รู้จัก "ครูยุ่น มนตรี" 30ปีองค์กรดูแลเด็กอัมพวา
ช่วยเหลือเด็กกว่า 400 คดี 30ปีการทำหน้าที่พัฒนาเด็กเยาวชน “ครูยุ่น มนตรี สินทวิชัย” ในวันที่ต้องพิสูจน์ความจริงบนกระบวนการยุติธรรม
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2565 ที่ผ่านมา 'มูลนิธิเส้นด้าย' เดินทางเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ว่าที่มูลนิธิคุ้มครองเด็ก ซึ่งตั้งอยู่ ต.สวนหลวง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม มีการทำร้ายร่างกายเด็กที่อยู่ภายในมูลนิธิโดยเลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็กที่ดูแลหรือ "ครูยุ่น มนตรี สินทวิชัย"
ขณะที่ในเวลาต่อมาทางครูยุ่นได้ออกมาชี้แจงเบื้องต้นว่า "ตีเพื่อสั่งสอน ไม่ได้ใช้แรงงานเด็ก" พร้อมกับรับทราบ 2 ข้อกล่าวหา ก่อให้เกิดกระแสวิพากย์วิจารณ์ในสังคมออกเป็นหลายเสียงแตกกันทั้ง 'เหมาะสม' และ 'ไม่เหมาะสม' จากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งอย่างไรก็ตาม ณ ตอนนี้ขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรมและหลักฐาน ทว่าในวันนี้เราได้นำพาไปรู้จักเขาในอดีตส่วนเขาในวันอนาคตเราคงต้องรอคำตอบนี้ไปพร้อมๆ กัน
"ครูยุ่น" ที่ใครๆ เรียกขานมีชื่อจริงๆ ว่า "นายมนตรี สินทวิชัย" ร่ำเรียนวุฒิการศึกษาจบศึกษาบัณฑิตจากมศว ประสานมิตร ปัจจุบันอายุ 64 ปี เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมานี้ โดยเส้นทางบทบาทการเป็นอาสาช่วยเหลือเด็กเร่รอนอย่างต่อเนื่องจนนำมาซึ่งชื่อเรียกคุ้นชินติดปากในเวลาต่อมาว่า "ครูยุ่น" ผู้เป็นนักสังคมสงเคราะห์ นักพัฒนาด้านเด็ก เกิดขึ้นเมื่อราว 40 ปี ที่แล้ว ในช่วงของวัยรุ่นอายุ 20 ต้นๆ ครูยุ่นได้ไปเห็นเด็กเร่ร่อนที่สนามหลวงอันเป็นแหล่งรวมของผู้คนไร้บ้านในมหานครเมืองใหญ่กทม. จึงได้รวมตัวกลุ่มแก๊งเพื่อนไปสอนหนังสือพร้อมกับช่วยกันควักกระเป๋าส่วนตัวเลี้ยงอาหาร
หลังจากเข้าไปคลุกคลีกับเด็กๆ เหล่านี้เป็นระยะเวลากว่า 6 ปี จนเข้าถึงปัญหาเข้าถึงหัวอกหัวใจของเยาวชนที่ถูกรังแก ในปี 2534 ครูยุ่นขยับขยายการช่วยเหลืออีกสเต็ปโดยการจัดตั้ง "บ้านคุ้มครองเด็ก" และจดทะเบียนเป็น "มูลนิธิคุ้มครองเด็ก" ด้วยการเช่าอาคารพาณิชย์ในซอยลาดพร้าว 106 ก่อนที่ในอีก 3 ปี ถัดมาจะกลายเป็นเรือนรับรองบ้านที่คุ้มครองหลังแรกของเด็กๆ เยาชนที่ประสบปัญหาถูกทอดทิ้ง ถูกทำร้าย ทารุณ ถูกล่วงละเมิดทางเพศหรือถูกนำไปค้าประเวณีและบังคับขอทานได้พักพิงและเยียวยาจิตใจ
ไม่เพียงหน้าที่ดูแลเด็กๆ เยาวชนครูยุ่นยังได้ดำรงตำแหน่ง 'สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดสมุทรสงคราม' ในระหว่างทำงานด้านสิทธิเด็กช่วยเหลือเยาวชนและย้ายมูลนิธิคุ้มครองเด็กจากป่าคอนกรีตกรุงเทพฯ เข้าสู่ป่าสวนอัมพวาในปี 2543 ใช้ชื่อ "บ้านอัมพวา" มีด้วยกันทั้ง 2 หลังบนเนื้อที่ 1.5 ไร่ ด้วยกัน
โดยมูลนิธิบ้านครูยุ่นได้จัดตั้งมูลนิธิเป็นนิติบุคลตามกฎหมาย องค์กรสาธารณะกุศลที่ไม่แสวงหากำไรและดำเนินงานจากเงินบริจาคในความดูแล (โดยที่ทุกๆ 6 เดือนจะมีการตรวจในเรื่องสภาพแวดล้อม สุขอนามัย รายรับรายจ่าย และความปลอดภัยของเด็ก เพื่อประเมินต่อใบอนุญาตในแต่ละปี) ของสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.สมุทรสงคราม มี นายแก้วสรร อติโพธิ ประธานมูลนิธิและครูยุ่นเป็นเลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็ก
ปัจจุบันภายใต้ชายคาบ้านอัมพวาทั้ง 2 หลังนี้มีเด็กๆ อยู่ในความดูแลของครูยุ่นทั้งสิ้นทั้งหมดจำนวน 55 คน จากการทำงานมากว่า 30 ปี ช่วยเหลือเด็กกว่า 400 คดีด้วยกันและเป็นกระบอกเสียงความเห็นเกี่ยวกับเด็ก อาทิ การแก้ไขปัญหาขี่รถซิ่ง การแนะให้ใช้ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กและสื่อระวังการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับเด็ก ฯลฯ


