'ชาดา'เมินทัวร์ลง ย้ำโหวตรอบ2 ภูมิใจไทยค้าน'พิธา'เป็นนายกฯ
ชาดา ไทยเศรษฐ์ ไม่หนุนรัฐบาลเสียงข้างน้อย โหวตนายก รอบ2 รอมติพรรคภูมิใจไทยเชื่อไม่พลิกจากเดิม ชี้หากเพื่อไทยเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลพ่วงก้าวไกลนโยบาย112ยังอยู่ เมินทัวร์ลงหลังโหวตรอบแรก หมดยุคด่าทอข่มขู่ใช้พฤติกรรมป่าเถื่อนอันธพาล
นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานีและรองหัวหน้าพรรคภูมิใจ กล่าวว่า การประชุมรัฐสภาเพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 2 วันพรุ่งนี้ (19 ก.ค.66) พรรคภูมิใจไทยจะไม่มีการเสนอชื่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อชิงกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เพราะพรรคภูมิใจไทย เป็นเสียงข้างน้อย จึงต้องให้สิทธิพรรคการเมืองลำดับที่ 1 และลำดับที่ 2 ก่อน และหลังจากนี้ ก็จะต้องขึ้นอยู่กับที่ประชุมของพรรคฯ และการตัดสินใจของหัวหน้าพรรคฯ ด้วย
ส่วนจุดยืนของพรรคภูมิใจไทย ต่อกรณีที่ที่ประชุมรัฐสภา จะมีการพิจารณาชื่อนายพิธาซ้ำเป็นครั้งที่ 2 นายชาดา ระบุว่า จะต้องรอผลการหารือของที่ประชุมพรรคภูมิใจไทยงเย็นวันนี้ (18 ก.ค.)แต่พรรคภูมิใจไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงผลการลงมติให้กับนายพิธา
"กรณีพรรคก้าวไกล ได้คะแนนเลือกตั้งมาเป็นพรรคการเมืองอันดับ 1 ไม่ใช่การชนะขาดหรือผูกขาดการเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่เพียงพรรคการเมืองเดียว แต่เป็นธรรมเนียมการปฏิบัติ ที่นักการเมืองให้เกียรติพรรคการเมืองลำดับที่ 1 จัดตั้งรัฐบาลก่อน และกฎหมายก็ไม่ได้เขียนบังคับไว้" นายชาดากล่าว
นายชาดา ยังเปิดเผยความคิดเห็นส่วนตัวหากพรรคเพื่อไทย เป็นผู้นำจัดตั้งรัฐบาล โดยมีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาลด้วยว่า หากมีนโยบาย 112 มายุ่งเกี่ยวด้วยไม่สนับสนุน ซึ่งการมีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาลด้วย ก็หมายความว่า ยังมีนโยบาย 112 แต่กรณีการสนับสนุนพรรคเพื่อไทยยังจะต้องฟังความเห็นของพรรคภูมิใจไทยก่อนว่าจะมีแนวทางอย่างไร ซึ่งตนเองไม่สามารถตัดสินได้ และย้ำว่า พรรคภูมิใจไทย ไม่เห็นด้วยกับพรรครัฐบาลเสียงข้างน้อย
ส่วนกรณีที่มีพรรคการเมืองใน 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลพยายามรวบรวมเสียงขั้วรัฐบาลเก่าเพื่อสนับสนุนนายพิธา นายชาดา ระบุว่า พรรคภูมิใจไทย เคยให้โอกาสพรรคก้าวไกลแล้ว แต่พรรคก้าวไกลไม่รับ และไม่ยอมถอยการดำเนินนโยบาย 112 ซึ่งพรรคก้าวไกลยอมถอย พรรคภูมิใจไทย ก็พร้อมสนับสนุนให้นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี โดยที่พรรคภูมิใจไทย จะไม่ร่วมรัฐบาลแต่พรรคก้าวไกลยังคงเดินหน้านโยบายดังกล่าวอยู่ ดังนั้น ข้อเสนอพรรคภูมิใจไทยถือว่า จบไปแล้วและโอกาสไม่ได้มีมาบ่อย ๆ
นายชาดา ยังชี้แจงถึงกรณีที่มีผู้ตั้งข้อสังเกตต่อการถือครองหุ้นบริษัทแห่งหนึ่ง ที่มีชื่อกิจการคล้ายกับการประกอบธุรกิจสื่อมวลชน จะทำให้ซ้ำรอยนายพิธาด้วยหรือไม่ว่า เรื่องดังกล่าว คนละกรณีกัน และคนเป็นละเรื่อง คนละประเทศ ไม่สามารถนำมาผูกโยงกันได้
นายชาดา ยังกล่าวถึงกรณีที่มีสังคมออนไลน์กระหน่ำทัวร์ลงหลังการอภิปรายเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม2566 ไม่ได้ให้ความสนใจอยู่แล้วและไม่ได้ท้าทาย แต่ไม่ชอบพฤติกรรมป่าเถื่อน ด่าทอผู้ที่ไม่เห็นด้วย ข่มขู่ใช้ความรุนแรง ซึ่งพฤติกรรมต่าง ๆ เหล่านี้ไม่ใช่กลุ่มการเมือง แต่เป็นพฤติกรรมของอันธพาล ที่ไม่ถูกต้อง ไม่สมควรปฏิบัติในยุคปัจจุบัน


