ตามติดสถานการณ์ 'การเมือง' กกต.จ่อสู้คดีแจกใบส้ม
เกาะติด สถานการณ์เคลื่อนไหวการเมืองกับโพสต์ทูเดย์กรณีศาลอุทธรณ์ภาค5 พิพากษายืนให้กกต.ชดใช้เงิน 62ล้านบาท ปมแจกใบส้ม สุรพล เกียรติไชยากร ว่าที่ผู้สมัครส.ส.เพื่อไทยและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเมื่อปี2562
'สุรพล เกียรติไชยากร' ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย จังหวัดเชียงใหม่ ยืนยันว่า เล่นการเมืองมา 30ปี ไม่เคยใช้เงิน คะแนนเสียงที่ได้รับจากประชาชนเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมที่ศาลศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษา ยืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ถือว่าได้เรียกร้องคืนศักดิ์ศรีให้กับตัวเองและเงินที่ กกต. จะนำมาชดใช้ไม่ควรเป็นเงินจากภาษีประชาชน แต่ควรเป็นเงินของคณะกรรมการทั้ง 7 คน งที่ต้องมีส่วนรับผิดชอบกรณีมติแจกใบส้ม ขณะที่การเลือกตั้งครั้งต่อไปก็ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคเพื่อไทยในพื้นที่เดิมอย่างแน่นอน
***กกต.เล็งยื่นฎีกาแจกใบส้ม***
ด้านอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยว่า กกต.เคารพในคำตัดสินของศาล ส่วนจะยื่นฎีกาคำพิาพากษาหรือไม่ ขอไปศึกษารายละเอียดและคัดคำพิพากษาเพื่อแจ้งต่อที่ประชุม กกต.ก่อน ซึ่งการจะพิจารณาในรูปแบบขององค์คณะรวมทั้งจะฟังความเห็นของสำนักงาน กกต.ที่ได้เสนอต่อคณะกรรมการคาดว่าจะมีมติที่ชัดเจนต่อกรณีดังกล่าวในสัปดาห์หน้า ส่วนคำพิพากษาคดีนี้ จะส่งผลกระทบการพิจารณาการแจกใบเหลืองใบแดงในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ เห็นว่าไม่เป็นปัญหาเพราะ กกต. ทำตามอำนาจหน้าที่ ถ้าเราเห็นว่าเป็นอย่างไรก็ต้องทำไปตามนั้นซึ่งการตัดสินใจจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับคณะกรรมการ กกต.
***อัปเดตส.ส.ในสภา 439 คน***
นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง แจ้งต่อที่ประชุมว่า มีส.ส.ลาออก3คน ได้แก่ นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ น.ส.กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ และน.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ทำให้ต้องเลื่อนผู้อยู่ในบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองลำดับถัดไปแทนตำแหน่งที่ว่างลง 4 คน ได้แก่ นางบุศริณธณ์ วรพัฒนานันน์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติ, นาวาตรีสุธรรม ระหงษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ , นายรองรักษ์ บุญศิริ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาภิวัฒน์ , นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมพลัง ทำให้มีส.ส.ซึ่งยังปฏิบัติหน้าที่ในสภาทั้งสิ้น 439 คน
***ฝ่ายค้านยื่นซักฟอกรัฐบาลไม่ลงมติ***
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เผยว่า การยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 วันที่ 26ธ.ค.65 ฝ่ายค้านจะตรวจสอบในรายละเอียดข้อมูลอีกครั้งก่อนจะยื่นต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 28ธ.ค.2565 และคาดว่าการเปิดอภิปรายซักฟอกรัฐบาลแบบไม่ลงมติจะเป็นช่วงสัปดาห์ที่ 3 หรือ 4 ของเดือนมกราคม 2566 และขอร้องพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมว่า อย่ายุบสภาหนี เพราะจะถือว่าเป็นเรื่องน่าอายที่จะหนีการตรวจสอบ
*** สภาตัดมาตรา3'กัญชา-กัญชง' ไม่ถือเป็นยาเสพติด ***
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชากัญชง แก้ไขเพิ่มเติมขึ้นมาเป็น 95 มาตรา ประเด็นที่น่าสนใจคือ การลงมติในมาตรา3 มีเนื้อหาระบุว่า กัญชากัญชง "ไม่ถือเป็นยาเสพติด" ให้โทษตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติด ปรากฎว่า ต้องตัดวาระ 3 ไป เนื่องจากเสียงส่วนใหญ่ 201 เสียง เห็นด้วยให้ตัดออก ภาพรวมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. กัญชา-กัญชงเป็นไปด้วยความล่าช้า เนื่องจากมีผู้ขออภิปรายจำนวนมากและมักเกิดปัญหาสุ่มเสี่ยงเรื่ององค์ประชุม จึงต้องจับตามองการพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวตลอดวัน
***สภาล่มอีกเป็นครั้งที่25***
ทั้งนี้ การประชุมต้องยุติลง หลังจากที่ผ่านการพิจารณาไป 9 มาตรา เพราะส.ส.มาแสดงตนไม่ครบองค์ประชุมมีเพียง 214 คน จากที่ต้องใช้ 240 คน ถือเป็นเหตุการณ์สภาล่มครั้งที่ 25 ของสภาสมัยปัจจุบัน
***ชัลวาลล์ รอความชัดเจนก่อนไปรวมไทยสร้างชาติ***
นายโกวิทย์ พวงงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท เผยว่า นายชัชวาลล์ คงอุดม ประธานที่ปรึกษายุทธศาสตร์พรรคพลังท้องถิ่น ได้รับคำเชิญจากนายกฯไปร่วมงานที่ รวมไทยสร้างชาติจริง แต่ขอความชัดเจนก่อนว่าจะให้ไปช่วยงานในตำแหน่งใด แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อใดๆ มาจากรวมไทยสร้างชาติ และย้ำนายชัชวาลล์เป็นสุภาพบุรุษช่วยรัฐบาลมาตลอดแต่ถ้ายังไม่มีความชัดเจนก็คงไม่ไปร่วมงานด้วย
***'สุกัญญา มิเกล' สมัครสมาชิกก้าวไกลตลอดชีพ***
น.ส.สุกัญญา แคลเลย์ เขียนเอี่ยม หรือ "สุกัญญา มิเกล"นักร้องชื่อดังโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Sukunya Mikael เปิดเผยภาพบัตรสมาชิกพรรคก้าวไกลแบบตลอดชีพ ประกาศสนับสนุนประชาธิปไตยทุกอณูในประเทศนี้ไม่ว่าจะแดงเข้มแดงอ่อน ม่วง สีรุ้ง เราเชียร์หมด ทีมใหญ่ต้องมีทีมเล็กสำรองและคอยหนุน คอยคานคือความสมดุลของสังคม
โดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้เข้ามาคอมเมนท์ขอบคุณมากและยินดีต้อนรับ
***ป.ป.ช.ถกคดีมันจีทูจี 3 สำนวน มติเอกฉันท์ชี้มูล 'บุญทรง'***
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิจารณา3สำนวนคดีเกี่ยวกับการซื้อขายมันสำปะหลังแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ได้แก่
1.กรณีกล่าวหานางพรทิวา นาคาศัย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ กับพวก ปปช.มีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 2 เสียง ตีตกข้อกล่าวหา
2.กรณีกล่าวหานายบุญทรง เตริยาภิรมย์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ กับพวก ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ ชี้มูลความผิดฐานเดียวกับคดีระบายข้าวแบบจีทูจีล็อตแรก
3.กรณีกล่าวหานายไตรรงค์ สุวรรณคีรี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี กับพวก ไม่มีหลักฐานว่าเป็นผู้รับรู้รับทราบ จึงไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา


