posttoday

‘สุพันธุ์-ศิธา’ ขึ้นชก “เขาทราย” ฟิตซ้อมก่อนลุยแก้หนี้-ขยี้เผด็จการ

01 เมษายน 2566

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี และน.ต.ศิธา ทิวารี แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรคไทยสร้างไทย สวมเสื้อค่าย ส.สุดารัตน์ ซ้อมชกมวยกับ “เขาทราย แกแล็คซี่” ที่เขาทราย แกแล็คซี่ มวยไทย ยิม ถนนรัชดาภิเษก ร่วมกับแชมป์มวยเด็กระดับประเทศ ยอดเพชรเอกและยอดเพชรโท

‘สุพันธุ์-ศิธา’ ขึ้นชก “เขาทราย” ฟิตซ้อมก่อนลุยแก้หนี้-ขยี้เผด็จการ

 

นายสุพันธุ์  กล่าวว่า มวยไทยเป็นที่รู้จักของคนในโลกอยู่แล้ว ต้องการทำให้คนไทยได้มีโอกาสมีชื่อเสียงมากกว่านี้ทั้งสนับสนุนเรื่องการกิจกรรมสถานที่อุปกรณ์จึงจะผลักดันซอฟพาวเวอร์ให้ถูกทาง เพื่อให้คนทั้งโลกมีกิจกรรมร่วมกับคนไทยและสนับสนุนอาชีพคนทำธุรกิจมวย พรรคมีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนจัดอีเวนท์แข่งมวยไทย สามารถจัดแข่งลีกใหญ่แต่ละภาคของประเทศ สามารถเชิญนักมวยดังมาร่วมโดยรัฐบาลเป็นเจ้าภาพซึ่งวันนี้เอกชนต่างทำกันเองหากรัฐบาลเป็นเจ้าภาพช่วยสนับสนุนจะผลักดันซอฟพาวเวอร์ให้แรงขึ้นคนจะมาศึกษามวยไทยและต่อยอดได้มากยิ่งขึ้นกว่านี้  เช่น การจัดมวยไทยชิงแชมป์โลก ปีละครั้ง ซึ่งจะสร้างขยายค่ายมวย โปรโมเตอร์ โดยเฉพาะสนับสนุนให้เด็กเยาวชนเข้ามาฝึกฝนกีฬามวยไทย และเพิ่มเติมหากมีการจัดเวทีแข่งขันมวยไทย  ทั้งนี้คาดว่าหากมีการจัดเวทีมวยไทยชิงแชมป์โลกปีละครั้ง จะสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศหลายหมื่นล้านไปจนถึง 100,000 ล้านบาทได้และขยายต่อไปยังเรื่องการท่องเที่ยว ที่พัก อาหาร หากมีการจัดอีเวนท์ใหญ่ทั่วโลกก็จะเข้ามา ซึ่งทั้งวงการมวยและวงการท่องเที่ยวอย่างครบวงจรจะได้รับประโยชน์ทั้งหมด

 

ทั้งนี้นายสุพันธุ์ ยังมองว่าการสนับสนุนกีฬาไทยให้เป็นซอฟท์พาวเวอร์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกจะช่วยสร้างเศรษฐกิจ พัฒนาคุณภาพชีวิตอละลดความเหลื่อมล้ำในประเทศไทย ทั้งยังจะกระจายความมั่งคั่งสู่ชุมชนโดยรอบค่ายมวย ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ที่พัก สินค้าของฝาก รถรับส่งต่างๆ ซึ่งตรงกับเจตนารมณ์ของตัวเองที่ต้องการส่งเสริม SME และคนตัวเล็กให้แข็งแรงเป็นรากฐานของเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน

 

ขณะที่ น.ต.ศิธา กล่าวว่า มวยไทย เป็นศิลปะวัฒนธรรมไทยพื้นบ้าน ยังไม่ค่อยได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐซึ่งต่างจากเกาหลีและญี่ปุ่นเรื่องศิลปวัฒนธรรม ซึ่งต้องมีการนำภาษีประชาชนมาปรับใช้สนับสนุนในเรื่องของมวยไทยมากยิ่งขึ้น หากมีการสอนและถ่ายทอดศิลปวัฒนธรรมมวยไทยให้กับลูกหลานจะสามารถสืบทอดต่อไปได้  ประชาสัมพันธ์และนับสนุนให้คนทั้งโลกมาเรียนมวยกับแชมป์โลกคนไทย 2 ฝาแฝดเขาค้อ-เขาทรายแกเล็คซี่ 

 

ขณะที่พรรคไทยสร้างไทยก็มีนโยบายปฏิรูปการศึกษาเพื่อส่งเสริมให้เด็กได้เรียนในสิ่งที่ชอบและถนัด และพวกเขามีเวลาเรียนน้อยลง แต่เรียนให้ตรงจุดมากขึ้น

 

‘สุพันธุ์-ศิธา’ ขึ้นชก “เขาทราย” ฟิตซ้อมก่อนลุยแก้หนี้-ขยี้เผด็จการ

 

“วันนี้อยากมีแคมเปญใหม่คือทำให้ลุงดูว่าที่ทำให้ถูกต้องทำยังไงพรรคไทยสร้างไทยจะทำให้ดู”

 

น.ต.ศิธา มั่นใจว่า สังเวียนการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคไทยสร้างไทยมีความพร้อมตั้งแต่ยังไม่มี ส.ส. มีการเสนอกฎหมายเข้าไปรอที่สภาแล้ว พร้อมมองว่าการเมืองยังมี 2 ขั้ว จึงอยากนำเสนอทางออกของปัญหา หากเปรียบการเมืองการเลือกตั้งเป็นมวย มีมุมแดง มุมน้ำเงิน ถ้ารวมกันให้หนักแน่นไม่ไปมั่วมองว่าอีกฝั่งมี 250 คนรออยู่แล้ว ถ้ามองแค่นั้นเราก็จะแพ้ แต่เราต้องช่วยกันให้เต็มที่จับมือกันให้แน่นนิ่ง และบอกว่ายังไงก็จะรื้อระบบเดิมออก เราสู้กันด้วยกติกาที่เป็นธรรม เชื่อว่าจะสู้ได้  ไม่ว่าจะได้กี่คน ก็แล้วแต่จำนวนไม่ได้ทำให้เราเปลี่ยนแปลงว่าจะต้องย้ายฝั่ง เพราะเชื่อว่าการทำงานเพื่อประชาชนจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาลยังไงก็ทำงานได้หมดรัฐบาลใครก็อยากเป็น เพื่อนำนโยบายไปใช้ แต่ถ้าไม่ได้ ก็ไม่จำเป็นต้องไปทำตาม คนที่จะสั่งให้เราทำโน่นทำนี่ โดยที่ไม่เป็นประชาธิปไตย เราขอเป็นฝ่ายค้านและสอยคนที่อยู่ในตำแหน่งลงให้เร็วที่สุด  แบบนี้ประชาชนจะได้ประโยชน์มากกว่า  และยอมรับว่า พรรคไทย สร้างไทยส่งผู้สมัคร ส.ส. ได้ 370 คนเพราะมีขั้นตอนเรื่องการทำไพรมารี่ไม่ทันแต่มีแค่พรรคเดียวที่ส่งครบแล้วทำทันแม้ว่าเป็นพรรคเกิดใหม่ที่พรรคลุงตู่  แต่พรรคเราก็ทำอย่างเต็มที่ 

 

ขณะที่ เขาทราย บอกว่า ถ้าเอกชนจัดเวทีแข่งขันก็มีความเสี่ยงเรื่องการขาดทุนแต่หากรัฐบาลให้การ สนับสนุนการจัดแข่งขันมวยเนื่องจากไม่มีกำไรอะไรสนับสนุนจะสามารถทำชื่อเสียงและทำเวทีแข่งขันได้มวยไทยร่วมกับมวยสากลก็สามารถทำได้อยากให้มีการส่งเสริมและสนับสนุน เพื่อทำให้เด็กและเยาวชนคนรุ่นใหม่มีโอกาสไปสู่แชมป์มวยไทย แชมป์โลกได้มากขึ้น  ทั้งนี้ยังมีแชมป์โลกกว่า 30 คนที่ก่อนหน้านี้เตะต่อยมวย ตอนนี้เตะฝุ่นไม่มีงานทำจึงควรส่งเสริมให้มาเป็นครูฝึกสอนเด็กเยาวชนเพื่อเกิดประโยชน์  รวมถึงอยากให้บรรจุในหลักสูตรการศึกษาของเด็กนักเรียนด้วย เพื่อรักษาศิลปวัฒนธรรมไทยให้คงอยู่กับประเทศไทยต่อไป