posttoday

ตั้งรัฐบาล66:ประเสริฐ ชู ชลน่าน ศรีแก้ว เหมาะสมนั่ง ประธานสภาฯ

25 พฤษภาคม 2566

ประเสริฐ ลั่น พรรคเพื่อไทย ขอตำแหน่งประธานสภาฯ กั๊ก หากคุยไม่ลงตัว เสนอชื่อแข่งหรือไม่ รอคุยพรรคก้าวไกล อีกครั้ง ประเสริฐ ชู ชลน่าน เหมาะสมนั่ง ประธานสภาฯ แม่นข้อบังคับ ไม่เห็นด้วยแนวคิด ถอยมาเป็นฝ่ายค้าน หากถูก ก้าวไกลบีบมาก โยน ก้าวไกล ประสาน สว.โหวต พิธา เอง

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการพูดคุยตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรกับพรรคก้าวไกลว่า ในวันที่ 22 พฤษภาคม 8 พรรคการเมือง ลงนามเอ็มโอยู พรรคได้แจ้งความประสงค์ไปยังแกนนำพรรคก้าวไกลถึงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ซึ่งพรรคก้าวไกลบอกว่า ขอเวลาอีก 2-3 วัน เพื่อจะเอาคำตอบมาให้ ขณะนี้ก็รอพรรคก้าวไกลอยู่

เมื่อถามว่าหลายคนในพรรคก้าวไกลออกมาระบุว่าตำแหน่งประธานสภาต้องเป็นของพรรคก้าวไกลเท่านั้น นายประเสริฐกล่าวว่า กองเชียร์ทั้ง 2 ฝั่ง ประสงค์ที่จะให้ ส.ส.และแกนนำของแต่ละพรรคเป็น หากมองอดีตที่ผ่านมาปี 2562 ประธานสภาฯ เป็นนายชวน หลีกภัย จากพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นพรรคลำดับที่ 4 ด้วยความที่เสียงใกล้กันมาก โดยเฉพาะ ส.ส.แบ่งเขต ที่พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยได้ 112 เท่ากัน อยากให้มีการพูดคุยกันเพื่อหาทางออก และเป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยเคยประสานงานไปแล้ว อยากให้บรรยากาศการทำงานเป็นไปได้ด้วยดี เพราะได้ลงนามเอ็มโอยูไปแล้ว ไม่อยากให้บางเรื่องมาเป็นอุปสรรค 

ส่วนจะต้องนัดพูดคุยกันอย่างเป็นทางการอีกครั้งหรือไม่ พรรคก้าวไกลประกาศชัดเจนว่าตำแหน่งประธานสภาต้องเป็นของพรรคก้าวไกล นายประเสริฐ ระบุว่า ต้องมีการพูดคุยกัน หากปล่อยให้ต่างฝ่ายออกมาพูดก็ไม่จบ และยิ่งนานไปก็ไม่ใช่ผลดี หากมีการพูดคุยอย่างเป็นทางการเรื่องคงจบได้ ที่ผ่านมาการคุยกับพรรคก้าวไกลและพรรคร่วมอื่นๆบรรยากาศเป็นไปได้ด้วยดีทุกครั้ง ไม่มีบรรยากาศที่เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด

เมื่อถามย้ำว่ารองหัวหน้าพรรคก้าวไกล นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล ออกมายืนยัน ตำแหน่งประธานสภาฯ ต้องเป็นของพรรคก้าวไกลจะต้องคุยกับพรรคก้าวไกลใหม่หรือไม่ เพราะพรรคเพื่อไทยเคยเสนอเรื่องนี้ไปแล้วนายประเสริฐกล่าวว่า ทั้ง 2 ฝั่งต่างออกมาพูดว่าตำแหน่งต้องเป็นของฝั่งไหน ตำแหน่งประธานสภาเป็นตำแหน่งสำคัญ อยากให้คำนึงถึงความเหมาะสม แต่ถ้าพรรคก้าวไกลไม่ยอมพรรคเพื่อไทยก็คงต้องกลับมาหารือกันอีกครั้งว่าแกนนำพรรคเพื่อไทยจะทำอย่างไร หรือกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยจะว่าอย่างไร

เมื่อถามว่าจะไปถึงขั้นกระทบกับการจับมือตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายประเสริฐ ย้ำว่า เรายืนยันเจตนารมณ์ชัดเจนตั้งแต่ต้น และวันนี้ยังยืนยันอยู่ ว่าพรรคเพื่อไทยสนับสนุนหัวหน้าพรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีในฐานะที่พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล จุดยืนนี้ไม่เปลี่ยน ส่วนเรื่องประธานสภาเป็นคนละกรณีกัน ซึ่งไม่มีในเอ็มโอยูด้วย ส่วนกรณีนายสมคิด เชื้อคง อดีตส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่าหากถูกบีบคั้นขนาดนี้พรรคเพื่อไทยควรจะแยกออกมาเป็นฝ่ายค้านนั้น คงเป็นเพียงความเห็นและความรู้สึกส่วนตัวของนายสมคิด และตนยังเชื่อว่าการพูดคุยน่าจะเป็นเรื่องที่ดีกว่า

เมื่อถามว่า 10 เสียงที่ห่างกันไม่ได้มากพรรคเพื่อไทยถอยให้กับพรรคก้าวไกลพอสมควรหรือยังนั้น นายประเสริฐ กล่าวว่า พอสมควร เพราะ 10 เสียงเป็นคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ที่ต่างกันเท่านั้น ที่จริงหากพรรคก้าวไกลได้รับการเลือกตั้ง ส.ส.เกินครึ่งหนึ่ง คือ 250 จะจบปัญหานี้ ไม่เกิดแน่นอน และในอดีตที่ผ่านมาพรรคที่ได้ลำดับที่ 1 กับลำดับที่ 2 จะมีข้อแตกต่างกัน มีความชัดเจนว่าลำดับที่ 1 คะแนนห่างจากลำดับที่ 2 และเป็นคนละฝั่งกัน แต่ครั้งนี้เป็นฝั่งพรรคประชาธิปไตยเหมือนกัน ไม่มีพรรคใดที่ได้เสียงเกินครึ่งหนึ่ง จึงอยากให้ทุกฝ่ายมองถึงความเหมาะสม ตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งที่สำคัญ เป็นตำแหน่งศักดิ์ศรีของประเทศ เป็นหมายเลข 1 ของนิติบัญญัติ เพราะฉะนั้นการตั้งประธานสภาต้องใช้ความละเอียดอ่อน และอยากให้ทุกฝ่ายหันหน้าคุยกัน ทางพรรคก้าวไกลได้นายกฯเบอร์ 1 ไปแล้ว ถ้าเพื่อไทยจะมีโอกาสทำงานตรงนี้ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย

เมื่อถามว่าจะถึงขั้นเสนอชื่อแข่งกันหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ยังไม่อยากให้มองอย่างนั้น ส่วนบุคคลที่เหมาะสมในพรรค คงเป็นเรื่องที่กรรมการบริหารพรรคต้องนำมาหารือในที่ประชุมอีกครั้ง 

เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้มีชื่อของหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว นายประเสริฐ กล่าวว่า นายแพทย์ชลน่านมีความเหมาะสม มีประสบการณ์ในสภา เป็นส.ส. 6 สมัย เก่งเรื่องข้อบังคับ รวมถึงยังเป็นหัวหน้าพรรคด้วย หัวหน้าพรรคหนึ่งเป็นนายกฯและหัวหน้าพรรคหนึ่ง เป็นประธานสภาก็ไม่เลวนะ

ส่วนเรื่องการพูดคุยกับ ส.ว.ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในส่วนของพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างไร นายประเสริฐ กล่าวว่า ถ้าในนามของพรรคไม่มี เท่าที่คุยกับพรรคก้าวไกลจะเป็นคนประสานเอง เนื่องจากเป็นพรรคหลักในการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อไม่ให้เกิดความสับสน แต่ถ้ามีเรื่องอะไรให้เราช่วยเราก็ยินดี

เมื่อถามถึงกรณีของนายแพทย์ชลน่าน กับ นต.ศิธา ธิวารี สมาชิกพรรคไทยสร้างไทย จะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวหรือไม่ นายประเสริฐตอบว่า อยากให้บรรยากาศดีกว่านี้ อยากให้เคลียใจกันเร็วๆ เมื่อก่อนทั้งสองฝ่ายก็รักกันดี ถูกคอกัน นายแพทย์ชลน่าน เป็นผู้ใหญ่และเป็นหัวหน้าพรรค เมื่อมาเจอคำถามในลักษณะเหมือนจะจี้ท่านถามครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 อีก ตนว่าคงทำให้ท่านหงุดหงิดพอสมควร แต่คิดว่าท่านเป็นผู้ใหญ่ คงให้อภัย