posttoday

'เศรษฐา'ขอทุกฝ่ายยอมกันบ้างปมเก้าอี้ประธานสภาฯไม่ว่าจะมาจากพรรคใด

03 กรกฎาคม 2566

เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพื่อไทย รับตอบลำบากกรณีพรรคเสนอชื่อวันนอร์เป็นประธานสภาฯเหมาะสมหรือไม่และขอให้ทุกฝ่ายยอมรับกันบ้าง เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนและประเทศชาติ

นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย  กล่าวว่ายังคงติดตามการเจรจาพูดคุยระหว่างพรรคเพื่อไทยและก้าวไกลเรื่องตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งขึ้นอยู่กับวิธีการเจรจา ที่จะยึดเป้าหมายเป็นหลักว่ารัฐบาลต้องมาจากฝ่ายประชาธิปไตย และการตกลงกัน 8 พรรค ส่วนตัวได้ยินกระแสข่าวว่าจะมีการเสนอหัวหน้าพรรคประชาชาติ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นประธานสภาฯ 

และส่วนตัวยอมรับว่าตอบคำถามลำบาก กรณีว่านายวันมูหะมัดนอร์ มีความเหมาะสมที่จะเป็นตัวกลางระหว่างสองพรรคการเมืองหากตกลงกันไม่ได้จริงๆหรอไม่ ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีการโยนชื่อมาหลายชื่อ และมีความเหมาะสม ไม่ว่าจะมาจากพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย  และนายวันมูหะมัดนอร์ ด้วยเป็นผู้มีประสบการณ์ จึงขอไม่ตอบว่าใครเหมาะสมหรือไม่ 

“เราพยายามกันทุกฝ่ายที่จะได้รัฐบาลจากฝ่ายประชาธิปไตย เราจะต้องทำงานร่วมกันอย่างมีเป้าหมายหลัก ในการแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชน ตำแหน่งมีได้แค่คนเดียว ส่วนตัวเข้าใจว่าหลายคนอยู่ในสถานภาพที่ลำบาก  หากประธานสภาฯมาจากพรรคก้าวไกลหรือมาจากพรรคเพื่อไทย หรือมาจากคนกลาง ก็จะมีคนได้และคนเสีย ขอวิงวอนว่าเราอยู่ด้วยกันเรามีจุดหมายร่วมกัน นี่เพิ่งเป็นการเริ่มต้นการเดินทางครั้งสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศไทย ขอวิงวอนว่าไม่ว่าจะออกมาในทางไหนขอให้ทุกฝ่ายยอมกันบ้าง เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติ” นายเศรษฐากล่าว 

นายเศรษฐา ยังกล่าวถึงกรณีหากท้ายที่สุดประธานสภาเป็นของพรรคคนกลางจะสะท้อนการไม่ไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างพรรคก้าวไกลและเพื่อไทยหรือไม่นั้น โดยอ้างถึงถึงเหตุผลที่ ส.ส.เพื่อไทยสะท้อนว่าเป็นเรื่องจำนวน ส.ส. ของสองพรรคที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าคิด หากยังคงยึดจุดมุ่งหมายเดียวกันต้องนำโจทย์มาคิดว่า เรามาทำการเมืองเพื่ออะไรเพื่อแก้ปัญหาประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด พร้อมหยิบยกด้วยว่าจากที่ได้ร่วมงานกับพรรคก้าวไกล เห็นว่าพรรคก้าวไกลให้เกียรติกับคนที่ทำงานร่วมกันอย่างมาก พร้อมกับชื่นชมวิธีการทำงาน ซึ่งสถานการณ์ยังเกิดขึ้นในทิศทางที่ดีก็ถือว่ายังมีความหวัง 

และเมื่อพรรคเพื่อไทยมีมติอย่างไรออกมาในฐานะพรรคการเมืองประชาธิปไตยก็จะต้องน้อมรับ  ซึ่งลูกพรรคก็ต้องทำตามมติพรรค แต่ไม่สามารถจะเอามติของเราไปก้าวล่วงพรรคอื่นไม่ได้ ซึ่งจากบรรยากาศที่คุยกันเชื่อว่าทุกคนอยากให้ฝ่ายประชาธิปไตยจับมือด้วยกันและเดินทางด้วยกัน