"ทนายตั้ม"ลั่นคดีคุกคามทางเพศไม่ใช่เรื่องการเมือง

นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ทนายความ เดินทางไปที่สน.ลุมพินี โดยนำผู้เสียหายในคลิปเสียงซึ่งมีการออกมาเปิดเผยวันนี้ และหลักฐานประกอบที่อ้างว่า อดีตรองหัวหน้าพรรคหนึ่งคุกคามทางเพศ

นายษิทรา เปิดเผยว่า หลักฐานที่นำมามอบให้ตำรวจมั่นใจว่าจะดำเนินคดีกับผู้ถูกกล่าวหาได้อย่างแน่นอน ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องการเมืองที่กำลังมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ขณะนี้มีผู้เสียหายราว20 ราย จะเดินทางมาแจ้งความเพิ่มเติมด้วย

ด้าน พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบช.น. เปิดเผยว่าได้รับรายงานจาก ผกก.สน.ลุมพินี รวมถึงได้เตรียมคณะพนักงานสอบสวนไว้แล้ว อย่างไรก็ตาม การรวมคดีให้ บช.น. เป็นผู้ดำเนินการเพียงหน่วยงานเดียวกันนั้น ไม่สามารถทำได้ แต่ในกรณีที่ผู้เสียหายเดินทางเข้ามาแจ้งความที่ สน.ลุมพินี แต่เหตุเกิดในพื้นที่อื่น ก็จะประสานส่งเรื่องต่อไปให้ ยืนยันว่าตำรวจทำงานตามพยานหลักฐาน เมื่อมีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความดำเนินคดีและพบความผิดตามที่ถูกกล่าวหา ตำรวจต้องดำเนินการตามกฎหมายโดยไม่สนใจว่าจะเป็นเรื่องทางการเมืองหรือไม่

สำหรับความคืบหน้าคดีของ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้ต้องหาคดีกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุเกินกว่า 15 ปี 2 คดี และคดีข่มขืนกระทำชำเรา 1 คดี รวม 3 คดี ในพื้นที่ สน.ลุมพินี ภายหลังเข้าประชุมคดีดังกล่าว ว่า สำหรับคดีทั้งหมด อยู่ในพื้นที่ สน.ลุมพินี 3 คดี และ สภ.เมืองเพชรบุรี 1 คดี ส่วนกรณีที่ผู้เสียหายแจ้งความที่จังหวัดเชียงใหม่นั้นได้รับรายงานแล้ว แต่ยังไม่ทราบรายละเอียด แต่ไม่สามารถนำคดีต่างๆ มารวมกันได้ เพราะผู้เสียหาย รวมถึงวันเวลาที่เกิดเหตุ แตกต่างกัน ไม่ใช่คดีที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง

พล.ต.ต.ไตรรงค์ เปิดเผยอีกว่า คดีแรกที่ผู้เสียหายอายุ 18 ปี เข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมานั้น สามารถรวบรวมพยานหลักฐานได้พอสมควร ขณะนี้ได้ส่งภาพจากคลิปวิดิโอให้กองพิสูจน์หลักฐานเพื่อทำการตรวจสอบ ว่ามีความถูกต้อง รวมถึงผ่านการดัดแปลงหรือไม่ โดยขณะนี้ทำการสอบพยานไปหลายปาก และในเบื้องต้นให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนคดีอื่นๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้ว ตำรวจก็พยายามเต็มที่ในการหาหลักฐาน และถือว่าคดียังอยู่ในอายุความ

ส่วนการยื่นเพิกถอนประกันตัวของผู้ต้องหา หากพบว่า มีการกระทำที่ผิดเงื่อนไข ตำรวจก็จะยื่นเรื่องต่อพนักงานอัยการให้เพิกถอนการประกันตัวได้ อย่างไรก็ตาม ต้องมีพยานบุคคลหรือวัตถุพยานที่สามารถยืนยันได้ว่าผู้ต้องหากระทำผิดเงื่อนไขการประกันตัวจริง