posttoday

รู้จัก "ครูยุ่น มนตรี" 30ปีองค์กรดูแลเด็กอัมพวา

04 พฤศจิกายน 2565

ช่วยเหลือเด็กกว่า 400 คดี 30ปีการทำหน้าที่พัฒนาเด็กเยาวชน “ครูยุ่น มนตรี สินทวิชัย” ในวันที่ต้องพิสูจน์ความจริงบนกระบวนการยุติธรรม

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2565 ที่ผ่านมา 'มูลนิธิเส้นด้าย' เดินทางเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ว่าที่มูลนิธิคุ้มครองเด็ก ซึ่งตั้งอยู่ ต.สวนหลวง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม มีการทำร้ายร่างกายเด็กที่อยู่ภายในมูลนิธิโดยเลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็กที่ดูแลหรือ "ครูยุ่น มนตรี สินทวิชัย"

ขณะที่ในเวลาต่อมาทางครูยุ่นได้ออกมาชี้แจงเบื้องต้นว่า "ตีเพื่อสั่งสอน ไม่ได้ใช้แรงงานเด็ก" พร้อมกับรับทราบ 2 ข้อกล่าวหา ก่อให้เกิดกระแสวิพากย์วิจารณ์ในสังคมออกเป็นหลายเสียงแตกกันทั้ง 'เหมาะสม' และ 'ไม่เหมาะสม' จากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งอย่างไรก็ตาม ณ ตอนนี้ขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรมและหลักฐาน ทว่าในวันนี้เราได้นำพาไปรู้จักเขาในอดีตส่วนเขาในวันอนาคตเราคงต้องรอคำตอบนี้ไปพร้อมๆ กัน   

"ครูยุ่น" ที่ใครๆ เรียกขานมีชื่อจริงๆ ว่า "นายมนตรี สินทวิชัย" ร่ำเรียนวุฒิการศึกษาจบศึกษาบัณฑิตจากมศว ประสานมิตร ปัจจุบันอายุ 64 ปี เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมานี้ โดยเส้นทางบทบาทการเป็นอาสาช่วยเหลือเด็กเร่รอนอย่างต่อเนื่องจนนำมาซึ่งชื่อเรียกคุ้นชินติดปากในเวลาต่อมาว่า "ครูยุ่น" ผู้เป็นนักสังคมสงเคราะห์ นักพัฒนาด้านเด็ก เกิดขึ้นเมื่อราว 40 ปี ที่แล้ว ในช่วงของวัยรุ่นอายุ 20 ต้นๆ ครูยุ่นได้ไปเห็นเด็กเร่ร่อนที่สนามหลวงอันเป็นแหล่งรวมของผู้คนไร้บ้านในมหานครเมืองใหญ่กทม. จึงได้รวมตัวกลุ่มแก๊งเพื่อนไปสอนหนังสือพร้อมกับช่วยกันควักกระเป๋าส่วนตัวเลี้ยงอาหาร 

หลังจากเข้าไปคลุกคลีกับเด็กๆ เหล่านี้เป็นระยะเวลากว่า 6 ปี จนเข้าถึงปัญหาเข้าถึงหัวอกหัวใจของเยาวชนที่ถูกรังแก ในปี 2534 ครูยุ่นขยับขยายการช่วยเหลืออีกสเต็ปโดยการจัดตั้ง "บ้านคุ้มครองเด็ก" และจดทะเบียนเป็น "มูลนิธิคุ้มครองเด็ก" ด้วยการเช่าอาคารพาณิชย์ในซอยลาดพร้าว 106 ก่อนที่ในอีก 3 ปี ถัดมาจะกลายเป็นเรือนรับรองบ้านที่คุ้มครองหลังแรกของเด็กๆ เยาชนที่ประสบปัญหาถูกทอดทิ้ง ถูกทำร้าย ทารุณ ถูกล่วงละเมิดทางเพศหรือถูกนำไปค้าประเวณีและบังคับขอทานได้พักพิงและเยียวยาจิตใจ 

ไม่เพียงหน้าที่ดูแลเด็กๆ เยาวชนครูยุ่นยังได้ดำรงตำแหน่ง 'สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดสมุทรสงคราม' ในระหว่างทำงานด้านสิทธิเด็กช่วยเหลือเยาวชนและย้ายมูลนิธิคุ้มครองเด็กจากป่าคอนกรีตกรุงเทพฯ เข้าสู่ป่าสวนอัมพวาในปี 2543 ใช้ชื่อ "บ้านอัมพวา" มีด้วยกันทั้ง 2 หลังบนเนื้อที่ 1.5 ไร่ ด้วยกัน 

โดยมูลนิธิบ้านครูยุ่นได้จัดตั้งมูลนิธิเป็นนิติบุคลตามกฎหมาย องค์กรสาธารณะกุศลที่ไม่แสวงหากำไรและดำเนินงานจากเงินบริจาคในความดูแล (โดยที่ทุกๆ 6 เดือนจะมีการตรวจในเรื่องสภาพแวดล้อม สุขอนามัย รายรับรายจ่าย และความปลอดภัยของเด็ก เพื่อประเมินต่อใบอนุญาตในแต่ละปี) ของสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.สมุทรสงคราม มี นายแก้วสรร อติโพธิ ประธานมูลนิธิและครูยุ่นเป็นเลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็ก

ปัจจุบันภายใต้ชายคาบ้านอัมพวาทั้ง 2 หลังนี้มีเด็กๆ อยู่ในความดูแลของครูยุ่นทั้งสิ้นทั้งหมดจำนวน 55 คน จากการทำงานมากว่า 30 ปี ช่วยเหลือเด็กกว่า 400 คดีด้วยกันและเป็นกระบอกเสียงความเห็นเกี่ยวกับเด็ก อาทิ การแก้ไขปัญหาขี่รถซิ่ง การแนะให้ใช้ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กและสื่อระวังการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับเด็ก ฯลฯ 

ข่าวล่าสุด

เปิดโผกลุ่มหุ้นได้-เสียประโยชน์ เงินบาทแข็งค่าสุดในรอบ 4.5 ปี