ชี้เป็นร่างใหม่ไม่ใช่ขอแก้ไข"วุฒิสภา"คว่ำญัตติส.ส.ชงทำประชามติแก้รธน.
มติ"วุฒิสภา"157 ต่อ 12 คว่ำญัตติ ส.ส. ออกเสียงประชามติจัดทำรัฐธรรมนูญ ชี้ไม่ได้แก้ไข แต่เป็นการล้มฉบับเดิมเพื่อร่างใหม่
เมื่อวันที่21 กุมภาพันธ์ 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมวุฒิสภา ที่มีนายพรเพชร พิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เป็นประธานในที่ประชุม พิจารณาวาระญัตติด่วนการพิจารณาให้ความเห็นชอบหรือไม่ให้ความเห็นชอบผลการลงมติของสภาผู้แทนราษฎรในญัตติ ขอให้สภามีมติส่งเรื่องที่มีเหตุสมควรจะให้มีการออกเสียงประชามติให้คณะรัฐมนตรีดำเนินการ พร้อมกับรายงานของคณะกรรมาธิการสามัญพิจารณาญัตติขอให้สภามีมติส่งเรื่องที่มีเหตุสมควรจะให้มีการออกเสียงประชามติให้คณะรัฐมนตรีดำเนินการ ที่เสนอโดย "นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ" ส.ส.กรุงเทพ พรรคก้าวไกล และ "นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์" ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย
โดยหลังเสร็จสิ้นการอภิปรายนายสมชาย แสวงการ ส.ว. ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญพิจารณาญัตติดังกล่าว ได้กล่าวชี้แจงข้อซักถามของสมาชิก พร้อมย้ำว่า ญัตติที่ฝ่ายค้านเสนอมานั้น ไม่ใช่การเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่เสนอให้ล้มฉบับเดิม แล้วร่างใหม่ทั้งฉบับ โดยไม่มีกรอบใดๆ จะตัดเอามาตราใดออกไปก็ได้
นอกจากนี้ ตนได้ฟังคำชี้แจงจากทั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และ นายจุลพันธ์ ซึ่งเป็นผู้เสนอญัตตินี้มา ก็ล้วนยืนยันว่าต้องทำประชามติทั้งหมด 3 ครั้ง งบประมาณเบ็ดเสร็จที่ต้องใช้อาจถึง 15,000 ล้านบาทจนจบกระบวนการ
นายสมชาย กล่าวว่า คำถามประชามติที่แนบท้ายญัตติมานั้น มีการกล่าวถึงสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน อีกทั้ง รัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 นี้ ไม่ได้เอ่ยถึง สสร. เลย คำถามแนบท้ายดังกล่าวนี้จึงอาจเข้าข่ายขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญเอง จนอาจเป็นเหตุให้ ครม. ไม่สามารถดำเนินการทำประชามติได้
โดยการลงมติผลปรากฏว่า สมาชิกวุฒิสภามีมติไม่เห็นชอบให้รัฐสภาส่งญัตติเสนอการออกเสียงประชามติเรื่องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้ ครม. ดำเนินการ ด้วยคะแนน 157 ต่อ 12 เสียง


