posttoday

กมธ.ข้างมากแพ้โหวตถก"กม.ประชามติ"สว.ขอลงมติใหม่

18 มีนาคม 2564

สภาวุ่น!ถก"กม.ประชามติ"กมธ.ข้างมากแพ้โหวต ส.ว.ไม่ยอมขอออกเสียงใหม่ ”พรเพชร”ประธานต้องสั่งพักประชุมปรับแก้เนื้อหา

เมื่อวันที่ 18 มี.ค.เวลา 15.00 น.ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมรัฐสภา โดยมี นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. …. ที่คณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว ซึ่งเป็นการพิจารณาวาระสอง เรียงตามลำดับมาตรา มีทั้งหมด 67 มาตรา ในมาตรา 9 เกี่ยวกับให้คณะกรรมการมีหน้าที่และอำนาจจัดและควบคุมดูแลการออกเสียง ให้เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม เสรี เสมอภาค และชอบด้วยกฎหมาย

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภุมิใจไทย อภิปรายเห็นด้วยกับนายชูศักดิ์ ศิรินิล กรรมาธิการเสียงข้างน้อยว่า แม้ที่ผ่านมาฝ่ายนิติบัญญัติจะทำความเห็นไปยัง ครม.แต่อำนาจการตัดสินใจว่าจะทำหรือไม่ทำก็อยู่ที่ครม. แต่หากใช้ร่างของนายชูศักดิ์ จะทำให้ครม.ต้องดำเนินการตามความเห็นที่รัฐสภาส่งไป จะทำให้ความเห็นของรัฐสภาที่ต้องการให้รัฐบาลทำประชามตินั้นรัฐบาบปฏิเสธไม่ได้

ด้านนายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายเห็นแย้งกับ กมธ.โดยไม่เห็นด้วยที่จะมอบหมายให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ทำประชามติ เพราะแค่ให้กกต.ดำเนินการจัดการเลือกตั้ง กกต.ก็ทำให้เกิดการซื้อเสียงกันอย่างกว้างขวาง การเลือกตั้งในแต่ละครั้งมีกฎหยุบหยิม ป้ายติดอะไร ตรงไหน ขนาดเท่าไหร่กำหนดหมด แต่ใครซื้อเสียงตรงไหนไม่เคยรู้เลยเพราะไม่เคยออกไปดู ตั้งแต่มีการเลือกตั้งมา กกต.ที่นครสวรรค์รับแต่เงินเดือน ไม่มีการพัฒนาอะไรเลย ถ้าเรายังไปมอบหมายภาระกิจสำคัญให้เขาจัดทำอีก ตนมองไม่ออกเลยว่า กกต.จะจัดให้มีการทำประชามติที่บริสุทธิ์ยุติธรรมได้อย่างไร แถมยังมีการเพิ่มถ้อยคำว่าต้องเสรีและเสมอภาคอีก กกต.จะดำเนินการอย่างไร เพราะแค่ที่ทำกันอยู่ กกต.ยังไม่เคยออกมาดูเลย มีทั้งคะแนนเขย่งและบัตรเขย่งเต็มไปหมด

หลังสมาชิกอภิปรายแสดงความคิดเห็นแล้ว ทางกมธ.ยืนยันตามร่างที่เสนอเข้าสู่ที่ประชุม โดยที่ประชุมลงมติเห็นด้วยให้มีการแก้ไข 534 ต่อ 3 งดออกเสียง 1 ไม่ลงคะแนน 2 และเห็นชอบให้มีการแก้ไขตามกรรมาธิการเสียงข้างน้อย ของนายชูศักดิ์ เสนอโดยเนื้อหานั้นมีสาระ คือ กำหนด 5 เงื่อนไข ต่อการทำประชามติ ได้แก่

1.การออกเสียงที่เกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญตามที่มีบทบัญญัติกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ 2. การออกเสียงกรณีเมื่อครม.เห็นว่ามีเหตุอันสมควร 3.การออกเสียงตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องมีการออกเสียง 4.การออกเสียงในกรณีที่รัฐสภาได้พิจารณาและมีมติเห็นว่าเป็นเรื่องที่มีเหตุสมควรที่จะให้มีการออกเสียงและได้ชี้แจงเรื่องให้ครม. ดำเนินการ และ 5. การออกเสียงกรณีประชาชนเข้าชื่อเสนอต่อครม. เพื่อให้ความเห็นชอบการออกเสียง ตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด

นอกจากนั้นได้กำหนดรายละเอียยด้วยว่า ห้ามออกเสียงประชามติเรื่องที่ผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่รัฐธรรมนูญได้รับรองไว้ ทำให้นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ประธานกมธ.ฯ ขอพักการประชุม 10 นาที เพื่อไปดูว่ามาตรา 10 จะทำอย่างไรให้สอดคล้องกับมาตรา 9 แต่ทำให้สมาชิกถกเถียงกันไปมา เมื่อ นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ส.ว. ขอใช้สิทธินับคะแนนใหม่ ด้วยการขานคะแนน ตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่ 58 เพราะคะแนนมีผลต่างน้อยกว่า 30 คะแนน ทำให้ส.ส.พรรคฝ่ายค้านประท้วงและโต้ตอบว่า ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากเข้าสู่กระบวนการพิจารณามาตรา 10 แล้ว ทำให้มีส.ว.โห่ประท้วงไม่พอใจ แต่ก่อนที่ความขัดแย้งจะบานปลาย นายพรเพชร วินิจฉัยว่าที่ประชุมเข้าสู่มาตรา 10 แล้วไม่สามารถใช้สิทธินับคะแนนใหม่ได้จากนั้นนายพรเพชรได้พักการประชุม 10 นาที เพื่อให้กมธ. หารือปรับแก้เนื้อหามาตรา 10 และมาตรา 11 ให้สอดคล้องกับมาตรา 9 ที่ได้แก้ไข

ข่าวล่าสุด

ปิดฉากคดีฉาวข้ามชาติ! ฝากขัง "น.ส.ลัก" บังคับลูกวัย 12 ค้ากามที่ญี่ปุ่น