posttoday

กองปราบรวบ2ผัวเมียโหดติดอันดับบัญชีดำมือปืนสตช.

18 มีนาคม 2564

กองปราบรวบสองผัว-เมียโหด ติดอันดับบัญชีดำมือปืนสตช. ลวงเพื่อนร่วมงานฆ่าปิดปาก ปมกลัวถูกแฉขโมยน้ำมันนายจ้าง หนีคดีมานาน15ปี

เมื่อวันที่ 18 มี.ค.64 ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.ต.สุรศักดิ์ หญีตบึ้ง สว.กก.2 บก.ป. ปฏิบัติราชการ สว. กก.1 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.1 บก.ป. แถลงผลจับกุมนายบุไพวัน เหี้ยมหาญ อายุ 41 ปี นางปนัดดา นามวงษ์ อายุ 39 ปี สองสามีภรรยา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเลย ที่ 405/2549 ลงวันที่ 6 ธ.ค. 2549 และ หมายจับศาลจังหวัดเลย ที่ 104/2550 ลงวันที่ 16 มี.ค. 2550 ตามลำดับ ในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา”หลังจากจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ได้ที่ บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ดอนฉิมพลี อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา

พ.ต.ต.สุรศักดิ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2549 ขณะที่ นายบุไพวัน และนางปนัดดา สามี-ภรรยา ยังทำงานเป็นลูกจ้างบริษัทซื้อขายน้ำมันแห่งหนึ่งใน จ.เลย ได้ร่วมกันวางแผนลวงนายบุญมาก ผู้ตาย ไปก่อเหตุฆาตกรรม โดยทำทีขับรถยนต์กระบะไปรับนายบุญมาก ที่บ้านพักก่อนอ้างว่าจะพาไปซื้อน้ำมันกับลูกค้าข้างนอก กระทั่งเมื่อขับมาถึงเส้นทางเปลี่ยวบริเวณหมู่บ้านผานาง  ต.ผาอินทร์แปลงกิ่ง อ.เอราวัณ จ.เลย นายบุไพวัน ก็ได้จอดรถข้างทางแล้วชักอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด .38 มม. ที่เตรียมมา ยิงใส่ นายบุญมาก จนเสียชีวิต ก่อนจะช่วยกันนำศพไปทิ้งไว้ที่ป่าละเมาะข้างทางแล้วหลบหนีมาซ่อนตัวอยู่ตามพื้นที่ต่างจังหวัดหลายพื้นที่เพื่อให้ยากต่อการติดตามจนสามารถหลบหนีคดีเรื่อยมาได้เป็นเวลากว่า 15 ปี กระทั่งต่อมาเข้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่า ปัจจุบันได้หนีมากบดานซ่อนตัวอยู่ใน จ.ฉะเชิงเทรา จึงนำกำลังติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว

กองปราบรวบ2ผัวเมียโหดติดอันดับบัญชีดำมือปืนสตช.

พ.ต.ต.สุรศักดิ์ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 รายนี้ ให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุจริง เนื่องจากก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เคยร่วมกับนายบุญมาก ทำการฉ้อโกงและปลอมแปลงบิลซื้อขายน้ำมันของบริษัท  เพื่อนำน้ำมันออกไปขายให้คนนอก  แต่เมื่อได้เงินมาแล้วกลับตกลงเรื่องส่วนแบ่งไม่ลงตัวจนเกิดมีปัญหากัน และกลัวว่านายบุญมาก จะนำเรื่องไปฟ้องนายจ้าง จึงช่วยกันลวงผู้ตายมาฆ่าปิดปากดังกล่าว เบื้องต้นจึงแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับก่อนนำตัวส่ง สภ.เอราวัณ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.ธงชัย กล่าวว่า อย่างไรก็ตามเนื่องด้วยพฤติกรรมการก่อเหตุที่ค่อนข้างอุกฉกรรจ์ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย จึงทำให้ชื่อของผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ถูกจัดอยู่ในรายชื่อปฏิทินมือปืน และ ผู้ต้องหารายสำคัญตามหมายจับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติประจำปี2564 โดยอยู่ในลำดับที่ 64,65 จากรายชื่อทั้งหมด 240 คน และจากการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 รายดังกล่าว ทำให้ยอดรวมการติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดของรายชื่อปฏิทินมือปืนขณะนี้ สามารถจับกุมได้แล้ว 16 ราย  และหลังจากนี้ทางกองปราบเองยังคงเดินหน้าติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับปฏิทินมือปืนเหล่านี้ต่อไปเพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้กับญาติของเหยื่อทุกราย