 4-5 วัน มีคนมาถ่ายรูปที่บ้าน อีกวันก็มีคนขับรถ ปาเจโร่เข้ามา แต่ก็ไม่ยอมมาลงจากรถ สำหรับรูปที่ นายชูวิทย์ เอาไปเผยแพร่ ก็เป็นภาพใหม่ๆ เพราะเพิ่งจะมีการปรับปรุงบ้านไปได้ไม่ถึง 2 สัปดาห์ ที่ผ่านมา ยังเอะใจเรื่องคนมาถ่ายรูปอยู่เหมือนกัน แต่ไม่คิดว่า จะเป็นแบบนี้ จนกระทั่งมาเป็นข่าว เพื่อนๆ ก็ส่งข่าวมาให้ดู รู้สึกตกใจมาก นอนก็ไม่หลับ เมียก็ท้อง 7 เดือนใกล้คลอดแล้ว และรู้สึก งง ว่า ชื่อของแฟน ไปโผล่อยู่ตรงนั้นได้อย่างไร

กระทั่งมาทราบภายหลังว่า มีคนที่มาถ่ายรูปและออกไปตามสืบ บริเวณรอบๆ หมู่บ้านมาก่อน โดยมีการสอบถามว่า บ้านทำอาชีพอะไร ก่อนที่จะเข้ามาที่บ้าน เป็นใครมาจากไหน ก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร เมื่อมีข่าวที่ออกไปส่งผลกระทบมาก ส่งผลเสียเยอะมาก ตั้งแต่เกิดเรื่อง ยังไม่ได้นอนเลย ยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินจำนวนดังกล่าว หากมีเงินมากถึงพันล้านบาทจริง ป่านนี้คงไม่มาอยู่อย่างนี้ บอกตรงๆ เรื่องที่เกิดขึ้นได้ไปแจ้งความเอาไว้แล้ว ส่วนจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ก็ต้องขอดูก่อน