posttoday

พปชร.เปิดตัว พล.อ.วิชญ์- อุตตม-สนธิรัตน์ ย้ำแนวทางก้าวข้ามความขัดแย้ง

30 มกราคม 2566

พลังประชารัฐ แถลงเปิดตัว สนธิรัตน์ -อุตตมอย่างเป็นทางการ พร้อมกับ พลเอกวิชญ์ ย้ำเป็นพรรคที่ก้าวความขัดแย้งทั้งหมด อุตตม เผยเหตุกลับมาเพราะต้องการสร้างความปรองดอง ด้าน สนธิรัตน์ เผย ต้องการแก้วิกฤติชาติ ก้าวข้ามขัดแย้งให้ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.38 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้เดินทางมายังที่ทำการพรรค พปชร. ถ.รัชดาภิเษก พร้อมขึ้นห้องทำงานชั้น 21
โดยเวลาต่อมา นายอุตตม สาวนายน และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ได้เดินทางถึงที่ทำการพรรค พปชร. เช่นกันโดยนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค และนายสกลธี ภัททิยกุล หัวหน้าทีมกทม.ได้ให้การต้อนรับ พร้อมขึ้นไปยังห้องทำงานพล.อ. ประวิตรทันที เพื่อยื่นใบสมัคร และเมื่อยื่นใบสมัครพล.อ.ประวิตร ได้ลงนามใบสมัครด้วยตัวเอง โดยนายอุตตมและนายสนธิรัตน์ได้เปลี่ยนสวมเสื้อพรรค พปชร. ก่อนที่ทั้งหมดจะลงมาแถลงข่าวในเวลา 15.10 น. 

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร พร้อมนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และเลขาธิการพรรค นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค ได้ร่วมกันแถลงเปิดตัว

"เป็นที่น่าดีใจที่เราได้ต้อนรับบุคคลทั้ง 3 คน คนแรก พลเอกวิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา  คนที่สอง คือ นายอุตตม และคนที่สามคือ นายสนธิรัตน์ ถือเป็นเกียรติกับ พปชร.เป็นอย่างยิ่ง ผมพูดไม่เก่ง แต่ฟังเก่ง แล้วฟังรู้เรื่องด้วย อยากจะฝากบอกกับทุกคนว่าพรรคของเราเป็นพรรคที่เรารวมกัน ก้าวข้ามความขัดแย้งทั้งหมด ฉะนั้น ทั้งสามคนจะมาช่วย พปชร.ในการดำเนินการกิจกรรมการเมืองและเศรษฐกิจ เพื่อที่จะให้พรรคมีความเข้มแข็ง เราต้องขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจกันทั้งสามคน เราได้สองหัวหน้าพรรค กับหนึ่งเลขาธิการพรรคนับว่าเป็นเกียรติกับ พปชร.เป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้ นายอุตตมจะมาช่วยดูแลเรื่องเศรษฐกิจ นายสนธิรัตน์จะช่วยดูเศรษฐกิจและการเมืองด้วย ส่วนพล.อ.วิชญ์ ช่วยทั้งพรรค" พล.อ.ประวิตร กล่าว 

ผู้สื่อข่าวถามว่า การกลับมาของทั้งสามคน จะทำให้ได้เป็นนายกฯคนที่ 30 หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ต้องประชาชนเลือก คุณถามอย่างนี้ผิดนะ จะให้ผมเป็นนายกฯคนที่ 30ได้อย่างไร ประชาชนต้องเป็นคนเลือก ถ้าไม่ได้เลือกจะเป็นได้อย่างไร

เมื่อถามว่า ตอนนี้แคนดิเดตนายกฯในพรรค มีแค่คนเดียว ไม่มีคนอื่นแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ถ้าตอบว่าตนไม่รู้ จะหาว่าตนไม่รู้อีก

ถามย้ำว่า แล้วที่นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ระบุจะเข้ามาและเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกฯของพรรค พล.อ.ประวิตร ย้อนถามว่า ใครบอก ถ้านายมิ่งขวัญบอกเองก็ต้องไปถามนายมิ่งขวัญ แต่ยืนยันว่านายมิ่งขวัญยังอยู่กับพรรค และช่วยด้านเศรษฐกิจ เพราะในพรรคมีงานให้ทำเยอะแยะ ไม่ต้องห่วง

เมื่อถามว่า แล้วจะให้ใครเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นทั้งหมดเลยครับ ไม่เป็นไร หัวหน้ามีได้หลายคน

เมื่อถามว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย จะตามมาร่วมงานหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ต้องถามนายสมคิด จะถามตนได้อย่างไร เพราะไม่ได้คุยกันเลย เมื่อถามว่า จะป้องกันปัญหาเรื่องความขัดแย้งอย่างไร เพราะก่อนหน้านี้ที่นายอุตตม และนายสนธิรัตน์ออกไปจากพรรค เพราะมีเรื่องความขัดแย้ง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มีความขัดแย้ง ออกไปก็ไม่ได้ขัดแย้ง
 

นายอุตตม กล่าวว่า สาเหตุที่กลับมา พปชร. ครั้งนี้เรื่องสำคัญสุดคือ การสร้างปรองดอง ต้องขอบคุณหัวหน้าพรรคที่ได้เชิญชวนพวกตนมาทำงานร่วมกันในเวลาที่ประเทศชาติต้องการเดินหน้า พล.อ.ประวิตรแสดงอุดมการณ์มุ่งมั่นชัดเจนที่จะรวบรวมผู้คนจากหลายๆ ฝ่ายมาทำงานด้วยกัน อีกเหตุผลหนึ่งคือ พวกผมเคยเป็นสมาชิกในบ้าน สมาชิกเก่าในบ้านหลังนี้ มีส่วนร่วมริเริ่มสร้าง พปชร.มา มีส่วนในการคิดและผลักดันนโยบายส่วนหนึ่งขึ้น เช่น บัตรประชารัฐ ที่พวกเราช่วยกันทำมา หัวหน้าพรรค พปชร.ประกาศชัดเจนแล้วว่าจะนำพรรคขับเคลื่อนนโยบายสำคัญเหล่านี้ เรายินดีที่จะทำงานร่วมกับทุกคนที่มีอุดมการณ์ร่วมกัน ก้าวข้ามขัดแย้งได้แล้ว

หลังจากนั้น ในช่วงเย็น วันที่ 30 ม.ค. 66 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เปิดใจการกลับเข้าร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า

ผมขอขอบคุณ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ คณะกรรมการบริหารพรรค และสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ที่ได้ให้การต้อนรับ ผมและ ดร.อุตตม ด้วยความอบอุ่นในการโอกาสกลับสู่พรรคพลังประชารัฐในวันนี้ 

ขอถือโอกาสสื่อสารกับพี่น้องประชาชนที่ให้โอกาสกับผม ทีมสร้างอนาคตไทย มาโดยตลอดว่า เป้าหมายของพรรคสร้างอนาคตไทยคือต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้ดียิ่งกว่าเดิม โดยการก้าวข้ามความขัดแย้ง และระดมผู้คนจากหลากหลายอาชีพ หลายวงการมาร่วมแก้ไขปัญหาประเทศไทย ั

ผมเดินกลับเข้าสู่พรรคพลังประชารัฐด้วยเป้าหมายเช่นเดิม คือต้องการแก้วิกฤติชาติ ก้าวข้ามขัดแย้งให้ได้ ทำให้พรรคการเมืองเข้มแข็ง นักการเมืองเข้มแข็ง เพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้สำเร็จ เมื่อหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ผู้ใหญ่ที่คุ้นเคยกันมายาวนานเปิดโอกาส เราจึงกลับสู่พรรคพลังประชารัฐ พรรคที่ผม และ ดร.อุตตมได้เคยร่วมก่อสร้างกันมาในอดีต เป็นทั้งการร่วมเจตนารมณ์ และอุดมการณ์เดียวกัน เพื่อทำให้ประเทศไทยกลับมามีความหวังอีกครั้ง

ในช่วงการเปิดใจวันนี้ ผมได้เล่าให้พี่น้องสื่อมวลชนฟังว่า การกลับมาของพวกเราเป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นของพรรคพลังประชารัฐที่ต้องการก้าวข้ามความขัดแย้ง เป็นนิยามของ “การเมืองเชิงสมานฉันท์” ซึ่งมีเป้าหมายอยู่ที่การยึดผลประโยชย์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นแกนหลัก

หลังจากนี้ ผมขอร่วมเดินหน้าเต็มกำลัง เชิญชวนทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมตามแนวทางประชารัฐที่พวกเราได้เคยตั้งต้นไว้ นั่นคือ รัฐ เอกชน ประชาชน ร่วมกันพัฒนาประเทศชาติ ลงมือพัฒนาอย่างตรงจุดเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนให้สำเร็จ
สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์
30 ม.ค. 66