อดีตหลวงพี่กาโตะเผยหลังสึก ขอรักษาหมู่คณะสงฆ์ไม่ให้เสียหาย
"หลวงพี่กาโตะ"เข้าขอขมาพระผู้ใหญ่หลายรูป ก่อนตัดสินใจลาสิกขาแล้ว เผยขอรักษาหมู่คณะสงฆ์ไม่ให้เสียหาย ยอมรับยังอ่อนหัดในพระธรรมวินัยอย่างมาก หลังสึกแล้วเดินทางกลับบ้านที่ อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ทันที
เมื่อวันที่ 30เม.ย.65 เวลา 21.34 น. พระพงศกร จันทร์แก้ว หรือ "หลวงพี่กาโตะ" พระนักเทศน์ชื่อดังได้ลาสิกขาแล้วหลังตกเป็นข่าวกรณีมีคลิปเสียงสนทนากับหญิงสาวชื่อ "ตอง" ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างกว้างขวาง
หลวงพี่กาโตะพร้อมคนใกล้ชิดได้เข้าพบพระผู้ใหญ่หลายรูป เพื่อเข้านมัสการและแสดงความประสงค์ในการตัดสินใจที่จะยุติการครองสมณเพศ
หลังจากนั้นได้เดินทางไปยังวัดแห่งหนึ่งในตัวเมืองนครศรีธรรมราช เข้ากราบนมัสการพระราชวิสุทธิกวี เจ้าคณะภาค 16 (ธรรมยุต) พระครูสิริธรรมาภิรัต (ธรรมรัต อริยธมฺโม) เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช (ธรรมยุต) และพระครูอัครธรรมโกวิท เจ้าคณะอำเภอฉวาง (ธรรมยุต) เพื่อแสดงเจตนาในการลาสิกขา
โดยคณะสงฆ์ได้มีการทำบันทึกถ้อยคำให้กับ หลวงพี่กาโตะ ในการแสดงเจตนาลาสิกขาโดยที่ไม่มีใครบีบบังคับแต่อย่างใด พร้อมทั้งมีพระสงฆ์ร่วมเป็นสักขีพยานลงนามในหนังสือตามขั้นตอน หลังจากนั้น หลวงพี่กาโตะ ได้กราบขอขมาพระเถระที่มาเป็นพยานในการลาสิกขา
พระครูอัครธรรมโกวิท เจ้าคณะอำเภอฉวาง ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ ของ หลวงพี่กาโตะ ได้กล่าวให้โอวาทพร้อมทั้งระบุการลาสิกขาเป็นไปด้วยเจตนาของ หลวงพี่กาโตะ เอง เพื่อรักษาหมู่คณะสงฆ์ ทางออกนี้เป็นทางที่สง่าผ่าเผยที่สุด เป็นการปกป้องวงการสงฆ์ รักษาวงการสงฆ์ที่สั่นคลอนทั่วประเทศ นี้ถือว่าเป็นทางออกที่ดี โดยส่วนตัวในฐานะอุปัชฌาย์ชื่นชอบ อะไรหลายอย่างที่ได้ปฏิบัติมา เมื่อมาได้แค่นี้ก็คือแค่นี้ไปทำบุญได้
ขณะที่ หลวงพี่กาโตะ ได้ระบุว่า "การบวชนั้นได้บวชเพื่อโยมพ่อโยมแม่ หวังพึ่งพาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เพื่อให้โยมแม่ เป็นเพียงพระนวกะที่ยังอ่อนหัดในพระธรรมวินัยอย่างมาก เพื่อลบอุปสรรคนี่จึงตัดสินใจลาสิกขา และขอโอกาสขอขมาพระอาจารย์ทุกรูป"
หลังลาสิกขา "หลวงพี่กาโตะ" หรือนายพงศกร จันทร์แก้ว ได้เดินทางกลับไปยังภูมิลำเนาใน อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ทันที ส่วนการดำเนินการทางวินัยสงฆ์นั้นเป็นอันยุติ


