"อนุพงษ์" พร้อมเลิก ต่างชาติถือครองที่ดิน หากประชาชนกังวลมาก
รมว.มหาดไทย ตอบกระทู้สด แจงให้ต่างชาติถือครองที่ดินแลกลงทุน ไม่ใช่กฎหมายขายชาติหรือเอื้อนายทุน พร้อมยกเลิกถ้าประชาชนกังวลมาก
การประชุมสภา ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภา เป็นประธานการประชุม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ตอบกระทู้ถามสดในสภาของนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กรณีการแก้ไขกฎกระทรวงมหาดไทยเพื่อให้คนต่างด้าวสามารถถือครองที่ดินได้ 1 ไร่ แลกกับเงินจำนวน 40 ล้านบาท ว่า ร่างกฎกระทรวงดังกล่าวอยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ซึ่งสามารถปรับแก้ไขได้ ทั้งด้านเงื่อนไขระยะเวลาถือครองที่ดิน และวงเงินลงทุน
อย่างไรก็ดีเจตนารมณ์ของการแก้ไขกฎกระทรวงดังกล่าวเนื่องจากคณะกรรมการเศรษฐกิจเชิงรุก ที่เสนอเพื่อต้องการสร้างแรงจูงใจให้กับผู้ที่มีความเชี่ยวชาญลงทุนในประเทศแบบระยะยาว โดยเพิ่มแรงจูงใจด้านการพำนักอาศัย ยืนยันว่าไม่ใช่กฎหมายขายชาติ หรือเอื้อให้กับนายทุน ตามที่ถูกตั้งข้อสังเกต จากนายสุทิน และยืนยันว่า ไม่มีเจตนาขายชาติ ส่วนที่กังวลว่าคนต่างชาติจะกว้านซื้อที่ดินจำนวนมากเป็นผืนใหญ่ จะออกกฎเกณฑ์ไม่ให้ซื้อที่ดินแปลงติดกัน ทำเป็นหมู่บ้านได้ อีกทั้งคณะกรรมการกฤษฎีกาต้องนำเรื่องนี้ไปรับฟังความเห็นประชาชนก่อน
ขณะที่นายสุทิน ถามย้ำในข้อกังวลต่อปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต คือ ราคาที่ดินแพงขึ้น และความมั่นคงของชีวิตคนไทยและประเทศจะมีปัญหา และสร้างความเหลื่อมล้ำของการถือครองที่ดินของคนไทยได้ และมองว่าอาจจะเกิดประเด็นนอมินีขึ้นได้
พล.อ.อนุพงษ์ ชี้แจง ว่า รัฐบาลตระหนักที่จะลดความเหลื่อมล้ำของคนที่ไม่มีที่ดิน ที่จะได้โอกาส ส่วนประเด็นนอมินีนั้นไม่เกี่ยวกับกฎหมายฉบับนี้ ทั้งนี้การตราร่างกฎกระทรวงดังกล่าวยืนยันว่าอยู่ในชั้นที่ปรับแก้ไขได้ โดยกฤษฎีกาพร้อมรับฟังความเห็นและความกังวลของประชาชนและเนื้อหาของร่างกฎกระทรวงอาจจะกำหนดให้เข้มงวดหรือยากกว่านี้ เช่น เพิ่มการลงทุนเป็น 100 ล้านบาท หรือเพิ่มเวลาลงทุนจาก3ปี เป็น 10ปี แล้วส่งให้ครม.พิจารณาใหม่ หรืออาจจะล้มเลิกไปเลย ถ้าประชาชนกังวลมาก ไม่ถือว่าเสียหน้า
"ส่วนที่มองเป็นการจนมุมทางเศรษฐกิจนั้น การแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ว่ารัฐบาลใด ไม่มีใครทำมาตรการเดียว ต้องทำทุกทาง ถ้าอยากได้นักท่องเที่ยว นักลงทุน ก็ต้องหาทางให้คนกลุ่มนี้เข้ามา ต้องใช้มาตรการผสมกันไปหลายอย่าง อย่าไปคิดเชิงกังวล ให้มองโลกแง่ดีบ้าง" พล.อ.อนุงพงษ์ ชี้แจง


