ปชป.ย้ำค้านซื้อเรือดำน้ำ เหตุยังไม่ทำสัญญาใดๆ
กมธ.งบฯ 64 เลื่อนพิจารณางบเรือดำน้ำเป็น 31 ส.ค. นี้ เรียกอนุกมธ.ครุภัณฑ์ฯ แจง ยังไม่เชิญกองทัพเรือให้ข้อมูลเพิ่ม ด้าน "อันวาร์" เผยเหตุผลมติที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์ คว่ำซื้อเรือดำน้ำ เหตุยังไม่ทำสัญญาใดๆ แนะรัฐบาลจัดลำดับปัญหาสำคัญ
เมื่อวันที่ 28 ส.ค. 2563 นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.รายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 เปิดเผยว่า กมธ.งบประมาณฯได้ข้อสรุปให้เรียกคณะอนุกมธ.ครุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน ที่มีนายสุพล ฟองงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธาน เข้ารายงานผลการพิจารณา ซึ่งรวมถึงงบประมาณในการจัดซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำ วงเงิน 2.25 หมื่นล้านบาท ตามที่กองทัพเรือเสนอ ในวันที่ 31 ส.ค. โดยเบื้องต้น กมธ.งบประมาณฯ ยังไม่มีการเชิญกองทัพเรือมาร่วมพิจารณาด้วย แต่จะเป็นการซักถามถึงผลการพิจารณาในชั้นอนุกมธ.อย่างละเอียดก่อน หากคำชี้แจงของคณะอนุกมธ.ไม่ครบถ้วนรอบด้าน ถึงจะมีการเชิญกองทัพเรือ ในฐานะหน่วยรับงบประมาณเข้ามาชี้แจงต่อกมธ.งบประมาณฯคณะใหญ่อีกครั้งในวันที่ 1 ก.ย. นี้ มั่นใจว่า การพิจารณางบประมาณฯปี 2564 จะเสร็จทันภายในระยะเวลา 105 วัน ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดแน่นอน
ด้าน นายอันวาร์ สาและ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงการจัดซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำ มูลค่า 22,500 ล้านบาท ของกองทัพเรือ ว่า จากกรณีที่มีข่าวให้เลื่อนการพิจารณาการจัดซื้อเรือดำน้ำ ออกไปเป็นวันที่ 31 ส.ค. 2563 ซึ่งในการประชุมเมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ เชิญคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 สัดส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ทั้งหมดมาซักถามถึงรายละเอียดและความจำเป็นในการจัดซื้อ เพื่อเปรียบเทียบความเหมาะสมกับสถานการณ์ของประเทศที่กำลังอยู่ในวิกฤตเศรษฐกิจ ธุรกิจหลายภาคส่วนต้องปิดกิจการ ประชาชนตกงานจำนวนมาก รัฐบาลเกิดปัญหาวิกฤตในเรื่องเงินคงคลัง ต้องขอความเห็นชอบจากสภาฯ ในการกู้เงินจำนวนมหาศาลมาแก้ไขวิกฤตครั้งนี้ อีกทั้งรับทราบข้อมูลว่า ขณะนี้ก็ยังไม่มีการเซ็นสัญญาใดๆ ที่เป็นการผูกมัดอันอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายกับรัฐบาลไทยในกรณีที่จำเป็นต้องยกเลิก หรือชะลอการซื้อในช่วงที่ประเทศยังอยู่ภายใต้วิกฤตขณะนี้ พรรคประชาธิปัตย์จึงมีมติไม่เห็นชอบในการจัดซื้อเรือดำน้ำ
ทั้งนี้ นายอันวาร์ กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นด้วยกับมติพรรค แม้เหตุผลที่กองทัพเรืออ้างภารกิจความมั่นคงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องรับฟัง แต่ความมั่นคงของประเทศมีหลายด้าน ควรต้องลำดับความสำคัญก่อนและหลัง รัฐบาลจึงควรเห็นแก่วิกฤตประเทศก่อน


