posttoday

เพื่อไทย ภูมิใจไทย ผนึก212 เสียง ตั้งต้นตั้งรัฐบาล ขอเสียงสส.-สว. โหวตนายกฯ

07 สิงหาคม 2566

เพื่อไทย ภูมิใจไทย ผนึก212เสียง ตั้งต้นตั้งรัฐบาล ร่อนแถลงการณ์ร่วม แก้ปัญหาเศรษฐกิจ ทำรัฐธรรมนูญใหม่ โว ได้เสียงตั้งรัฐบาลเกินครึ่งแล้ว ยังไม่ตกลง แบ่งกระทรวง ภูมิธรรม อ้อนสว.-สส.ทุกพรรค โหวตนายกฯเพื่อไทย วอนกองเชียร์ เข้าใจสภาพการเมือง ตั้งรัฐบาลฝ่าวิกฤตประเทศ

เวลา16.30น. วันที่ 7ส.ค. ที่ทำการพรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว นายภูมิธรรม เวชยชัย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง แกนนำพรรคเพื่อไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาล 

นายอนุทินกล่าวว่า ได้มาหารือการจัดตั้งรัฐบาล โดยมีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล พรรคภูมิใจไทยตอบรับคำเชิญ สืบเนื่องจากการหารือเมื่อ2สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ยืนยัน ไม่ขัดข้องจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย บนหลักการที่นำเสนอไปคือ (1)ไม่แตะต้องประมวลกฎหมายอาญามาตรา112  (2) ไม่เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย (3)หากรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ ต้องไม่มีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาล


วันนี้ได้รับทราบ แนวทาง3ประการ ต่างเห็นพ้องไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้การบริหารแผ่นดิน ขับเคลื่อนประเทศเดินไป เราให้คำยืนยัน ถ้ายังไม่ได้เชิญพรรคอื่นมาหารือ ขอให้ถือว่า ขณะนี้ พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลได้ มี 212 เสียง จากพรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย จะได้มีความมั่นใจกับพรรคอื่นๆในการจัดตั้งรัฐบาลได้

นายอนุทินกล่าวว่า พรรคเพื่อไทย ได้ยืนยันพร้อมให้ความมั่นใจว่า การจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ พรรคร่วมรัฐบาลที่อยู่ในแผนของพรรคเพื่อไทย ตอนนี้มีเสียงเกินกึ่งหนึ่งแล้วแน่นอน เมื่อได้รับสัญญาณจากพรรคเพื่อไทย จะร่วมหาเสียงสนับสนุนจากสส.และสว. เพื่อให้ได้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง เรื่องการเสนอชื่อนายกฯ พรรคภูมิใจไทย พร้อมปฏิบัติตามข้อเสนอพรรคเพื่อไทย ในการโหวต


นพ.ชลน่านกล่าวว่า ขอบคุณพรรคภูมิใจไทย รับคำเชิญแถลงจัดตั้งรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาประชาชน ไม่ว่าจะเป็น วิกฤตรัฐธรรมนูญ ที่ทำให้เกิดความยุ่งยากในการจัดตั้งรัฐบาล เงื่อนไขของพรรคภูมิใจไทย 3 ประการ เรารับได้ ต้องขอบคุณที่บอกว่า 212 เสียง เพื่อไทย ภูมิใจไทย เป็นเสียงตั้งต้นในการจัดตั้งรัฐบาล 

เพื่อไทย ภูมิใจไทย ผนึก212 เสียง ตั้งต้นตั้งรัฐบาล ขอเสียงสส.-สว. โหวตนายกฯ

นพ.ชลน่าน อ่านคำแถลงจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย มีเนื้อหาว่า
 พรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทยจะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล โดยการสนับสนุนจากพรรคการเมืองต่างๆ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากหลายพรรคการเมือง ซึ่งขณะนี้มีเสียงเกินกึ่งหนึ่งแล้ว แต่เรายังคงต้องการเสียงสนับสนุนจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภาเพื่อให้จัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ สามารถบริหารประเทศ และเร่งแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้โดยเร็ว 
 
 รัฐบาลที่จะจัดตั้งขึ้นในครั้งนี้ แม้จะมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งแล้ว แต่เรายังต้องการการสนับสนุนจากทุกฝ่าย เนื่องจากปัญหาของประเทศชาติ และพี่น้องประชาชนที่กำลังเผชิญอยู่นี้ มีความเดือดร้อนรุนแรง การประวิงเวลาออกไปยิ่งทำให้เกิดความเสียหายยิ่งขึ้น การจัดตั้งรัฐบาลได้เร็วเท่าไรจะยิ่งแก้ไขปัญหาได้รวดเร็วมากขึ้นเท่านั้น 
 

เรามีความประสงค์จะทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ โดยเฉพาะในสถานการณ์ทางการเมืองที่มีความพิเศษ ท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมือง ความขัดแย้งในสังคม และวิกฤตรัฐธรรมนูญก่อตัวเป็นปัญหาของประเทศ และประชาชนทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง เราจึงต้องการเสียงสนับสนุนจากทุกพรรคการเมืองให้มาสนับสนุนนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย โดยยึดถือประโยชน์ของประเทศ และประชาชนเป็นหลัก อาทิ เมื่อฝ่ายค้านเสนอกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม รัฐบาลพร้อมจะให้การสนับสนุน นอกจากนี้จะเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลได้อย่างเต็มที่ 
 
พรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคการเมืองที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ร่วมกับพรรคภูมิใจไทย เห็นว่าทุกฝ่ายสามารถทำงานร่วมกันได้ จึงกำหนดแนวทางในการจัดตั้งรัฐบาล ดังนี้ 
 

1. ยึดวาระของประเทศ และประชาชนเป็นที่ตั้ง โดยเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ และประชาธิปไตย นำความปรองดอง สมานฉันท์กลับคืนสู่ประเทศ
 2. จะเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยการประชุมคณะรัฐมนตรีในวาระแรก จะมีมติให้ทำประชามติขอจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยกระบวนการจัดตั้ง สสร.
 3. ดำเนินงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ ฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาลสามารถทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างเต็มที่ สิ่งใดที่เป็นประโยชน์จะร่วมกันผลักดันให้สำเร็จ สิ่งใดที่เป็นปัญหาจะต้องถูกตรวจสอบและเร่งแก้ไขให้ถูกต้อง
 4. จัดตั้งรัฐบาลที่มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ 
 5. การจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้เปิดกว้างให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภามีส่วนร่วมอย่างสำคัญในการเลือกนายกรัฐมนตรี เพื่อผ่าทางตันระบบการเมืองของประเทศ และฝ่าวิกฤตรัฐธรรมนูญที่สร้างปัญหาอยู่ในปัจจุบัน 
 
หลังจากนี้ เราจะเดินหน้าทำความเข้าใจกับทุกภาคส่วนในสังคม รวมทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา เพื่อแสวงหาความร่วมมือ และกำหนดเจตนารมณ์ในการบริหารประเทศ จึงร้องขอการสนับสนุนจากทุกพรรคการเมือง ทุกฝ่าย ทุกคน มาร่วมกันกอบกู้วิกฤตของประเทศในครั้งนี้ 
 


เมื่อถามว่า หลังจากวันนี้จะมีพรรคการเมืองใดมาร่วมงานการเมืองอีก นพ.ชลน่านกล่าวว่า วันนี้ เพื่อไทย ภูมิใจไทย 212 เสียงเป็นสารตั้งต้น หลังจากนี้ คาดว่าจะมีการพบปะทั้งหมด จากนั้นจะนำเรียนต่อประชาชน พี่น้องสื่อมวลชน


นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่มีความตั้งใจจะตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ตอนนี้รวมเสียงเกินกึ่งหนึ่งแล้ว ขอเรียกร้องทุกพรรค ทุกกลุ่ม ทุกคน เลือกนายกฯ โดยไม่เกี่ยวการจัดตั้งรัฐบาล ทั้งสัปดาห์นี้จะได้เห็นภาพการร่วมมือในการจัดตั้งรัฐบาล 
“ในแถลงการณ์ไม่ได้ปิดกั้น สมาชิกเป็นรายบุคคล สามารถสนับสนุนนายกฯจากพรรคเพื่อไทยได้ ส่วนพรรคไหน จะมาบ้าง ในอาทิตย์นี้คงจะได้เห็น”นายภูมิธรรมกล่าว 
นายภูมิธรรมกล่าวว่า ตอนนี้มีวิฤติสังคม รัฐธรรมนูญ เศรษฐกิจ ที่คงจะช่วยกันคลี่คลายได้ จะเชิญชวนทุกฝ่ายเลือกนายกฯ ถ้าครั้งนี้ทำสำเร็จ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี 

ถามว่าเป็นรัฐบาลสมานฉันท์หรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ด้วยวิกฤตตอนนี้ที่ติดไปทุกด้าน การที่เราหันหน้า มาช่วยกัน ตั้งรัฐบาลเพื่อช่วยแก้ปัญหาให้ชาติบ้านเมือง เป็นทางออกที่ดีที่สุด
นายอนุทินกล่าวอีกว่า เราทำทุกอย่างเพื่อบ้านเมือง ประเทศชาติ การพูดอะไรผูกมัดเกินไป อาจเกิดทางตัน เราเอาชาติ บ้านเมืองเป็นหลัก น่าจะหาทางออกได้ 

ถามว่าจะจับมือกับ 2 ลุง เอาพรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน นพ.ชลน่านกล่าวว่า จากคำแถลงยืนยัน ไม่มี2 ลุง แต่เราไม่ปฏิเสธเงื่อนไข ถ้าจะมี สส. และสว. ลักษณะเป็นบุคคลมาสนับสนุนเลือกนายกฯ เป็นเอกสิทธิ์ ดุลพินิจแต่ละท่าน เราก็บอกชัดในแถลงการณ์อยู่แล้ว  
ส่วนเรื่องกระทรวงต่างๆ ยังไม่ได้ลงลึก จะมีการต่อรอง หรือเจรจาอย่างไร แม้หลายคนจะไม่เชื่อ แต่ภายใต้สถานการณ์การเมืองแบบนี้ มีความจำเป็น ให้ทุกคนหันหน้ามาหากัน เพื่อพูดคุยการทำงานก่อน 
ถามว่า การรณรงค์หาเสียง พรรคเพื่อไทย ที่อาจจะกระทบ พรรคภูมิใจไทย นพ.ชลน่านกล่าวว่า เป็นภาพรณรงค์เพื่อให้ได้เสียงเลือกตั้ง มิติทางการเมืองเราไปขอเสียงกับประชาชน เราไม่เคยประกาศเป็นศัตรูกับใคร เป็นคู่แข่งกันทางการเมืองเท่านั้น หลังจากยุติ จากการมอบอำนาจจากประชาชนตัดสินใจแล้ว จากนั้นเรามาทำหน้าที่ตามที่ได้รับมอบอำนาจ ถ้าร่วมตั้งรัฐบาลประชาชนได้ ก็มาร่วมกันทำมาเป็นรัฐบาล หากร่วมไม่ได้ก็มาเป็นฝ่ายค้าน มิติทางการเมืองเป็นแบบนี้ 
นพ.ชลน่านกล่าวอีกว่า สำหรับแคนดิเดตฯนายกฯ ยังยืนยันว่าเป็น นายเศรษฐา ทวีสิน เหมือนเดิม  ส่วนกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ เริ่มจากทำประชามติ จัดตั้งสสร. ยกร่าง เข้าสู่สภาฯ ไม่น่าต่ำกว่า 2 ปี ขึ้นไป 

การที่เราไม่ได้รับเสียงสว และสส. จากพรรคการเมืองอื่น ที่ประกาศชัด ถ้ามีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาล เขาจะไม่ลงคะแนนให้ โดยไม่เกี่ยวกับความเชื่อมั่นกับประชาชน การจับมือพรรคภูมิใจไทย ที่ได้รับเสียงสนับสนุนนจากประชาชนมาเป็นอันดับที่3 ก็มาจากประชาชนเช่นกัน ไม่ได้มาจากการแต่งตั้ง ดังนั้นเสียงจาก เพื่อไทย ภูมิใจไทย และพรรคอื่น เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้ ส่วนเงื่อนไขจาก สว. ก็จะลดน้อยถอยลง 
นายภูมิธรรมกล่าวว่า วันนี้ต้องเปลี่ยนวิธีคิด ฉากทัศน์ใหม่ ทุกพรรคการเมือง เป็นตัวแทนพรรคการเมืองที่เลือกเข้ามา ในระบอบประชาธิปไตย เวทีรัฐสภา เป็นเวทีรวบรวมประสานงาน ทุกพรรคมีฐานการเมืองร่วมสนับสนุนทั้งสิ้น การตั้งรัฐบาลภาวะวิกฤติ ต้องรวบรวมเสียงให้ได้ แต่ก็คำนึงถึงประชาชนด้วย เพื่อร่วมตั้งรัฐบาลเพื่อฝ่าวิกฤติ เราพยายามทำบนเงื่อนไขที่ประชาชนต้องการและสภาพการเมืองที่เป็นอยู่ โดยการร่วมมือ 212 เสียง เป็นจุดเริ่มต้นที่เป็นไปได้ หลังจากนี้จะได้พรรค 2 ขั้ว ทั้งจากฟากเดิม และ ขั้วใหม่  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณด้านหน้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของพรรค นำแผงเหล็กมา ตั้งรายล้อมทางบันไดทางขึ้น พร้อมกับระบุว่า ที่ส่วนบุคคล ห้ามเข้า เพื่อป้องกัน กลุ่มประชาชนที่ไม่เห็นด้วย แสดงสัญลักษณ์ทางการเมือง จนรุกล้ำเข้ามาในที่ทำการพรรคเพื่อไทย

 

เพื่อไทย ภูมิใจไทย ผนึก212 เสียง ตั้งต้นตั้งรัฐบาล ขอเสียงสส.-สว. โหวตนายกฯ

เพื่อไทย ภูมิใจไทย ผนึก212 เสียง ตั้งต้นตั้งรัฐบาล ขอเสียงสส.-สว. โหวตนายกฯ

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด ไบรท์ตัน พบ ซันเดอร์แลนด์ พรีเมียร์ลีก วันนี้ 20 ธ.ค.68